รีวิว Onward คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์
สวัสดีค่ะวันนี้แอดจะมาทุกคนตื่นตาไปกับโลกเวทมนตร์ พร้อมคฑาวิเศษที่ช่วยตามหาร่างของพ่อผจญภัยไปกับเรื่องราวในโลกเวทมนตร์ของสองพี่น้อง ที่อยู่ ๆ ก็ได้รับของขวัญจากพ่อที่หายสาบสูญไป พวกเขายังได้รับคฑาวิเศษที่เสกร่างของพ่อได้แค่ครึ่งเดียว แล้วอีกครึ่งหนึ่งล่ะ ? มาร่วมกันตามหาร่างของพ่อพวกเขา
ซึ่งพวกเขามีเวลาแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น ในการนำร่างของพ่อกลับมา พบกับเรื่องราวแฟนตาซีสุดตระการตาและประทับใจ ทั้งสัตว์วิเศษ พ่อมดแม่มด และอีกมากมาย การผจญภัยของเขานั้นจะมีอุปสรรคหรือไม่ จะตามหาร่างของผู้เป็นพ่อสำเร็จหรือไม่ ห้ามพลาด !
หนังใหม่แกะกล่องจากดิสนีย์พิกซาร์ ในบทความนี้จะเป็นการรีวิวหนังในรูปแบบง่าย ๆ ไม่อิงตามหลักการการรีวิวหนังนะครับ เพราะผมจะเล่าถึงบางฉากบางตอนที่ผมประทับใจ ตรึงตาตรึงใจจนอยากจะระบายบอกเล่าส่งต่อความรู้สึกของเรื่องราวในหนังเรื่องนี้
Onward เป็นแอนิเมชันของพิกซาร์ในปี 2020 พิกซาร์ชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ด้วยการจดจำของผู้คนต่อพิกซาร์คือบทหนังที่มีความสนุก มีเหตุมีผลที่สัมผัสได้ในชีวิตจริง(ถึงแม้จะเป้นการ์ตูนก็ตาม) และที่ขาดไม่ได้สำหรับซิกเนเจอร์ของพิกซาร์คือหนังสามารถเรียกน้ำตาคนดูได้เสมอ
แม้ไม่ทุกเรื่องแต่เกือบทุกเรื่องของพิกซาร์จะอยู่ในความทรงจำต่อคนดูไปได้นานมาก ผมคนหนึ่งที่ขอเป็นแฟนของพิกซาร์ตลอดไป อยากให้ผลิตคอนเทนต์ดี ๆ แบบนี้เรื่อย ๆ เพื่อมอบความสุขเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ ให้หัวใจมนุษย์ที่โหยหาความสุขได้เผยอยิ้มขึ้นมาได้มากขึ้น
แอนิเมชันเรื่องนี้ พิกซาร์ยังคงคับคุณภาพในเรื่องของภาพ ภาพการ์ตูนคมชัดและสวยงามมากตามสไตล์พิกซาร์ ตัวละครหลากหลายอัดแน่นเข้ามาเต็มไปหมด การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้จะพูดถึงพี่น้องคู่หนึ่งที่มีความแตกต่างทางบุคลิกภาพคนละขั้วเลย
คนพี่ที่ชื่อ “บาร์ลี่” เป็นคนที่บ้าระห่ำ เริงร่า(จนเกินเหตุ) ชอบสร้างความปวดหัวให้กับรอบตัวอยู่บ่อย ๆ มโนเพ้อพกถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในโลกที่ตนอยู่บ่อย ๆ ชอบส่งเสียงดังเอะอะโวยวายในที่สาธารณะจนผู้คนหาว่าบ้าไปแล้วรึเปล่า
ส่วนคนน้องชื่อว่า “เอียน” เป็นที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยกล้าพูดกล้าจากับกลุ่มเพื่อนและคนรอบข้าง จะทำอะไรก็กลัวไม่หมด เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับตนเป็นเกือบทุกอย่างเลย บาร์ลี่และเอียนสูญเสียพ่อตั้งแต่พวกเขายังเล็ก ๆ แต่คนเป็นน้องไม่ทันได้เหลียวเห็นหน้าคนเป็นพ่อสักครั้ง
