รีวิว burning มือเพลิง
อีจงซู (ยูอาอิน) ชายหนุ่มผู้ยากไร้ผู้มีอดีตอันซับซ้อนได้ไปพบกับ ชินแฮมี (ชอนจงซอ) หญิงสาวแปลกประหลาดที่กลายเป็นว่าเธอคืออดีตเพื่อนบ้านที่เขาห่างเหินไปนาน ทั้งสองกลับมาสานสัมพันธ์เพราะหญิงสาวอยากให้ชายหนุ่มดูแลแมวที่เธอเลี้ยงไว้ระหว่างที่เธอเดินทางไปต่างประเทศ เวลาผ่านไป ชินแฮมี เดินทางกลับมาเกาหลีและร้องขอ
ให้อีจงชูมารับ แต่ครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมกับ เบน (สตีเฟน ยอน) ชายหนุ่มลึกลับผู้ร่ำรวยที่หญิงสาวบอกว่าพบเจอระหว่างการเดินทาง เมื่อตัวละครครบ เรื่องราวของหัวใจ ด้านความหวังและด้านมืดของตัวละครสุดแสนซับซ้อนก็ได้เริ่มขึ้น
หมวดหมู่ : Drama Mystery
สัญชาติ : South Korea
กำกับโดย : Lee Chang-dong
ความยาว : 2 ชั่วโมง 28 นาที
นักแสดงนำ : Jeon Jong-seo, Yoo Ah-in, Steven Yeun รีวิวหนังฝรั่ง
ก่อนไปชมหนังเรื่องนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเคยอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ของมูราคามิหรือยัง เพราะความที่มูราคามิมีผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้นเรื่องยาวมากมาย ด้วยความที่มีผลงานเรื่องแรกตั้งแต่ปี 1979 แล้วยังขยันเขียนมาจนถึงปัจจุบัน เอาแค่เฉพาะรวมเรื่องสั้นก็มีถึง 5 เล่มเข้าไปแล้ว ปัญหานี้แก้ง่าย ๆ ด้วยการแวะร้านหนังสือสักร้านแล้วเปิดอ่านดู
ด้วยความที่เรื่องสั้นนี้ความยาวไม่มากนักก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถจบความได้แล้ว แต่ปัญหาถัดมา ก็เช่นเดียวกับเวลาที่อ่านงานของมูราคามิหลาย ๆ ครั้งที่เราจะเพลิดเพลินตากับรสทางภาษาที่แปลกประหลาด ทั้งสำคัญว่าหลายทีเรื่องราวถูกเขียนราวงานแฟนตาซีปลายเปิด ที่เรียกร้องการแสวงหาการขุดคุ้ยด้วยปัญญา
และประสบการณ์อันแตกต่างของแต่ละบุคคล กับเรื่องนี้ก็เช่นกันความลำบากใจต่อมาคือ แล้วเราจะดูหนัง หรือตีความเรื่องเล่าของนักเขียน ตลอดจนผู้กำกับที่รับไม้ต่อนี้มาได้ หรือเปล่าหว่า?
