รีวิว Wild Things (1998) เกมซ่อนกล
มีโอกาสได้ดู Wild Things หนังดังจากปี 1998 อีกครั้ง เพราะอยู่ในลิสต์หนังร้อนของ Netflix ซึ่งมาย้อนดูตอนนี้อีกที ก็มีหลายอย่างที่ยังสดใหม่อยู่ ทั้งประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศในสถานศึกษา ปัญหาคอรัปชั่นและการใช้อำนาจโดยมิชอบของตำรวจ และปัญหาความเลื่อมล้ำในสังคมทุกแห่งหน แล้วความเหวอของการหักมุมแล้วหักมุมอีกก็ยังเพลิดเพลินอยู่ แม้ว่าเราจะจำอะไรหลายๆ อย่างได้ดีก็ตาม
เรื่องอื้อฉาวเริ่มขึ้นเมื่อ Kelly นักเรียนสาวลูกคุณหนูมาแจ้งความว่าเธอถูกคุณครูหนุ่มสุดหล่อประจำโรงเรียนข่มขืน แม้ว่าจะมีความกังขาเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่มันก็ทำลายชื่อเสียงของครูหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง Suzie นักเรียนสาวกร้านโลกและทำตัวเหมือนมีปัญหากับคนทั้งโลกออกมายืนยันอีกคนว่า เธอก็เคยถูกครูหนุ่มคนนี้ข่มขืนด้วยเหมือนกัน สองเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จึงต้องเดินหน้าสืบต่อ แต่เรื่องมันก็ยิ่งพลิกผันมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนดูอย่างเรานั่งกันไม่ติดเบาะ! (เล่าเยอะกว่านี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวดูไม่สนุก)
ความฮือฮาของ Wild Things เมื่อคราวออกฉายในปี 1998 ก็คือ ฉากเซ็กส์สุดเร่าร้อนแบบทรีซัมของตัวละครสองสาวและหนึ่งหนุ่ม และฉากเลิฟซีนจูบดูดดื่มระหว่างสองสาว ซึ่งได้นักแสดงสุดฮอต (ในยุคนั้น) อย่าง Denise Richards และ Neve Campbell ที่โด่งดังจาก Scream มารับบท เกร็ดเล็กน้อยที่อยากเล่าก็คือ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ถึงจะเป็นเลิฟซีนดุเดือด แต่ตัวละคร Suzie ของ Neve Campbell นั้นไม่เคยเปลือยเลย ไม่แม้กระทั่งถอดเสื้อกล้ามออก! นั่นเพราะเธอเซ็นสัญญาไว้ตั้งแต่แรกว่า เธอยินดีเล่นเลิฟซีน แต่เธอจะไม่ถอดเสื้อเปลือยให้เห็นหน้าอกเด็ดขาด!
โรงเรียนแห่งหนึ่งต้องเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้น เมื่อ เคลลี่ สาวน้อยลูกคุณหนูได้ออกมาแจ้งความว่า เธอถูก ลอมบาร์โด ครูหนุ่มสุดเซ็กซี่ที่เป็นที่หมายปองของสาวๆ นั้น ทำการข่มขืนเธอ ซึ่งในระหว่างตำรวจสืบสวนอยู่นั้น ก็พบความไม่ชอบมาพากลมากมาย แต่เท่านั้นไม่พอ เมื่อซูซี่ สาวสายเปรี้ยวที่ชอบสร้างปัญหา ก็ยังออกมายืนยันอีกเสียงว่าเคยถูกครูคนนี้ข่มขืนอีกเหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่เองก็เริ่มมืดแปดด้าน เพราะหลักฐานและเรื่องราวต่างๆ นั้นช่างไม่สอดคล้องกัน จนยิ่งสืบไปเท่าไร ก็ยิ่งเจออะไรที่มันพลิกผันมากขึ้นเกินกว่าจะคาดเดาได้
สำหรับ Wild Things นั้น อันดับแรกเลยน่าจะเหมาะกับ คนที่ชอบดาราสาวสุดฮอตในยุคนั้นอย่าง Denise Richards และ Neve Campbell เพราะเรื่องนี้เสน่ห์ของสองคนที่คือเหลือล้น จนทำลายสมาธิคนดูแตกซ่านในการคาดเดาเนื้อเรื่องของหนังไปเลย รวมถึงคนที่ชอบหนังที่เนื้อเรื่องมากๆ ก็จะชอบในการหักมุมไปมาหน้างอคอหงายของหนังเรื่องนี้ ที่เดายังไง ก็เดากันไม่ถูกแน่ๆ (หรือถ้าเดาได้ก็ไม่ครบทั้งหมดอะ) ซึ่งหนังแนวๆ อีโรติก จิตๆ แบบนี้ ถ้าใครชอบ Cruel Intentions หรือ Basic Instinct แล้ว เรื่องนี้ก็ต้องมาล่ะ
