รีวิว The Pirates: The Last Royal Treasure
วันนี้แอดจะมาแนะนำหนังเกี่ยวกับศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ (2022 netflix) อาชญากรสงครามและแก๊งโจรสลัดสุดโหด ร่วมกันฝ่าฟันภัยธรรมชาติจากทะเล คลื่นลมกระโชกแรง และกองทหารคู่ปรับ เพื่อตามล่าหาสมบัติของราชวงโครยอที่หายสาบสูญกลางมหาสมุทร เรื่องราวการล่าสมบัติย้อนยุคสมัยต้นราชวงศ์โชซอนจะเป็นอย่างไร จะมีความสนุกมากน้อยแค่ไหน เชิญติดตามรับชมรับฟังได้จากรีวิวนี้เลยครับ
The Pirates : ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ เปิดเรื่องมาด้วยยุคเปลี่ยนผ่านจากราชวงศ์โครยอเข้าสู่ยุคโซซอน ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1388 อีซองกเย แม่ทัพของโซซอนกำลังถอนทหารจากเกาะวีฮวา ชเวยองแม่ทัพคนสุดท้ายจากโครยอจึงส่งกองทัพไปต่อสู้
แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับแม่ทัพอีซองกเยและถูกจับกุม เสาต้นสุดท้ายของโครยอก็ได้ล้มลงเช่นนั้น และเมื่อแม่ทัพของโครยอหลายคน รับรู้ถึงวิกฤตการณ์ล่มสลายของราชวงศ์จึงพากันปล้นสมบัติของราชวงศ์โครยอ และพากันแยกย้ายหลบหนีไปยังโพสต์ทะเล แต่ จูบัง แม่ทัพ
ที่ดูแลกรมราชองครักษ์ของราชวงค์โครยอได้เข้าปล้นพระราชวังและหอบสมบัติอันล้ำค่ามหาศาลขึ้นเรือ เพื่อหวังจะนำสมบัตินี้มากอบกู้ราชวงศ์ แต่แล้วก็หายสาบสูญไปกลางทะเล และนี่คือสมบัติอันล้ำค่าที่สุดที่เหล่าโจรสลัดและใครหลายคนต่างหมายปอง
จากนั้นหนังก็เล่าเรื่องราวของอูมูชิ หัวหน้ากลุ่มโจรสลัดที่ถูกเนรเทศออกจากดินแดนกับลูกน้องอีกหลายคน ที่กำลังลอยคออยู่บนเรือแตกกลางทะเลรอคอยความตาย แต่แล้วก็โชคดีได้เจอกับ แฮรังหัวหน้าโจรสลัดสาวที่ใจดีได้ช่วยเขาไว้ แต่แล้วอูมูชิและแฮรัง
ก็ได้เบาะแสและแผนที่ของสมบัติสุดท้ายแห่งราชวงศ์โครยอ ทั้งสองจึงร่วมมือกันตามล่าสมบัตินั้น ไปพร้อมๆกับต้องคอยต่อสู้กับแม่ทัพกบฐโครยอที่ต้องการได้สมบัตินั้นเพื่อเอามาสร้างอำนาจให้กับตนเอง เรื่องราวการผจญภัยตามล่าสมบัติ แห่งราชวงศ์โครยอจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้ติดตามรับชมได้ต่อทาง netflix ครับ
The Pirates : ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ เป็นภาพยนตร์แนวผจญภัยล่าสมบัติย้อนยุค ที่เล่าเรื่องราวตั้งแต่สมัยต้นของราชวงศ์โชซอน เราจะได้เพลิดเพลินและโลดแล่นไปกับเรือของโจรสลัด ที่เดินทางไปตามท้องทะเลเพื่อหาเบาะแสอันจะนำไปสู่สมบัติมหาศาล ซึ่งเป็นการเดินทางที่มีลูกเรืออันแสนที่แสนจะอลหม่าน ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติมากมาย
เราจะได้พบกับความสัมพันธ์ของหัวหน้าโจรเนรเทศ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเป็นมือดาบคนสำคัญของราชวงศ์โครยอ กับหัวหน้าสาวโจรสลัดที่มีความสามารถในด้านการต่อสู้และการเดินเรือ ทั้งสองกันจะต้องร่วมกันไขปริศนาที่เจอไปทีละชิ้น จนนำไปสู่ที่ซ่อนของมหาสมบัติในเกาะอันห่างไกล ไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างดี