เรื่องย่อ
อีจงซู ชายหนุ่มผู้ยากไร้ผู้มีอดีตอันซับซ้อนได้ไปพบกับ ชินแฮมี หญิงสาวแปลกประหลาดที่กลายเป็นว่าเธอคืออดีตเพื่อนบ้านที่เขาห่างเหินไปนาน ทั้งสองกลับมาสานสัมพันธ์เพราะหญิงสาวอยากให้ชายหนุ่มดูแลแมวที่เธอเลี้ยงไว้ระหว่างที่เธอเดินทางไปต่างประเทศ เวลาผ่านไป ชินแฮมี เดินทางกลับมาเกาหลีและร้องขอให้อีจงชูมารับ
แต่ครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมกับ เบน ชายหนุ่มลึกลับผู้ร่ำรวยที่หญิงสาวบอกว่าพบเจอระหว่างการเดินทาง เมื่อตัวละครครบ เรื่องราวของหัวใจ ด้านความหวังและด้านมืดของตัวละครสุดแสนซับซ้อนก็ได้เริ่มขึ้น ดูหนัง
รีวิว burning มือเพลิง
รีวิว burning มือเพลิง สำหรับ burning เป็นหนังดราม่าคุณภาพที่จำลองภาพความเลวร้ายในสังคมเกาหลีใต้ ประเทศที่หลายคนใฝ่ฝันไว้ได้แยบยล หนังไม่ได้มาในสไตล์แบบ Parasite แต่หนังค่อยๆสำรวจทัศนคติของผู้คนที่ทะเยอทะยาน ไร้ความฝัน ยกย่องคนรวย มันคือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำดีๆนี่เอง ไม่แปลกเลยที่หนังไปได้ไกลระดับโลก
เนื้อหาค่อนข้างสากลโฟกัสไปยังตัวละครไม่ได้มีความตลก แต่เน้นเสียดสีสังคมเกาหลีแบบอ้อม คนจะดูเรื่องนี้ได้ต้องอาศัยความเข้าใจและต้องตีความเพราะไม่ใช่คนทั่วไปจะดูแล้วเข้าใจ เพราะเนื้อหาเปิดพื้นที่ให้คนดูได้สงสัยและตั้งคำถามมากมาย เว็บหนัง
หนังดัดแปลงจากเรื่องสั้นชื่อ Barn Burning แปลเป็นไทยในชื่อ มือเพลิง โดย วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา อยู่ในรวมเรื่องสั้นชุด เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน ผลงานของ ฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังระดับโลกที่ผลงานเคยถูกถ่ายทอดบนจอเงินมาแล้วถึง 11 เรื่อง ผ่านวิสัยทัศน์ของทั้งผู้กำกับญี่ปุ่นเองและต่างชาติ burning มือเพลิง สปอย
หนังจากนิยายของมูราคามิที่คอหนังคอหนังสือบ้านเราน่าจะคุ้นหูคุ้นตาสุดคงเป็น Norwegian Wood (2010) หนังญี่ปุ่นที่ได้ผู้กำกับชาวเวียดนาม อันห์หงตราน มากุมบังเหียน และสร้างจากนิยายที่ดังที่สุดเรื่องหนึ่งของมูราคามิด้วยนั่นเอง ซึ่งก็มีรสประหลาดตามลักษณะงานเขียนของมูราคามิที่ค่อนข้างเฉพาะตัวอยู่มาก
ทำให้หนังจากหนังสือของมูราคามิ มักแปลงสภาพเป็นหนังเฉพาะทางอยู่กลาย ๆ เสมอ ดูหนังออนไลน์
การดำเนินเรื่อง