เพราะพ่อของเขาได้จากไปในวันที่เขาเกิด เอียนจึงมีความหวังในใจว่าอย่างน้อย ๆ ขอแค่ได้เจอพ่อจริง ๆ สักประเดี๋ยวก็ยังดี เพราะทุกวันนี้เอียนได้แต่ดูหน้าพ่อผ่านรูปภาพเท่านั้น เขาอยากพบพ่อมากจริง ๆ แต่แล้วบทของหนังเรื่องนี้ก็มีชะตาให้ทั้งคู่ได้พบพ่อได้ 1 วันเท่านั้น
โดยพ่อของพวกเขาสามารถฟื้นคืนชีพมาให้พวกเขาได้พูด ได้กอด ได้บอกรักได้เหมือนคนที่ยังไม่ตาย แล้วการเดินทางสู่หนทางในการพยายามทุกวิถีทางในการได้พบพ่อให้ได้ พี่น้องคู่นี้จึงเริ่มออกผจญภัย! การเดินทางในครั้งนี้ทำให้กำแพงหัวใจของพวกเขาทุกคนถึงคราวสูญสลายสักที
หนังนี้จะพาคุณดื่มด่ำกับรสชาติความรักจากคนในครอบครัวที่อยู่รอบกาย และการหาความสุขไม่จำเป็นต้องขวนขวายไปไกลเลย เพราะมันอาจอยู่ใกล้แค่ ๆ คุณได้เอื้อมไปสัมผัสมันสักทีเท่านั้นเอง
รีวิว Onward คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์
Onward เป็นการเล่าประเด็นที่แปลกใหม่และบอกเลยว่าครบเครื่องอย่างแน่นอนซึ่งเป็นเรื่องราวของเอียนและบาร์เลย์ สองพี่น้องเอล์ฟหนุ่มสุดทะเล้น ที่เมื่อเอียนได้อายุครบ 16 ปี เขาก็ได้ของขวัญสุดพิเศษจากพ่อของเขาที่ได้เสียชีวิตไปก่อนที่พวกเขาจะเติบโต
นั่นคือคทาวิเศษ ที่เอียนบังเอิญใช้เวทมนต์ที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิด เพราะในโลกของพวกเขาในปัจจุบัน เวทมนต์คาถาถือเป็นเรื่องโบราณของคนยุคก่อน เพราะปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไปเร็วแบบก้าวกระโดดโดยมีเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สุดล้ำเข้ามาแทนที่
ในตอนต้นเรื่อง Onward แอนิเมชั่นจะเล่าเรื่องค่อนข้างช้าหน่อย เพราะอาศัยการแนะนำตัวละครใหม่ ๆ ที่เราต่างก็ไม่คุ้นเคย แต่ในช่วงแรกเราก็ได้เห็นความน่ามหัศจรรย์ใจหลายอย่าง ทั้งยูนิคอร์นที่กลายเป็นสัตว์จรจัดในเมือง หรือมังกรที่กลายเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน
แต่พอสองพี่น้องได้เริ่มออกเดินทางความมันส์ก็ได้บังเกิดเพราะแน่นอนว่าทุกภารกิจต้องพบเจออุปสรรค เนื่องจากการที่เอียนเผลอเสกเวทมนต์โดยไม่ตั้งใจมันทำให้พ่อของเขาที่ตายไปแล้วกลับมาแค่ท่อนล่างเท่านั้น และหากเวลาล่วงเลยไป 1 วัน พวกเขาจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อของพวกเขาอีกเลย
นอกจากว่าพวกเขาจะออกตามหาลูกแก้วแห่งฟินิกซ์เพื่อมาร่ายเวทฟื้นคืนร่างบนของพ่อให้ได้
ส่วนตัวคิดว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้สนุกมาก ความบันเทิง ความเกรียนมาแบบจัดเต็มสุด นอกจากนั้นเรายังได้ข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเห็นความสำคัญของคนในครอบครัวอีกด้วย แม้ว่าจะไม่ใช้แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ชิ้นโบว์แดงเหมือนหลายเรื่องที่ผ่านมาก็ตาม