หนังเล็กๆ อีกเรื่องที่ยังอยู่ในความทรงจำมาถึงทุกวันนี้ ด้วยความดีงามของมันทั้งการเล่าเรื่องจากจุดเริ่มต้นเล็กที่ว่าตัวละครหนึ่งถูกข่มขืน แต่กลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ ที่คำตอบไม่ได้จบแค่ที่ว่า พวกเธอนั้นโดนข่มขืนจริงๆ หรือไม่ แต่มันกลับไปไกลได้อีกเรื่อยๆ จนจากที่พยายามจะเดาก็ต้องเลิกเดา และสนุกไปกับสิ่งที่หนังจะพาเราไปดีกว่า ซึ่งมันก็สนุกได้ในแบบนั้นจริงๆ เพราะในทุกครั้งที่หนังพาเราพลิกล็อคออกจากจุดเดิมที่เราเข้าใจนั้นไปเป็นอีกจุด ก็สร้างความชวนเหวอให้กับคนดูได้อยู่เสมอตลอดทั้งเรื่อง
รีวิว Wild Things (1998) เกมซ่อนกล
แต่แม้ว่า Wild Things จะดูเป็นลักษณะของหนังเล็กๆ ที่ดูทุนต่ำ แต่ดาราในเรื่องนั้นนับว่าเป็นตัวท้อปของยุคนั้นๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Denise Richards ซุปตาร์สาวสุดเซ็กซี่แห่งยุค, Neve Campbell แห่งตำนานหวีดที่เล่น Scream มาทุกภาค หรือแม้แต่ Matt Dillon หรือ Kevin Bacon
ก็เป็นดาราที่มีหนังหลายเรื่องในยุคนั้นทั้งคู่ และทุกคนก็สร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี จนมีฉากเลิฟซีนที่เซ็กซี่ ดุเดือด น่าจดจำอีกฉาก จนสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในโลกภาพยนตร์ที่ออกฉายในปีนั้น (ถ้าบอกมากกว่านี้ก็คงสปอยล์) และยังคงเป็นฉากเลิฟซีนในตำนานใครๆ หลายคนอยู่แน่นอน
ในแง่ของเนื้อหาก็ถือว่าสะท้อนมาได้หลากหลายประเด็น อย่างพวกปัญหาในบ้านเมืองพวกการทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ เรื่อง Sexual harassment เกิดขึ้นในสถานศึกษา ก็ทำให้หนังพ้นจากความกลวงได้อยู่ไม่น้อย จนน่าแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ตัวหนังไม่ได้โดดเด่นขึ้นมา หรือมีคะแนนสูงในพวกเว็บวิจารณ์อย่างใครเขา
ทั้งๆ ที่มันเป็นอีกหนึ่งหนังสับขาหลอกตำนานที่น่าจดจำมากๆ เลยทีเดียว จนอยากให้ใครที่กำลังมองหาหนังที่ขายตัวบท หรือความแปลกใหม่จากการสับขาหลอกให้หัวหมุนกันแล้ว Wild Thing คือหนังอีกเรื่องที่อยากแนะนำกันแบบสุดๆ (ที่จริงหนังมีภาคต่อแบบอัดลงแผ่นมาเลยด้วย แต่ด้วยคุณภาพแล้วสู้ภาคแรกไม่ได้เลยสักด้าน)
ความรู้สึกหลังดู
แซม ลอมบาร์โด (Matt Dillon) อาจารย์รูปหล่อคนหนึ่งถูกฟ้องโดยนักเรียนสาวนาม เคลลี่ แวน ไรอัน (Denise Richards) ว่าเขาเป็นผู้ข่มขืนเธอ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเกมการหลอกลวงที่สุดจะซับซ้อน … นั่นคือเนื้อเรื่องครับ
จำได้มั้ยครับ ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย หนังมันฉายปี 41 ไอ้พวกที่รุ่นเดียวกับผมหรือรุ่นไล่ๆ กันนั้นน่าจะจำได้ดี เพราะหนังมันได้เข้าโรงและมีเสียงฮือฮากันเป็นการใหญ่ถึงฉากร้อนๆ ของน้องหนู Denise Richards อันทำให้เราๆ ท่านๆ พุ่งถลาเข้าโรงหนังกันแทบไม่ทัน
แล้วเป็นไงล่ะ ฮ่าๆๆๆ เจอยาหม่องกันถ้วนหน้าถ้วนตากันเลยทีเดียว คือยุคนั้นเวลาหนังมีฉากโป๊ๆ ในโรงก็จะมีการทำภาพเบลอๆ ครับ บางคนเรียกหมอกลง (ดังนั้นลองจินตนาการดูครับว่าหนังอย่าง Showgirl น่ะจะเป็นอย่างไร คนที่ไปดูบ่นให้ผมฟังกันพรึ่บว่า “กูจะเสียตังค์ไปดูพยากรณ์อากาศทำไมวะ แม่งหนังมีแต่หมอก กูนึกว่าโรงแม่งไฟไหม้”) ส่วนผมเรียกยาหม่องครับ เพราะเจอมันทีไรความรู้สึกแสบซ่านมันจะพล่านพุ่งเข้ามาในดวงจิตทุกที!