ผลงานเรื่องนี้ ได้ผู้กำกับเกาหลีชื่อดังอย่าง อีชางดง ผู้กำกับระดับบรมครูชาวเกาหลีที่เข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำจาก Secret Sunshine และ Poetry รวมถึงล่าสุดกับเรื่องนี้ด้วย มาถ่ายทอดแก่นของงานมูราคามิ โดยมีการแสดงอันน่าตื่นตะลึงของ สตีเฟน ยอน จากซีรีส์ Walking Dead มาปะทะกับหนุ่ม ยูอาอิน นักแสดงเกาหลีชื่อดัง รวมถึงขอแนะนำ ชอนจงซอ นักแสดงสาวหน้าใหม่ที่ดังชั่วข้ามคืนจากการร่วมงานกับบรมครูของเกาหลีเรื่องนี้ ดูหนังฟรี
หนังเล่าเรื่องผ่าน 3 ตัวละครหลัก ซึ่งแต่ละคนจะเริ่มจากความธรรมดาเหมือนไม่มีอะไร เช่นเดียวกับเวลาที่เราเริ่มรู้จักใครสักคนมันผิวเผินขนาดนั้น เราตัดสินเขาจากรูปลักษณ์ จากงานการ จากบุคลิกท่าทาง แต่เมื่อหนังเดินทางไป เราก็ได้เริ่มรู้แง่มุมบางอย่างของแต่ละตัวละครมากขึ้น ไม่ใช่เพราะตัวละครเติบโตขึ้นหรือเปลี่ยนความคิดไปอย่างที่หนังอื่น ๆ เป็น หากแต่เป็นเช่นมนุษย์ทั่วไปในชีวิตจริงของเรา ที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แค่ตัวตนภาคที่เลือกแสดงออกและภาคที่เก็บงำ ก็มากมายพอให้เรารู้จักและตื่นตาตื่นใจกับ คนตรงหน้า ว่าแท้จริงมันเป็นคนแบบนี้เองเหรอ burning มือเพลิง วิเคราะห์
ที่สำคัญหนังทำให้เรารู้สึกเช่นนี้หลายครั้งหลายครา คิดว่าเข้าใจดีแล้วก็มีอะไรให้พบอีกว่ายังมีอะไรมากกว่านั้น มันคือความรู้สึกหลายต่อหลายครั้งที่เราอ่านงานของมูราคามิที่เราจะค่อย ๆ รู้จักตัวละครจริง ๆ ก็ต้องผ่านสถานการณ์และบทสนทนาที่ไม่คิดว่าคนอย่างนี้จะพูดจะทำนั่นล่ะ การดูหนังเรื่องนี้จึงมีแก่นแท้คือการสำรวจตัวตนที่แท้จริงของตัวละคร สำรวจเขาและเรียนรู้ตัวเราไปด้วย ว่าจริง ๆ แล้วก็มีด้านแบบนี้ ด้านที่ปิด ด้านที่เผย แล้วมันส่งผลต่อคนรอบข้างต่อตัวเราอย่างไร ซึ่งไม่เพียงเราที่สำรวจตัวละคร ตัวละครเองก็สำรวจและค่อย ๆ เรียนรู้ตัวละครอื่น ซึ่งตรงนี้คือพลอตที่นำไปสู่จุดปะทุและโศกนาฎกรรมของหัวใจในช่วงครึ่งหลัง หนังฝรั่ง netflix
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
ดูครั้งแรกเมื่อ 4 ปีแล้วกับตอนนี้ความรู้สึกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนไป สิ่งบันเทิงสื่อภาพยนตร์ของเกาหลี สะท้อนความเป็นจริงที่โหดร้ายของคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบันได้อย่างดิบดี จากเรื่องสั้นมุราคามิ กับมาดัดแปลงเป็นหนังโทนดราม่าเกาหลีที่พล็อตเรื่องกัดจิกเสียดสีได้แบบถึงพริกถึงขิงจนต้องซูฮกให้กับผู้กำกับอีชางดง
ที่นำหนังเรื่องนี้ทำให้ดูสากลโดยไม่เสียอรรถรสอะไรเลย ความเหลื่อมล้ำของเกาหลี ความเดือดร้อนของคนหนุ่มสาวดิ้นรนเพื่ออยากมีชีวิตมีสิ่งที่ดี บางคนละทิ้งความฝันบางคนโดนสังคมกลืนกินและจำยอมมันไป บางคนอยากได้รับการยอมรับ เนื้อหาหนังกลายเป็นเรื่องราวรักสามเศร้าที่สะเทือนใจและมันเจ็บจี๊ดมากๆ burning มือเพลิง ซับไทย