เราจะได้พบกับความสนุกสนาน มุกตลกโปกฮาและอมยิ้มมพฤติกรรมอันห่าม ๆ ของบรรดาลูกเรือโจรสลัด แถมยังตื่นตาตื่นใจกับฉากโลดโผนโจนทะยาน การโหนเชือกไปมาบนเรือ การดำน้ำลงสู่ทะเลลึก การต่อสู้ระหว่างเหล่าโจรสลัดกับกองทหารของแม่ทัพแตกแถว นับว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ดูแล้วมีความสุข ไม่ต้องคิดอะไรมาก และก็ไม่ได้แฝงคติธรรมอะไรอย่างล้ำลึกจนเกินไปนัก
หลายสิ่งที่เราเห็นในภาพยนตร์นั้นก็ทำให้คิดถึงหนังฮอลลีวูดฉบับบล็อกบัสเตอร์แนวล่าสมบัติผจญภัย ตัวอย่างเช่นพฤติกรรมและลีลาของตัวละครเอกอูมูชิ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดโลดเต้น คำพูด การโหนเชือกแกว่งไปมา การต่อสู้ด้วยดาบ หรือบริบทต่าง ๆ
ที่อยู่ในเรื่องตัวอย่างเช่น การเดินเรือในท้องทะเล การพบอุปสรรคที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นจากภัยธรรมชาติหรือภัยจากผู้คน การต่อสู้อันแสนวุ่นวาย หรือแม้แต่การเดินทางขึ้นฝั่งบนเกาะต่าง ๆ ก็ทำให้เราคิดถึงตัวละครแจ็คสแปโร่
และบรรยากาศ Pirates of the Caribbean มาก ๆ หรือหรือแม้แต่เรือของโจรสลัด หรือเรือในช่วงท้ายเรื่องงาน ก็ทำให้อดคิดถึงเรือ Black Pearl ไม่ได้เลย เชื่อว่า The Pirates : ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ นี่จะได้อิทธิพลไม่น้อยเลยทีเดียว
รีวิว The Pirates: The Last Royal Treasure
นอกจากนี้บริบทของหนัง หรืออุปสรรคต่าง ๆ การแก้ไขอุปสรรค์ การเจอเบาะแสต่อเบาะแส การถอดรหัส และการไปเจอสมบัติที่เกิดขึ้นในหนังนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับหนังแนวผจญภัยล่าสมบัติเรื่องอื่นเลย เรียกได้ว่าอนุภาคต่างๆที่หนังผจญภัยล่าสมบัติควรจะมี The Pirates : ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ ก็มีหมด แต่เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยได้ซับซ้อนอะไรมากนัก
นอกจากนี้ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าหนังเขาได้นำตำนาน อันเรื่องชื่อของแองโกลแซกซอนมาใช้ในเรื่องด้วยคือ ตำนานกษัตริย์อาเธอร์กับเหล่าอัศวินทั้ง 12 คนบนโต๊ะกลม ในที่นี้หนังเอาไปใส่ไว้ในช่วงท้ายของเรื่อง โดยการแทนค่าแม่ทัพ 12 ที่ช่วยสร้างชาติโซซอน แต่ก็ถูกฆ่าแล้วการตัดหัวทั้ง 12 เสียบด้วยหอกแล้วเสียบประจานเรียงไว้ในลักษณะวงกลม เป็นการพูดถึงการเสียสละของแม่ทัพทั้ง 12 คนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านจากโครยอเป็นโซซอนนั้นเอง
ด้านฉากการต่อสู้ ฉากแอ็คชั่น หากดูโดยรวมจากทั้งหมด 2 ชั่วโมงแล้ว ผมรู้สึกว่าเขาใส่มาน้อยจนเกินไป แม้กระทั่งฉากดวลเดี่ยวของพระเอกกับตัวโกงนั้น ผมก็คิดว่ามันน้อยเกินไป และมันจบแบบง่าย ๆ ความสนุกโดยรวมของเรื่องก็ค่อนข้างมาช้า จะไปสนุกก็เกือบ ช่วงท้ายของเรื่องแล้ว ก็คือตอนนี้ขึ้นฝั่งไปเกาะมหาสมบัติจนเกิดการต่อสู้ระหว่างกลุ่มโจรสลัดกับเหล่าทหาร
