Finding Nemo
Finding Nemo ดูหนังออนไลน์ ดูการ์ตูนออนไลน์ รีวิวหนัง เรื่องราวปลาการ์ตูนชื่อ Marlin อาศัยอยู่ในแนวปะการัง Great Barrier Reef และสูญเสีย Nemo ลูกชายของเขาไป หลังจากที่เขาผจญภัยไปในทะเลเปิด แม้ว่าพ่อของเขาจะเตือนอยู่เสมอเกี่ยวกับอันตรายมากมายในมหาสมุทร นีโมถูกเรือลักพาตัวไปและถูกผูกมัดและส่งไปที่คลินิกทันตแพทย์ในซิดนีย์ ขณะที่มาร์ลินพยายามออกไปตามหานีโม เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามต่อได้ใน ดูการ์ตูน Finding Nemo (2003) นีโมปลาเล็ก หัวใจโต๊…โต
แอดมินเคยสนุกกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ที่สร้างมา ตั้งแต่ภาพยนตร์ของ Pixar เช่น “Toy Story” และ “The Incredibles” ไปจนถึงภาพยนตร์ของ DreamWorks เช่น “Shrek” แต่ “Finding Nemo” ยังคงเป็นเกมที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่ใช่เพราะความตลกขบขันหรือความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งสองเรื่องเท่าเทียมกันในภาพยนตร์ “Toy Story” และใน “Monsters Inc.” แต่เนื่องจากเป็นมากกว่าเรื่องใดเรื่องหนึ่งจริงๆ ฟีเจอร์คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นก่อนหน้านี้ ได้พลิกโฉมประเภทของภาพยนตร์แอนิเมชั่นสำหรับเด็ก
ความตลกในแอนิเมชั่นแบบดั้งเดิมมักมีพื้นฐานมาจากการพูดเกินจริงและการพูดเกินจริง ใน “Finding Nemo” มีอารมณ์ขันบ้างเป็นครั้งคราว เหมือนกับตอนที่ฝูงนกนางนวลชนกันในเรือ และเราเห็นจะงอยปากของพวกมันขันที่อีกด้านหนึ่งของใบเรือ แต่ลำดับดังกล่าวเรียกร้องความสนใจว่าโดยทั่วไปแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้แตกต่างจากแบบแผนการ์ตูนเก่าเพียงใด แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ลงทุนโลกแห่งสัตว์ที่มีความรู้สึกด้วยพื้นผิวทางวิทยาศาสตร์ที่น่าแปลกใจ สัตว์ทั้งหมดมีพื้นฐานมาจากสายพันธุ์จริง ตู้ปลาถูกสร้างขึ้นจากอุปกรณ์จริง มาร์ลิน (อัลเบิร์ต บรูกส์) เดินทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังออสเตรเลียที่ซึ่งแม้แต่สัตว์ก็พูดด้วยสำเนียงออสเตรเลียได้เป็นอย่างดี ในฉากที่ฉันมั่นใจว่าแกรี่ ลาร์สันจาก “Far Side” มีชื่อเสียงโด่งดัง นกกระทุงพูดคุยกับกลุ่มปลาเกี่ยวกับรายละเอียดอันซับซ้อนของทันตกรรม ความจริงที่ว่าสัตว์พูดและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถือว่าราวกับว่ามันเป็นลักษณะธรรมชาติของโลก ความสมจริงนั้นน่าทึ่งมากจนในตอนท้ายของหนัง คุณเกือบจะเชื่อว่าเป็นไปได้ที่ปลาจะวางแผนหลบหนีจากตู้ปลา หนังออนไลน์ฟรี
เทคนิคงานภาพที่ชาญฉลาดแต่ยังคงให้ความบันเทิง อารมณ์ขันส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากการล้อเลียนพฤติกรรมมนุษย์: ฉลามที่สำนึกผิดเริ่มต้นชมรมที่เป็นเหมือนพวกติดสุรา โรงเลี้ยงปลาทำตัวเหมือนดีเจที่น่ารังเกียจในขณะที่สร้างตัวเองให้เป็นรูปแบบที่งดงาม และเด็กหญิงอายุสี่ขวบทำตัวเหมือนเด็กส่วนใหญ่ อายุที่หลงลืมและทำลายล้าง วิธีที่มาร์ลินหาทางไปหาลูกชายของเขาช่างสร้างสรรค์มากจนเราสามารถให้อภัยภาพยนตร์เรื่องนี้สำหรับจำนวนเรื่องบังเอิญที่เกี่ยวข้อง