ไม่น่าเชื่อว่าสังคมเกาหลีที่ภายนอกเติบโตมาสายตาโลกและคนที่อื่น แต่พอมาดูสภาพความเป็นจริงช่องว่างของผู้คนหนุ่มสาวๆเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ คนหนุ่มสาวที่ควรเป็นกำลังของชาติไม่ได้รับการสนใจใยดี ไม่แปลกเลยที่พวกเขากระเสือกกระสนเพื่อจะไปในที่ที่ดีกว่า หรือการไปในสังคมที่มีโอกาสได้เติบโจอย่างที่ควรจะเป็น
บางครั้งความอึดความอดทนมันใช้ไม่ได้ผลกับคนทุกคน ชื่อหนังเนื้อหาหนังเองก็สอดคล้องแผดเผาไปแบบเจ็บแสบ
รีวิว burning มือเพลิง บทสรุป
รีวิว burning มือเพลิง อัตราการว่างงานที่สูงลิ่ว ค่าครองชีพที่แพงแสนแพง หนุ่มสาววัยสร้างเนื้อสร้างตัวที่เป็นคนชนชั้นกลางและล่างโดนกดขี่เอาเปรียบเพราะความไม่แฟร์ของกฏหมายสังคม คนใหม่ๆไม่มีที่ยืนนานวันเข้าเหมือนคนใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ อีจูงซู มีฝันจะเป็นนักเขียนแต่สภาพสังคมไม่มีแต้มต่อให้เขาได้ล่าฝัน จบปริญญาตรีมีการศึกษาที่ดีแท้ๆแต่ต้องไป
สมัครงานพาร์ทไทม์ และเขาล้มเหลวกับการค้นหาความจริงในชีวิต ส่วนแฮมี ก็อยากมีชีวิตที่ดีและอยากไปได้ไกลกว่าการเป็นพริตตี้ แต่งตัวเซ็กซี่ การที่เธออยากมีชีวิตที่ดีจับคนรวยในอีกกลุ่มหนึ่งมันก็ไม่แปลกเพราะเธอเองอยากขยับสถานะตัวเองไปให้ไกล เพื่อลบปมในใจที่เธอเองไม่เคย การเจอคนรวยหล่อฐานะดีมันคงเป็นทางลัด
มันคือความกระหาย เพื่อฝันที่อยากจะหลุดพ้นจากการเป็นคนดิ้นรนทำงานทุกวันแบบไม่มีวันหยุดไร้จุดหมายปลายทางของชีวิต หรือแม้กระทั่งเบน ตัวละครหนุ่มหล่อรวย ที่แฮมีหวังหมายปอง เธอสนใจแค่มีเงินมีหน้าตาทางสังคม แต่เธอไม่เคยรู้เลยว่า ความรวยของเขามีที่มายังไง แต่เพราะว่ารวยมีเงินทุกอย่างทำให้เธอไม่สนใจขอเพียงแค่ได้จับเขาก็พอ burning มือเพลิง บทสรุป
นอกจาก 3 บุคลิกตัวละครแตกต่างสถานะ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการที่ตัวละครได้มาเจอกันในสถานที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างในงานเลี้ยง จูงซู ชายหนุ่มชนถูกชักชวนให้ไปงานปาร์ตี้ร่วมสังสรรค์กับเซเลปคนมีเงิน แต่ภาพที่ปรากฏออกมาคือ เขาทำได้แค่หลบอยู่ในมุมหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรกับใคร ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง ในขณะที่คนอื่นสนุกสนานขำ