ความรู้สึกหลังดู
ในตอนที่โครยอกำลังจะล่มสลาย แม่ทัพบางกลุ่มได้นำกำลังเข้าปล้นสมบัติของราชวงศ์ ก่อนที่จะล่องเรือหลบหนีไป สี่ปีต่อมา ในราชวงศ์ใหม่แห่งโชซอน อูมูชิ (พระเอก) อดีตมือดาบแห่งโครยอได้กลายเป็นโจรและออกปล้นเสาที่จะใช้เป็นเสาหลักของวังเคียงบกจึงถูกทหารไล่ล่า
สุดท้ายลอยแคว้นอยู่กลางทะเล และในตอนที่กำลังจะขาดอาหารตายนั้นเอง เขาและพวกพ้องก็ได้พบกับเรือโจรสลัดของกัปตันแฮรังอี (นางเอก) และได้ถูกนางช่วยไว้ แน่นอนว่ามังกรสองตัวอยู่บนเรือเดียวกันไม่ได้ แต่ไม่ว่าจะทะเลาะกันยังไงสุดท้ายอูมูชิก็สู้กัปตันไม่ได้อยู่ดี
ในด้านการแสดงนั้นทุกคนถือว่ารับผิดชอบได้ดีมากตามมาตรฐานของหนังเกาหลีใต้ แต่ตัวละครหนึ่งที่ค่อนข้าง เป็นตัวขโมยซีนพระเอก นางเอก และขโมยซีนบทของหนังนั้นก็ต้องยกให้กับ มักอี เป็นโจรสลัดที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในเรือ ทั้งชีวิตที่คอยรับใช้กัปตันหรือนายเรือตลอดเวลา
แล้วเมื่อวันหนึ่งมักอีได้มีโอกาสเป็นกัปตันหรือนายเรือก็ยิ่งป่วนหนัก ถือว่าเป็นตัวละครที่ปั่นและป่วนมากที่สุด แต่กระนั้นเขาก็มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องและการนำไปสู่มหาสมบัติด้วย และนี่คือตัวขโมยซีนของอย่างแท้จริง ที่ทางทีมสร้างเขาอาศัยเอาไว้อย่างลงตัว
สามเดือนต่อมา เรือโจรสลัดของรังอีได้เข้าปล้นเรือของญี่ปุ่น พวกเขาได้แผนที่สมบัติของราชวงศ์โครยอจึงคิดออกตามหา กลุ่มโจรสลัดของรังอี เดินตามแผนที่จนมาถึงบนบกก็เจอทางตัน แต่เวลานั้นเองอูมูชิที่ถูกฝูงวัวชนกลับได้พบเขาวัวซึ่งเป็นแผนที่ตัวจริง พวกเขาจึงออกล่าสมบัติกันต่อ แม้ระหว่างทางจะพบกับอุปสรรคและอันตรายมากมาย และไม่ใช่แค่พวกเขาที่ต้องการสมบัติ สุดท้ายใครจะเป็นคนได้สมบัติโครยอที่หายสาบสูญไป
อีกตัวละครหนึ่งหนังเขาทำให้เห็นว่าเป็นคนที่มีความสามารถด้านการยิงธนู เป็นคนที่พูดน้อย แต่ยิงธนูเก่งมากแม่นราวกับจับวาง ดูแล้วทางทีมสร้างก็น่าจะได้บุคลิกมาจากตัวละครเลโกลัส จากเรื่อง The Lord of the Rings หรือไม่ก็เป็นตัวละครคลินท์ บาร์ตันจาก The Avengers เป็นแน่แท้
แต่ที่น่าชื่นชมที่สุดก็คืองานด้านโปรดักชั่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฉาก การแต่งกาย งานด้านภาพ การออกแบบท้องทะเล และคอมพิวเตอร์กราฟฟิกนั้นออกมาดูดีมาก แล้วเขาก็ตั้งใจให้ภาพที่สร้างสรรค์ด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกนั้นออกมาในแบบแนวแฟนตาซี
เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมถือว่า ที่ใครหลายคนบอกว่างานด้าน CG ดูลอย ๆ ส่วนตัวผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย แม้จะเทียบกับงาน CG ระดับ Hollywood ไม่ได้ก็ตาม