แต่ก็เป็นอีกเรื่องที่เริ่มสร้างจักรวาลใหม่ได้อย่างน่าทึ่งและน่าติดตาม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ชมแอนิเมชั่นที่มาขยายจักรวาลของเรื่องนี้อีกต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
อย่างไรก็ตามการผจญภัยครั้งใหม่เริ่มต้นอีกครั้งในครอบครัวตระกูลเอลฟ์ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเรื่องเริ่มจากคุณแม่ ลอว์เรล ได้มอบได้ของขวัญวันเกิดครบรอบ 16 ปีให้กับ เอียน ลูกชาย ซึ่งมันคือ ‘ไม้เท้าพ่อมด’ ที่พ่อผู้ล่วงลับของพวกเขาทิ้งเอาไว้ให้
แต่แล้วทั้งเอียน (ทอม ฮอลแลนด์) และบาร์ลีย์ (คริส แพรตต์) พี่ชาย ก็ได้พบข้อความในกระดาษแผ่นหนึ่งที่มากับไม้เท้า เป็นการบอกวิธีการใช้มนต์วิเศษที่จะทำให้พ่อของพวกเขาคืนชีพกลับมาแบบตัวเป็น ๆ ได้หนึ่งวันเต็ม ๆ แต่หลังจากที่ร่ายมนต์ไปแล้ว
กลับกลายเป็นว่าพ่อของพวกเขาปรากฏตัวออกมาแต่ท่อนล่าง! นั่นทำให้ เอียน และ บาร์ลีย์ ต้องออกตามหาจิ๊กซอว์ที่เหลือในการจะทำให้เวทมนตร์นี้สมบูรณ์แบบเพื่อให้พ่อของพวกเขากลับมาจริง ๆ
ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็น message เรื่องความสัมพันธ์ครอบครัวผ่านการผจญภัยและแก้ปัญหาเบี้ยบ้ายรายทางแบบ road movie ซึ่งในช่วงแรก ๆ ของการปูแบ็กกราวนด์ครอบครัว ‘ไลท์ฟุต’ นี้นั้นอาจจะจืดชืดไปนิด แต่เมื่อหนังพาเราไปสัมผัสด้านต่าง ๆ ของตัวละครมากขึ้น
โดยเฉพาะพี่น้อง เอียน และ บาร์ลีย์ จะยิ่งเห็นมิติของตัวละครสองตัวนี้ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนรู้สึกเซอร์ไพรส์ ซึ่งหลังจากนั้นทุกอย่างก็ไหลลื่นและดูสนุกขึ้นเยอะจนนึกว่าเป็นหนังคนละเรื่อง (ฮา)
ผู้กำกับ : แดน สแกนลอน
นักแสดงนำ : Cris Patt (พากย์เป็นบาร์เลย์),Tom Holland (พากย์เป็นเอียน)
ความยาว : 1 ชั่วโมง 42 นาที
กำหนดฉาย : 5 มีนาคม 2563
ความรู้สึกหลังดู
เมื่อพิกซาร์พักเรื่องราวของของเล่น พักเรื่องราวของการเดินทางภายในจิตใจ ไปหาเรื่องราวในโลกของเวทมนตร์บ้าง พวกเขาหยิบเอาโลกที่มีสิ่งมีชีวิตในโลกแฟนตาซีหลายต่อหลายเรื่องมาเล่าเคล้ารวมกัน ตัวเอกเป็นเอลฟ์ อยู่ในโลกที่เคยมีเวทมนตร์ราวกับพ่อมดแม่มด และอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ แต่โลกปัจจุบันเวทมนตร์กลับไม่มีใครใช้กันแล้ว เด็กรุ่นใหม่เรียกได้ว่าไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ
จนวันที่พวกเขาได้รับไม้เท้าจากผู้เป็นแม่