กันในงาน มันก็คล้ายๆภาพคนที่มาอยู่ในสังคมที่ผิดประเภท คนต่างชนชั้นกัน จนเกิดเป็นความรู้สึกแปลกแยกทำตัวไม่ถูก เพราะมันไม่ใช่ชีวิตที่เขาพบเจอมาตลอด พูดแบบแรงๆคือส่วนเกินนั้นเอง ถ้ามองดูแล้วสังคมเกาหลีก็ไม่แพ้กับอินเดีย แค่หน้าฉากมันถูกฉาบเอาไว้จนคนมองไม่เห็น หนังวางโครงเรื่องได้สลับซับซ้อน 2 ชั่วโมงเศษ
หนังเล่าตัวละครหลักได้น่าสนใจ เมื่อแต่ละคนฟังเรื่องราวในกลุ่มวงเฮฮาปาร์ตี้เราเห็นได้ชัดเลยว่า คนมีเงินไม่เคยสนใจใยดีคนชนชั้นล่างอยู่ ทำเป็นเหมือนฟังแต่ก็ไม่เคยมาใส่ใจ พวกเขาพร้อมจะโอ้อวดในสิ่งที่พวกเขามี และเมินเฉยเรื่องของคนที่ไม่มีเงิน มันดูมีช่องว่างทางสังคมไปเรื่อยๆ อยู่ประเทศเดียวกันแท้ๆ
แต่สถานะกลับไกลห่างกันออกไป ภาพในหนังสื่อสารออกมาได้ชัดเจนคมคายแยบยลมากๆ
โดยรวมหนัง
นอกจาก 3 บุคลิกตัวละครแตกต่างสถานะ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือการที่ตัวละครได้มาเจอกันในสถานที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างในงานเลี้ยง จูงซู ชายหนุ่มชนถูกชักชวนให้ไปงานปาร์ตี้ร่วมสังสรรค์กับเซเลปคนมีเงิน แต่ภาพที่ปรากฏออกมาคือ เขาทำได้แค่หลบอยู่ในมุมหนึ่งไม่รู้จะพูดอะไรกับใคร ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง
ในขณะที่คนอื่นสนุกสนานขำกันในงาน มันก็คล้ายๆภาพคนที่มาอยู่ในสังคมที่ผิดประเภท คนต่างชนชั้นกัน จนเกิดเป็นความรู้สึกแปลกแยกทำตัวไม่ถูก เพราะมันไม่ใช่ชีวิตที่เขาพบเจอมาตลอด พูดแบบแรงๆคือส่วนเกินนั้นเอง ถ้ามองดูแล้วสังคมเกาหลีก็ไม่แพ้กับอินเดีย แค่หน้าฉากมันถูกฉาบเอาไว้จนคนมองไม่เห็น หนังวางโครงเรื่องได้สลับซับซ้อน 2 ชั่วโมงเศษ หนังเล่าตัวละครหลักได้น่าสนใจ เมื่อแต่ละคนฟังเรื่องราวในกลุ่มวงเฮฮาปาร์ตี้เราเห็นได้ชัดเลยว่า คนมีเงินไม่เคยสนใจใยดีคนชนชั้นล่างอยู่
ทำเป็นเหมือนฟังแต่ก็ไม่เคยมาใส่ใจ พวกเขาพร้อมจะโอ้อวดในสิ่งที่พวกเขามี และเมินเฉยเรื่องของคนที่ไม่มีเงิน มันดูมีช่องว่างทางสังคมไปเรื่อยๆ อยู่ประเทศเดียวกันแท้ๆ แต่สถานะกลับไกลห่างกันออกไป ภาพในหนังสื่อสารออกมาได้ชัดเจนคมคายแยบยลมากๆ burning มือเพลิง สนุกไหม
นี่คืองานที่เรารักเรื่องหนึ่งเลย มันเหมือนไม่มีอะไร แต่โคตรมีอะไรให้ค้นหาจับต้อง และเรียกร้องการเข้าใจอย่างสุดซึ้ง มันสอนเราให้กลับมาทำเช่นเดียวกันกับคนที่อยู่รอบตัว คนที่เราอาจให้ความสำคัญน้อยไป คนที่ตัดสินเขาเร็วไป คนที่เราอาจผ่านเลยเขาไปอย่างน่าเสียดาย บางทีถ้าตอนนี้เราให้เวลารู้จักเขามากขึ้น เราอาจตัดเรื่องที่ทำให้รู้สึกเสียดายในอนาคตไปได้อีกมากทีเดียว
หนังเข้าฉายเฉพาะเครือ เอสเอฟฯ ควรเช็กดูโรงและรอบที่ฉายก่อนออกจากบ้านนะครับ