รีวิว Lightyear
สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง รีวิว Lightyear ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้นะ “Lightyear” ก็ยังไม่ใช่เรื่องราวต้นกำเนิดของของเล่น Buzz Lightyear จากซีรี่ส์ “Toy Story” ของ Pixar เป็นเรื่องราวที่มาของเหตุผลที่ของเล่น Buzz Lightyear มาบรรจบกันในห้องนอนของ Andy คุณเห็นไหมว่า Andy’s Mom ซื้อของเล่น Buzz Lightyear เมื่อปี 1995
เพราะเขาคือตัวละครหลักในภาพยนตร์เรื่องโปรดของ Andy “นี่คือหนังเรื่องนั้น” การ์ดไตเติ้ลบอกเราก่อนจะพาเราไปชมแอนิเมชั่นสเปซโอเปร่าที่นำแสดงโดยคริส อีแวนส์ ในบทบัซ ระหว่างทาง เราจะได้พบกับ Evil Emperor Zurg และเรียนรู้ว่าคำพูดติดปากที่ผู้คนพูดถึงมาตลอด 27 ปีที่ผ่านมามีต้นกำเนิดมาจากที่ใด ต้องดู
ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ ถ้าหากหนังเรื่องไหนในวัยเด็กที่มีอิทธิพลกับเรามาก มักมันจะกลายมาเป็นส่วนประกอบเล็ก ๆ ในตัวตนของเราเสมอ และจากส่วนตัวที่พาร์ทนึงในวัยเด็กมักจะมีความทรงจำจากหนังแอนิเมชันอยู่ในนั้น แอนิเมชันแบบ Toy Story จึงมักจะถูกนึกถึงเป็นเรื่องแรก ๆ
และหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นอย่าง บัซ ไลท์เยียร์ พร้อมกับวรรคทองอย่าง “สู่ความเวิ้งว้าง อันไกลโพ้น” ก็เป็นหนึ่งในภาพจำของหนังเรื่องนั้น
ซึ่งตัดภาพกลับมาที่ปัจจุบัน Pixar ตัดสินใจนำเอาตัวละครนี้ มาสร้างเป็นแอนิเมชันภาคแยก โดยนำเสนอเอาตัวละครนักบินอวกาศสเปซเรนเจอร์มาเป็นตัวหลัก ในชื่อหนังอย่าง Lightyear
ซึ่ง บัซ ไลท์เยียร์ (Buzz Lightyear) ชื่อนี้ก็เป็นตัวละครที่เรารู้จักกันมาอย่างยาวนาน เขาปรากฏตัวครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Toy Story (1995)’ ในฐานะตุ๊กตา Space Ranger ของ แอนดี เดวิส (Andy Davis) หลังจากหนังฉาย บัซ ไลท์เยียร์ ก็เข้าไปครองใจผู้ชมจนกลายเป็นหนึ่งในไอคอนนิกของ Pixar ไปเรียบร้อย สามารถดูการ์ตูนใหม่ๆ
ซึ่งเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ที่คนดูได้รู้จักกับ บัซ ไลท์เยียร์ ผ่านวันเวลาอันแสนสนุก ระทึกขวัญและเสียน้ำตา จนเขากลายมาเป็นหนึ่งในความทรงจำอันล้ำค่าของใครหลายคน และแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ Space Ranger ผู้นี้จะกลับมาโลดแล่นเพื่อสร้างตำนานใหม่อีกครั้ง
และเพิ่มเติมเกี่ยวกับแมวคิตตี้ในภายหลัง “ไลท์เยียร์” เริ่มต้นด้วยภารกิจพิเศษสำหรับหน่วยลาดตระเวนอวกาศ Buzz ร่วมมือกับ Alisha Hawthorne (Uzo Aduba) เพื่อนสนิทของเขา พวกเขาแบ่งปันเรื่องตลกและความทรงจำของภารกิจที่ผ่านมา ฮอว์ธอร์นเป็นผู้หญิงผิวสี สิ่งที่คุณไม่ค่อยได้เห็นในภาพยนตร์อวกาศ ทั้งๆ ที่พวกเขาทำเพื่อ NASA
ในเรื่อง “Hidden Figures” เธอล้อเลียนความชอบของ Buzz ในเรื่อง “การพูดคนเดียว”
นั่นคือการบันทึกการเข้าสู่ระบบของกัปตันที่เหมือนแชทเนอร์ลงในอุปกรณ์นั้นบนแขนของเขา ก่อนการผจญภัยแต่ละครั้ง ทั้งคู่จะแตะนิ้วและตะโกนว่า “ไม่มีที่สิ้นสุดและเหนือกว่า!” ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นสโลแกนของหนังเรื่องนี้เมื่อแอนดี้เห็นมัน ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้ผลิต “Lightyear” สามารถฟ้องผู้สร้าง “Toy Story” ฐานขโมยได้
รีวิว Lightyear
