รีวิว Top Gun Maverick (2022)
สวัสดีจ้าวันนนี้แอดจะมารีวิวหนังใหม่ล่าสุดของ ป๋าทอม ครูซ ในเรื่อง Top Gun Maverick (2022) ท็อปกัน มาเวอริค หากจะให้รางวัลความทรหดอดทนกับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องไหนคงหนีไม่พ้น ‘Top Gun : Maverick’ ที่ผ่านการตีลังกาหกสูง ทำวิถีโค้งต้านแรงโน้มถ่วงเพื่อรอโอกาสเหมาะ ๆ หลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19
เพื่อเข้าฉายให้ผู้ชมพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของหนังภาคต่อที่ทิ้งห่างมาถึง 36 ปี ท่ามกลางข้อครหามากมายโดยเฉพาะความน่าหวาดหวั่นที่ว่าหนังแอ็กชันที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนเพศชายแบบหนังยุค 80s จะยังมีที่ทางในตลาดหนังที่ถูกครองด้วยซูเปอร์ฮีโรหุ่นซิกซ์แพ็กและเอวเอสอยู่หรือไม่ ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่ยากพอ ๆ กับเหล่านักบินที่ต้องผ่านสนามฝึกสุดโหดกลางเวหาเลยทีเดียว
เว็บไซต์ Deadline ได้รายงานว่า ‘Top Gun: Maverick’ ทำรายได้รอบพรีวิวในคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม 2022 ที่สหรัฐฯ ไปมหาศาลถึง 19.3 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 660 ล้านบาท
นี่ถือได้ว่าเป็นรายได้คืนเปิดตัวที่สูงสุดตลอดกาลของ Paramount Pictures และเป็นสถิติดีที่สุดของ ทอม ครูซ (Tom Cruise) ในขณะนี้ด้วย
‘Top Gun: Maverick’ เป็นภาคต่อของ ‘Top Gun’ เมื่อปี 1986 ของผู้กำกับ โทนี สก็อตต์ (Tony Scott) ซึ่งได้รับการพัฒนามาอย่างยาวนานหลายปี โดยเล่าเรื่องของผู้กอง Pete “Maverick” Mitchell (รับบทโดย ทอม ครูซ) ที่กลับมาเป็นครูฝึกในโครงการฝึกนักบินขับไล่ที่เรียกว่า Top Gun ของราชนาวีสหรัฐฯ เพื่อฝึกสอนนักบินรุ่นใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้หมวด Bradley “Rooster” Bradshaw (รับบทโดย ไมลส์ เทลเลอร์) ลูกชายของ Nick “Goose” Bradshaw (รับบทโดย แอนโทนี เอ็ดเวิร์ดส์) เพื่อสนิทของ Maverick ที่เสียชีวิตไประหว่างที่ทั้ง 2 คน เข้าร่วมโครงการ Top Gun ครั้งแรก
ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์ที่ทำรายได้คืนเปิดตัวสูงสุดของ Paramount Pictures ก็คือ ‘Transformers: Revenge of the Fallen’ (2009) ที่ทำไว้ 16 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 540 ล้านบาท ส่วนภาพยนตร์ที่ทำรายได้คืนเปิดตัวสูงสุดของครูซก่อนหน้านี้คือ ‘Mission: Impossilble – Fallout’ (2018) ที่ทำไว้ 6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์ว่า ‘Top Gun: Maverick’ จะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกซึ่งตรงกับวัน Memorial Day ของสหรัฐฯ ไปกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,400 ล้านบาท จากทุนสร้าง 154 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,200 ล้านบาท