ครับ ส่วนตัวหนังก็โอเคครับ มันก็ล่อหลอกคนดูได้ดีพอสมควร และความน่าติดตามก็นับว่าโอเค เพราะดาราส่วนมากเล่นได้ดี ทั้ง Matt Dillon, Kevin Bacon และแน่นอน เหนืออื่นใดก็ต้องเป็น Denise Richards ครับ ทั้งเรื่องเธอร้าย แสบ Sexy แบบสุดๆ ทำเอาคนดูหนุ่มๆ สะใจกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะพวกเพื่อนๆ ร่วมบ้าของผม … ยังไงน่ะเหรอฮะ
ก็ตอนนั้นหนัง ฉายหลังจาก Starship Troopers ซึ่ง Denise เธอก็เล่นเหมือนกันครับ แต่เรื่องนั้นเธอแต่งตัวมิดชิด มิดครับ มิดแบบมิดเลยอ้ะ แล้วจู่ๆ พวกผมก็นึกบ้าอะไรไม่ทราบ มานั่งถกเถียงเรื่องนี้กันจนในที่สุดลงความเห็นกันว่า “เรื่องหน้า เชื่อดิ Denise คงจะโชว์แบบสุดๆ แน่” ตอนนั้นก็ไม่รู้ใช้อะไรเดากันล่ะครับ ก็คิดประมาณว่าเรื่องนี้มิดชิด แต่เธอน่ารักและมีเสน่ห์ไงครับ จึงคาดว่าเรื่องต่อไปผู้สร้างทุ่มทุนแน่ๆ … แล้วมันก็จริง … พวกผมก็ เยส!
ผมจะออกนอกหน้าไปหน่อยนะครับ แต่ถามจริงเหอะ ส่วนมากเขาเช่าไปดูอะไรกันล่ะฮะ โธ่ ไม่ต้องมาอ้อมค้อมหรอก ถ้าพูดถึง “เรื่องที่คุณก็รู้ว่าฉากไหน” น่ะ มันก็โอเคเลยครับ ผมว่าคุ้ม และสำหรับบางคนมันดูแค่นี้ครับ จำได้ ตอนนั้นถามพวกว่าไปดูมาแล้วเนื้อเรื่องเป็นไง มันตอบอยู่แค่สั้นๆ “Denise นะ มรึงเอ้ย” … และพอได้ยินประโยคนี้ผมก็ไปดูกับพวกมันอีกทีตามระเบียบ
พูดถึงเรื่องหนัง ก็โอเคครับ เดินเรื่องนับว่าดี การเฉลยปมแม้จะไม่ได้ยอดอะไรนัก แต่ก็ไม่เลวครับ พวกมุมกล้องต่างๆ นับว่าจัดมาได้ดีทีเดียว คือถ้าจะบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำมาเพื่ออะไรอย่างนั้นเพียงอย่างเดียวน่ะ มันไม่ใช่หรอกครับ ปมก็ดี นักแสดงก็ดีเหมือนกัน ดูเอาเนื้อเรื่องผมว่าก็คุ้มในระดับหนึ่งครับ
สรุปว่าถ้าชอบหนังแนวซ่อนปม สืบสวน ก็น่าสนใจครับ …
ส่วนประเด็นอื่นก็ใช้คำว่า … ต้องดูครับ