แต่ฉันพูดนอกเรื่อง บัซ ไลท์เยียร์ ตัวละครในภาพยนตร์ มีใจชอบที่จะดื้อรั้นและเดินตามเส้นทางที่ของเล่นของเขาทำ สิ่งนี้ทำให้เขามีปัญหามากมายเมื่อเขาละเลยคำแนะนำของทั้งทีมและ I.V.A.N. (แมรี่ แมคโดนัลด์-ลูอิส). เรือรูปทรงหัวผักกาดที่เขาบินได้ชนกัน ทำให้ทุกคนบนดาวเคราะห์ดวงนี้เต็มไปด้วยเถาวัลย์และแมลงนักฆ่า Buzz ที่รู้สึกผิดทำให้ภารกิจของเขาคือการค้นพบแหล่งพลังงานที่จะช่วยให้พวกเขาบรรลุไฮเปอร์สเปซและออกจากโลก
ข้อความของ Hawthorne ถูกส่งไปยัง Buzz โดยลูกสาวของเธอ Izzy (Keke Palmer) เธออาศัยอยู่ในดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาซ้ำครั้งล่าสุด ซึ่งเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ที่เป็นศัตรูซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของยานอวกาศ “เซิร์ก” ที่น่าสงสัย Buzz เห็นภาพใหม่ในการพาทุกคนออกจากโลก น่าเสียดายที่เขาอยู่กับผู้บัญชาการเบิร์นไซด์ (ไอเซียห์ วิทล็อค จูเนียร์) ทหารที่เคยวิ่งหนี
และต้องเอาหัวผักกาดไปกลับโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ อิซซี่เสนอตัวเพื่อช่วยเหลือและเป็นอาสาสมัครให้กับทีมมือสมัครเล่นของเธอ ดาร์บี้ สตีล อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด/ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิด (เดล โซลส์) และโม มอร์ริสัน (ไทก้า ไวทีที) ความสามารถของหน่วยลาดตระเวนอวกาศของพวกเขาได้รับการอธิบายได้ดีที่สุดจากวลีที่หยาบคายของ Whitlock ในหัวข้อ “The Wire” มอร์ริสันเลวมากและทำให้เกิดปัญหามากมายจนทำให้เขาจัดการให้บัซหัวหมูดูสมเหตุสมผล
แน่นอนว่าฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ทุกคนต้องการคู่หูที่ยอดเยี่ยม “Lightyear” นำเสนอ Sox (Peter Sohn) แมวน่ารักที่มีหน้าที่ให้การสนับสนุนทางอารมณ์แก่ Buzz Sox พูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย เป็นการข้ามระหว่าง Baymax กับ HAL ของ “Big Hero 6” และจะส่งเสียงฟี้อย่างแมวถ้าคุณเกาท้องของเขา เขาเก่งเรื่องการคำนวณเป็นพิเศษและบางครั้งก็ส่งเสียงที่ดูเหมือน “บี๊บ บี๊บ บี๊บ!” เช่นเดียวกับแมวทุกตัว Sox เต็มไปด้วยความประหลาดใจทั้งเฮฮาและเป็นลางร้าย หากแผนของ Pixar คือการสร้างตัวละครที่มีของเล่นลอยอยู่บนชั้นวาง
และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ เขามีฉากหนึ่งในภาพยนตร์ คุณจะรู้เมื่อเห็น ที่เรียกเสียงหอบของความตื่นตระหนกในโรงภาพยนตร์ ฉันไม่ใช่คนชอบแมว แต่ฉันยืนกรานอย่างหนักเพื่อ Sox ที่ฉันต้องการ คุณกำลังเยาะเย้ยฉันใช่ไหม
ความรู้สึกหลังดู
ไม่เป็นไร ในส่วนของสปินออฟ “Lightyear” นั้นสนุกมาก พรสวรรค์ด้านเสียงเป็นอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะพาลเมอร์และอีแวนส์ พวกเขามีรองเท้าขนาดใหญ่ให้เติม พาลเมอร์ต้องสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ Aduba สร้างขึ้น และอีแวนส์ต้องให้ Buzz Lightyear ที่ใกล้เคียงกับลักษณะของทิม อัลเลนมากพอที่จะทำให้เราเชื่อในของเล่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ Sohn เป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ
หนังเรื่องนี้บอกได้เลยว่า ไซไฟ แอ็กชัน ผจญภัย บวกดราม่านิด ๆ เป็นหนังสูตรสำเร็จที่ให้ความบันเทิงครบรสในแบบ Pixar มีทั้งความสุนก ตื่นเต้น ตลก และอบอุ่นซาบซึ้งกินใจกับมิตรภาพของตัวละคร ชะนีอ้วนเพิ่งเคยเห็นผมของบัซ ไลท์เยียร์ครั้งแรกก็จากเรื่องนี้และการใส่ชุดอื่นนอกจากชุดนักบินอวกาศทำให้รู้ว่าจริง ๆ ไลท์เยียร์ก็หล่อเท่ไม่เบาเลยนะ ดูหนังการ์ตูน แบบไม่มีสะดุด
ซึ่งในตัวหนังมีข้อคิดสะกิดต่อมผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ไม่ใช่แค่ความบันเทิงแต่แทรกประเด็นความเท่าเทียมและเคารพความหลากหลายทางเพศเข้ามาด้วย สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังคือการทำงานเป็นทีม และการรู้จักให้อภัยตัวเองคนเราสามารถผิดพลาดได้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดยิ่งเราเป็นคนทำงาน เพราะลงมือทำจึงมีโอกาสพลาด
และต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดพลาดนั้นพร้อมกับโอบกอดตัวเองให้อภัยตัวเองอย่าจมอยู่กับมัน และบทหนังยังเล่นเรื่องการเป็นคนเก่งมีความอีโก้สูง และเมื่อเราสามารถก้าวข้ามอีโก้ของตัวเองได้มันมีผลดีอย่างไร ข้อคิดเหล่านี้ที่สัมผัสและตีความได้จากตัวหนังทำให้ชะนีอ้วนประทับใจมากเพราะฟังดูเป็นเรื่องยากมากที่จะนำเสนอให้สนุกและเข้าใจง่ายแต่หนังเรื่อง Lightyear บัซ ไลท์เยียร์ ทำได้อย่างดีเยี่ยม
ซึ่ง Lightyear เป็นภาคแยกจากแฟรนไชส์ Toy Story และภาพยนตร์ภายในภาพยนตร์ เนื่องจากข้อความแนะนำเป็นภาพยนตร์ที่ส่งผลให้ Andy ได้หุ่น Buzz Lightyear ของเขา ในเรื่องนี้ Buzz Lightyear ทดสอบไฮเปอร์เชื้อเพลิงใหม่สำหรับ Star Command ที่จะพาเขาไปสู่อนาคต 84 ปี ที่ซึ่งอาณานิคมบน T’Kani Prime ถูก Zurg ผู้ชั่วร้ายเข้าครอบงำ ทำให้เขาต้องจ้างทีมที่ไม่เหมาะสมเพื่อต่อสู้กลับ
สรุปว่าสิ่งที่ทำให้รู้สึกเลยจริง ๆ หลังดูจบ ก็บอกได้เลยว่า แอนิเมชันที่นำเอาตัวละครจากแฟรนไชส์อันเป็นที่รัก มานำเสนอในรูปแบบหนังไซไฟยุค 2000 มีฉากแอ็คชั่นแทรกประปราย หยอดมุกตามขนบพิกซาร์ ชุดตัวละครขโมยซีน งานภาพน่าตื่นตา มาพร้อมครึ่งแรกที่ทะเยอทะยานน่าดูชม แต่ก็สูญเสียพลังไปในครึ่งหลังและกลายมาเป็นหนังตามสูตรไซไฟเชย ๆ แต่ก็เป็นความบันเทิงที่สนุกตามมาตรฐาน
ซึ่งพอได้ดูแค่ตัวอย่าง โดยไม่คำนึงถึงจุดยืนทางการเมืองของคุณและการโต้เถียงใดๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ “ข้อความ” ที่น่าเบื่อและเขียนทับที่สุดเท่าที่เคยสร้างมาในฮอลลีวูด ฉันรู้สึกเสียใจสำหรับเด็กที่ยากจนที่พ่อแม่พาพวกเขามาที่การออกกำลังกายที่น่าเบื่อนี้เพื่อคว้าเงิน
และ Buzz และลูกเรือที่ไร้ความสามารถของเขากำลังออกไปทำภารกิจที่เห็นได้ชัดว่ารู้สึกดีกับตัวเองมากกว่าทำภารกิจให้สำเร็จ บทสนทนาที่ตรงประเด็นมากมายเน้นว่า ไม่เพียงแต่คุณควรยอมรับคนในสิ่งที่พวกเขาเป็น คุณไม่ควรแม้แต่ขอให้พวกเขาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อประสบความสำเร็จ มีแมวหุ่นยนต์น่ารักขายของเล่น นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องรู้
หลังจากที่ภาพยนตร์ Pixar จำนวนหนึ่งถูกทิ้งลงใน Disney+ มีคนตัดสินใจนำคนบ้าๆ นี้เข้าโรงฉาย และฉันเห็นมันเพียงเพราะฉันเป็นส่วนหนึ่งของชมรมผู้ดูภาพยนตร์ของโรงละครอยู่ดี แสดงให้ลูก ๆ ของคุณเห็นความมหัศจรรย์ของภาพยนตร์ Toy Story ตัวจริงและข้ามภาพยนตร์เหล่านี้ไป ศพของ Walt Disney Company กำลังคืบคลานออกมา