ขนานมากับช่วงเวลาที่หนังภาคต่อเรื่องนี้ทิ้งห่างมา ในวันนี้พีท ‘มาเวอร์ริก’ มิตเชล (รับบทโดย ทอม ครูซ Tom Cruise) ยังคงจมปลักกับภาพอดีตอันแสนเลวร้ายที่ต้องเห็นเพื่อนร่วมบินอย่าง กู๊ส ตายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อ 36 ปีก่อน และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อชะตาได้พามาเวอร์ริกมาเผชิญหน้ากับ แบรดลีย์ ‘รูสเตอร์’ แบรดชอว์ (รับบทโดย ไมล์ส เทลเลอร์) ลูกชายของกู๊สที่เข้ามายังท็อปกันเพื่อคัดเลือกเป็นนักบินในภารกิจเสี่ยงตายทำลายฐานผลิตอาวุธนิวเคลียร์มหาประลัย
หากชำแหละบทหนังของ ‘Top Gun : Maverick’ ในฉบับใหม่ของผู้กำกับ โจเซฟ โคซินสกี (Joseph Kosinski) ออกมาจริง ๆ มันก็คือพิมพ์เขียวของหนัง ‘Top Gun’ เมื่อ 36 ปีก่อนแทบไม่มีผิดเพี้ยน หลายอย่างที่หนังฉบับ โทนี สก็อตต์ (Tony Scott) ได้ทิ้งมรดกอันมีค่าไว้ตั้งแต่ไตเติลเปิดเรื่องที่กล่าวถึงโรงเรียนท็อป กัน ที่จบด้วยโลโก้ของหนัง ฉากแอ็กชันผาดโผน ความเป็นฮีโรโรแมนติกของมาเวอร์ริกผ่านซีนขี่บิ๊กไบค์ไล่ไปกับฉากหลังที่เอฟ 18 กำลังพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า ไปจนถึงเรื่องราวโรแเมนซ์ของมาเวอร์ริกที่ยังอุตส่าห์ไปขุดอดีตคนรักของเขาที่ถูกกล่าวถึงในบาร์ของหนังภาคแรกมาสานต่อเป็นตัวละครของ เจนนิเฟอร์ คอร์เนลลี (Jennifer Cornelly)
แต่ช้าก่อน ! หากจะคิดว่านี่คือหนังก็อปปี้ลอกลายของหนังภาคแรกล่ะก็..บอกเลยว่าคิดผิดครับ เพราะเอาจริง ๆ บทหนังฉบับของทีม คริสโตเฟอร์ แม็กควอร์รี (Christopher McQuarrie) ได้จัดการปัดฝุ่นเอาเฉพาะส่วนที่เป็นไอคอนมาใช้ เราจึงยังเห็นฉากเปิดเรื่องคลาสสิกหรือกระทั่งฉากวอลเลย์บอลชายหาดโชว์กล้ามมาเรียกแขกบรรดาสาว ๆ
เหมือนหนังภาคแรกแต่ลดดีกรีความโบรแมนซ์ที่เคยเกาะกับหนังมาจากตัวละครมาเวอร์ริกกับไอซ์แมนลงเหลือแค่ความใจ เ ก เ ร เล็กน้อยผ่านการแข่งขันของ รูสเตอร์ และ แฮงค์แมน (รับบทโดย เกลน โพเวลล์ Glen Powell) ที่ยังให้ภาพมิตรภาพลูกผู้ชายดูหนักแน่นควบคู่ไปกับปมดรามาสุดเข้มข้นระหว่างมาเวอร์ริกและรูสเตอร์ที่ดูจะเป็นหัวใจและอุปสรรคสำคัญที่หนังใช้ผลักกราฟของหนังให้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่อง