ไม้เท่าพ่อมดอันนั้นคือของขวัญจากพ่อผู้ล่วงลับ ทำให้เด็กทั้งสองได้รู้ว่าโลกนี้เคยมีเวทมนตร์ใช้กันทั่วไป ทำให้เอียนได้รู้ว่าตัวเองร่ายคาถาเสกบางสิ่งใดบังเกิดได้ขณะที่บาร์ลีย์ไม่อาจทำมัน สองคนต่างขั้วที่เป็นเสมือนคู่กัดในครอบครัวเล็กๆ ที่ขาดพ่อกลับมีจุดร่วมที่ต่างอยากเจอพ่อของเขาแม้มันจะทำได้เพียง 1 วัน แต่มันก็คงมีค่ามากพอสำหรับเด็กสองคนที่คิดถึงพ่อมาแบบนั้น
หนังเริ่มต้นด้วยความวุ่นวายภายในบ้านหลักเล็กที่มีเจ้ามังกรเขียวเป็นสัตว์เลี้ยง พาเราไปรู้จักกับแฟนใหม่ของแม่ที่เป็นตำรวจ เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความชุลมุนวุ่ยวาย รวมทั้งบทพูดที่เยอะแยะ ขำบ้างแป้กบ้าง อ่านซับไม่ทันบ้าง พาเอาช่วงแรกผ่านไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
หรือพิกซาร์กำลังเป๋หาหนทางไม่ถูกกันแน่
จนเรื่องราวในแอนิเมชันผ่านมาถึงครึ่งหลัง พวกเขาหันมาเล่าช่วงเวลาของการผจญภัยทำเป้าหมายสร้างพ่อให้กลับมาเต็มตัวให้สำเร็จ เท่านั้นแหละ หนังก็พลิกกลับมาสนุกสนานขึ้นโดยพลัน
สองพี่น้องที่ต้องขับรถตู้คันเก่าออกจากบ้านไปด้วยกัน รีบเร่งตามหาอัญมณีล้ำค่าเพื่อร่ายมนต์พาส่วนบนของพ่อให้กลับมาเต็มตัว อุปสรรคต่างๆ นานาที่พบ ทำให้สองพี่น้องต้องทะเลาะกันวุ่นวาย เหตุการณ์เรื่องราวระหว่างทางน่าจะสอนใจให้คนเป็นพี่น้องที่ไม่ถูกกันได้เข้าใจกันมากขึ้น มันมีทั้งความเป็นครอบครัว ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเข้าใจ การให้อภัย การยอมรับซึ่งกันและกัน ความเสียสละ และความรัก
ไม่คิดเหมือนกันว่าเรื่องมันจะดำเนินไปจนถึงจุดที่ทำเราต้องน้ำตารื้นได้
จากจุดเริ่มที่หนังทำเราไม่อินใดๆ กับครอบครัวนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็กลับทำมันได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตีตื้นขึ้นมาจนกลายเป็นแอนิเมชันครอบครัวที่พาไปผจญภัยในโลกที่เวทมนตร์ถูกลบเลือนหาย นับว่าไม่เลวแฮะสำหรับหนังจากพิกซาร์เรื่องนี้
แม้จะยังไม่ถึงเท่าหลายเรื่องก่อนหน้านักก็ตาม
ชื่อภาพยนตร์: Onward / คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Dan Scanlon
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Dan Scanlon, Jason Headley
นักแสดงนำ: Tom Holland, Chris Pratt, Julia Louis-Dreyfus, Octavia Spencer
ความยาว: 102 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Comedy, Family, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ดนตรีประกอบ: Jeff Danna, Mychael Danna
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 5 มีนาคม 2563
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Pixar Animation Studios
คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์