อย่างไรก็ตามโดยส่วนตัวแล้วด้วยความยาว 2 ชั่วโมงนั้นก็ทำให้รู้สึกว่าหนังมีความยาวเกินไป และเมื่อมีความยาวเกินไปก็ทำให้มีจุดน่าเบื่ออยู่หลายจุด พยายามแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างกับพระเอกกับนางเอกยืดเกินไป
แล้วรวมถึงการตามหาสมบัติโดยการไขปริศนาเบาะแสหนึ่งไปเบาะแสหนึ่งนั้นง่ายเกินไป แทบไม่มีอะไรให้เราขบคิดไขปริศนาตามเลย
แม้ว่าหนังโดยรวมจะบันเทิง สนุกสนานแบบไม่คิดอะไรมาก แต่อย่างไรก็ตามหนังเขาก็ยังให้แง่คิดเอาไว้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามัคคีของผู้คน เช่นเหล่าโจรสลัดที่อยู่บนเรือ ที่จะต้องร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันทำงานสามัคคี ซึ่งหนังเขาก็แสดงออกให้เห็นในช่วงที่กัปตันเรือจะต้องพาเรือฝ่าคลื่นลมขนาดยักษ์ในช่วงท้ายเรือ เหล่าลูกเรือก็ร่วมมือร่วมแรงดึงใบเรือจนฝ่าคลื่นออกไปได้
การให้โอกาสคนเช่น การที่กัปตันเรือแฮรังให้โอกาสมักอีได้เป็นกัปตันเรือ ให้เรียนรู้วิธีการ แก้ไขสถานการณ์ ให้เรียนรู้ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ และเมื่อมักอีได้ลองแล้ว เขาก็รู้ว่าไม่สมกับเขา
การยอมรับการเปลี่ยนแปลง การที่เหล่าบรรดาทหารหัวเก่าที่ไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนผ่านจากราชวงศ์โครยอไปสู่ราชวงศ์โชซอนก็นำไปสู่ความล้าหลังและพ่ายแพ้ แต่ถ้าใครยอมรับการเปลี่ยนแปลงหน้าปรับตัวได้ก็จะสามารถอยู่รอดแบะพัฒนาต่อไปได้นั่นเอง ตามที่อูมูชิได้พูดกับแฮรังว่า
“โครยอถือกำเนิดใหม่ในนามโชซอน
ราษฎรคือประเทศชาติ และเป็นเสาหลักของอาณาจักรพันปี”
เป็นแนวโจรสลัด ล่าสมบัติ ผจญภัย ย้อนยุคในช่วงเปลี่ยนราชวงศ์จากโครยอเป็นโชซอน ในช่วงที่กำลังสร้างบ้านเมืองใหม่จึงมีคนต้องการสมบัติของราชวงศ์เก่ามากมาย ซึ่งกลุ่มโจรสลัดของอีรังก็ต้องการเช่นกัน เรื่องราวจะเป็นแนวเดินทางผจญภัยตามแผนที
เจอด่านตามตำนานและต้องต่อสู้กับพวกที่ต้องการสมบัติเช่นเดินกัน คล้ายหนังไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียน (Pirates of the Caribbean) แต่ปรับให้เป็นสไตล์เอเชีย ผูกเข้ากับตำนานเอเชีย ทำให้คนเอเชียเข้าถึงและสนุกได้ไม่แพ้ไพเรทส์ออฟเดอะแคริบเบียนเลยค่ะ เผลอ ๆ อาจจะสนุกมากกว่าด้วยซ้ำเพราะมีด่านที่ต้องผ่านเยอะมาก จังหวะแทรกมุกตลกก็ทำใด้ฮาก๊าก โดยเฉพาะพากย์ไทยที่มีการพากย์เสริมคือทำเอาฮาน้ำตาเล็ดเลยค่ะ ขำหนักมาก
เป็นหนังผจญภัยล่าขุมทรัพย์โจรสลัดที่สนุกในรอบหลายปีของผู้เขียนเลยค่ะ ให้ 9 คะแนนเลยค่ะ ขอหัก 1 คะแนนเพราะมีบางช่วงที่แอบเนือยและไร้สาระนิดนึงแต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้นนะคะ ภาพรวมคือสนุกสุด ๆ จนไม่ควรพลาดเลยค่ะ
ศึกโจรสลัดชิงสมบัติราชวงศ์ เป็นหนังผจญภัยที่รวมนักแสดงเกาหลีกว่าครึ่งไว้ในเรื่อง นักแสดงมากฝีมือ การดำเนินเรื่องสนุก ชวนลุ้นตลอดทั้งเรื่อง ฉากโรแมนติกของพระนางและคู่รองก็หาจังหวะใส่มาได้ดี เป็นหนังล่าสมบัติที่เหล่าคนรักหนังโจรสลัดห้ามพลาดเลยนะคะ