เรียกได้ว่าแม็กควอร์รีและโคซินสกียังคงเก็บตกความประทับใจจากแฟนหนังภาคแรกได้ทุกเม็ด แม้กระทั่งการปรากฎตัวของตัวละครไอซ์แมนที่แสดงโดย วัล คิลเมอร์ (Val Kilmer) ก็ยังทำให้ภาพวันวานยังหวานอยู่ปรากฎแจ่มชัดในใจผู้ชมได้ และในขณะเดียวกันหนังก็ยังเอาใจคนรุ่นใหม่ด้วยจังหวะหนังที่อัดอดรีนาลีนมากขึ้น
ตัดต่อฉึบฉับมากขึ้นโดยยังคงความงามแบบเวอร์ ๆ ของเครื่องบินรบขับไล่ที่เริงระบำกลางเวหาแบบหนังภาคแรกไว้ได้ด้วยไอเดียสุดระห่ำของ เคลาดิโอ มิแรนดา (Claudio Miranda) ผู้กำกับภาพของหนังที่มัดกล้อง ‘Sony Venice’ 6 ตัวไว้ในห้องนักบินที่ให้ภาพสุดตื่นตาตื่นใจยากจะหาหนังเรื่องไหนถ่ายทอดความตื่นเต้นของการบินขับไล่ได้เท่าหนังเรื่องนี้อีกแล้ว
รีวิว Top Gun Maverick (2022)
เรื่องราวของ Top Gun : Maverick 2022 เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ Pete Maverick Mitchell (Tom Cruise) ซึ่งเป็นนักบินของกองทัพ ระดับแนวหน้า ต้องหวนคืนสู่สมรภูมิในการกลับมาเป็นนักบินทดสอบ และเป็นครูฝึกให้กับหน่วย ท็อปกัน สำหรับภารกิจพิเศษ ที่ยังไม่เคยมีนักบินคนไหนเคยเห็นมาก่อน
นอกจากนี้ Pete ยังต้องเผชิญกับอีกหนึ่งปมค้างคาใจอย่าง เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ (ไมล์ เทลเลอร์) หรือ “รูสเตอร์” ซึ่งเป็นลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ Goose “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว จากภาคก่อน
ภารกิจใหม่ในครั้งนี้ Pete จะต้องเผชิญหน้ากับอีตที่ตามหลอกหลอน และอนาคตที่ไม่แน่นอน ว่าเขาจะปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีไหม หรือเขาจะทำผิดพลาดเหมือนเมื่อครั้งอดีตที่ผ่านมา
แถมในภาคนี้ยังมาพร้อมกับฉาก Dog Flight แอคชั่นกลางเวหาสุดยิ่งใหญ่ตระการตาสมกับการรอคอยมานานกว่า 36 ปี
เช็กเรื่องต้องรู้ เบื้องหลังการถ่ายทำ ก่อนรับชม Top Gun Maverick 2022
นักแสดงอย่าง ทอม ครูซ ขึ้นชื่อว่าต้องลงไปแสดงในหนังของเขาเองเกือบจะทุกเรื่อง แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ Top Gun : Maverick 2022 ที่เจ้าตัว ขึ้นไปถ่ายทำบนเครื่องบินจริง ๆ แต่ให้ทหารนักบินเป็นคนขับให้ และใช้ฉาก CG ที่น้อย มาก ๆ นอกจากนี้ ยังมีปมในใจของ Maverick ที่เขายังคงโทษตัวเองว่า
เป็นสาเหตุที่ทำให้ Goose เพื่อนรักของเขา คอหักเสียชีวิต ระหว่างทำการฝึกซ้อมใน Top Gun 1 และสุดท้าย ชื่อของ Maverick เป็นแค่สัญลักษณ์ชื่อในวงการ โดยชื่อที่แท้จริงของเขา คือ กับตัน พีท มิตเชลล์
ความรู้สึกหลังดู
สมกับที่เฝ้ารอคอยมานานถึง 36 ปี กับการกลับมาของ Top Gun : Maverick 2022 บอกเลยว่าฉากแอคชั่น ต่อสู้กลางอากาศ ทำได้เหมือนจริง แถมใช้ CG น้อยมาก
นักแสดงขึ้นเครื่องเอง แต่มีนักบินทหารเป็นคนขับให้ และเป็นการปิดตำนาน และปมใน Top Gun 1 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนฉากต่อสู้ก็คือ ให้สิบเต็มสิบ ไม่มีหัก นั่งลุ้นตัวเกร็งตลอดทั้งฉากต่อสู้
ก่อนไปดูบอกเลยว่าเรื่องนี้เหมาะที่จะดูกับทุกคนในครอบครัว
วัยรุ่นยุค 80’s 90’s ก็น่าจะคิดถึงภาคจบของหนังเรื่องนี้
ซึ่งเป็น Pop culture ยุค 80’s ว่าตำนานของฟ้าเหนือฟ้า
จะจบลงอย่างไร
ดูจบแล้วปรบมือลั่นโรง อยากร้องตะโกนว่า โคตรเท่เลย สนุก มันมาก ลุ้นเกร็งตามโคตรๆกับฉากขับเครื่องบินตั้งแต่ 10 นาทีแรก
ภาพสวยโคตร หลายฉากซ้อนทับภาคแรก เมื่อ 36 ปีก่อน
เช่น ฉากพระเอก ขี่มอเตอร์ไซค์ Kawasaki Ninja H2
ไปตามรันเวย์สนามบิน พร้อมเสื้อแจ็คเก็ตทหารบอมเบอร์และแว่น Ray ban ที่ฮิตจนยุคปัจจุบัน ใครไม่ได้ดูภาคแรก จะดูรู้เรื่องไหม บอกเลยว่า รู้เรื่อง
4 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนดู Top gun : Maverick
1. ทอม ครูซ ขึ้นไปถ่ายทำ บนเครื่องบินจริงๆ แต่มีทหารขับให้ ใช้ CG น้อยมากๆ
2. ไขปมในใจ Maverick สูญเสีย Goose ระหว่างทำการซ้อมบินใน Top Gun ภาคแรก จากอุบัติเหตุขณะฝึกซ้อม ทำให้ Goose คอหัก และเสียชีวิตทันที ซึ่ง Maverick โทษตัวเองเสมอและทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจ ซึ่ง Goose มีลูกชาย 1 คน คือ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอร์ หรือ รูสเตอร์ ที่ต้องกลายมาเป็นนักเรียนฝึกบินในคลาสพิเศษของเขาในภาคนี้
3. Maverick เคยช่วยชีวิต ICE Man ในภาคแรก ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น Top Gun พวกเขาต้องขับเครื่องบินไปทำภารกิจ ก่อนจบ ไอซ์แมน กำลังเสียท่า ถูกศัตรูไล่ยิง แต่เป็น Maverick ที่ยังคงเข้ามาช่วย ทำให้ Ice Man รอดชีวิตมาได้
4.พระเอกเป็น Captian กองทัพเรือ ไม่ใช่ กองทัพอากาศ และ Maverick เป็น Call sign สัญลักษณ์ชื่อในวงการ ไม่ใช่ชื่อจริง ชื่อจริงของเขาคือ กัปตัน พีท มิตเชลล์
แต่สุดท้ายหนังจะ สนุกหรือไม่สนุก ขึ้นอยู่กับ Taste ของแต่ละคน
ไปพิสูจน์ด้วยตัวเองดีกว่า 25 พ.ค. ทุกโรงภาพยนตร์ในเครือ Major Cineplex และฉายทุกระบบโรง แต่เรื่องนี้แนะนำเลย
– IMAX จอยักษ์ คมชัด เสียงกระหึ่มรอบทิศ
– 4DX สี่มิติ มาพร้อมสเปเชียลเอฟเฟกต์ (เก้าอี้โยก ลม แสงแฟลช ฯลฯ กว่า 16 ชนิด) แต่แนะนำ คุ้มค่า และ คู่ควร แก่การ เข้าไปชม
– Screen X 3 จอ 3 ทิศทาง กว้างที่สุดถึง 270 องศา จอใหญ่ยักษ์ เต็มตา กระหึ่มรอบทิศแบบ
– GLS (Giant Laser Screen) จอใหญ่ ภาพชัด สีสวยที่สุด ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของโลกก็ได้