เรื่องราวนี้ใช้สูตรพื้นฐานเดียวกันกับที่ใช้ใน “Toy Story” โดยที่ตัวละครสองตัว ตัวหนึ่งตัวแน่นและตัวอื่นที่ไม่มีความรู้ ถูกรวมเข้าด้วยกันขณะที่พวกเขาถูกบังคับให้เดินทางผ่านโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้มากกว่า มนุษย์ตระหนัก อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้สร้างตัวละครที่ไม่เหมือนใครใน Dory (Ellen DeGeneres) ซึ่งเป็นปลาที่ความจำสั้น การทำให้ตัวการ์ตูนมีความผิดปกติอย่างแท้จริงของมนุษย์นั้นมีความเสี่ยง พูดอย่างน้อยที่สุด และฉันดีใจที่ทีมผู้สร้างไม่เสียประสาทที่จะรวมอุปกรณ์อันชาญฉลาดนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างเสียงหัวเราะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบางส่วนของภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความ ปฏิสัมพันธ์ของตัวละครที่เป็นศูนย์กลางของเรื่อง นี่เป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวของพิกซาร์ที่มีการพัฒนาตัวละครอย่างแท้จริง ในระหว่างการเดินทาง มาร์ลินเรียนรู้ที่จะผจญภัยมากขึ้น โดยได้คำแนะนำในการเลี้ยงลูกจากเต่านักโต้คลื่นที่พากย์โดยแอนดรูว์ สแตนตัน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ขณะที่นีโม ลูกชายของเขาเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง ดูหนังฟรี
แน่นอนว่าฉลาม แมงกะพรุน ปลาวาฬ นางนวล นกกระทุง กุ้งก้ามกราม และมนุษย์ที่มาร์ลินพบตลอดทางไม่มีอันตรายใดๆ พวกเขาแค่ทำในสิ่งที่พวกเขาทำ นกกระทุงไนเจลบอกนีโม ณ จุดหนึ่งว่า “ปลาต้องว่ายน้ำ นกต้องกิน” นั่นอาจเป็นความเข้าใจที่น่าสนใจที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่าไม่มีวายร้ายตัวจริง มีแต่สิ่งมีชีวิตที่ทำตามธรรมชาติของพวกมัน และอีกสองสามตัวที่อยู่เหนือมัน
เมื่อนีโมถูกนักประดาน้ำจับตัวไป กลายเป็นปลาตู้อยู่ในร้านหมอฟันแห่งหนึ่ง จึงเป็นหน้าที่ของมาร์ลิน ผู้เป็นพ่อ และ ดอรี่ ปลาความจำสั้น ออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่เพื่อพานีโมกลับบ้านให้จงได้ หนังแสดงการผจญภัยใต้ท้องทะเลของมาร์ลินกับดอรี่ ที่ต้องเจออุปสรรคต่างๆ เช่น ฉลาม แมงกระพรุ่น และการได้เพื่อนใหม่ๆ ช่วยเหลือทำให้ทัศนคติของมาร์ลินเปลี่ยนไป ขณะเดียวกัน นีโมกับเพื่อนในตู้ปลาก็พยายามหนีจากตู้ปลาออกมาเช่นกัน
หนังแห่งค่าย Pixar แน่นอนว่า ดูสนุก ดูได้ทั้งครอบครัว บทดี และที่สำคัญภาพสวยตระการตา โดยพาผู้ชมตื่นตาไปกับโลกใต้ท้องทะเล หนังแสดงให้เห็นถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกและการปรับทัศนคติยอมรับซึ่งกันและกัน สิ่งหนึ่งที่หนังสะท้อนสังคม คือ การ ‘จับปลาทะเล’ มาเลี้ยงก็เหมือนเป็นการพรากครอบครัวเขานั่นเอง เว็บดูหนังฟรี
Finding Nemo
หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ปี 2003 รวมทั้งประสบความสำเร็จด้านรายได้ จนมีภาคต่อออกมาในปี 2016 ในชื่อ Finding Dory
เรื่องราวการผจญภัยของ “มาร์ลิน” ปลาการ์ตูนผู้หวงลูกจนเกินเหตุ และ ลูกชายของเขา “นีโม” ที่พลัดหลงกันในแนวปะการังใหญ่ เมื่อนีโมถูกจับตัวไปจากมหาสมุทรซึ่งเป็นบ้านของเขาไปอยู่ในตู้ปลาในห้องทำงานของหมอฟันคนหนึ่ง ด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนร่วมทางอย่าง ดอรี่ ผู้เป็นมิตรแต่ความจำสั้น มาร์ลิน ได้ออกเดินทางสู่เส้นทางสุดอันตรายด้วยความพยายามอันยิ่งใหญ่ทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือลูกชายของเขาที่รวบรวมความกล้ากับแผนการหาทางกลับบ้านด้วยตัวเอง
เปิดเรื่องน่าสนใจดี การวาดการ์ตูนวาดได้ดีสมจริงดูน่ารักดี ภาพสวยดี เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรมาก ดำเนินเรื่องเรื่อยๆ โดยการฉายสองช่วงสลับกันไปมาเป็นช่วงๆ บางช่วงฉายนานไปหน่อย พอเดาเรื่องได้บ้าง มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยบ้าง มีดราม่าบ้าง มีช่วงที่ตลกบ้าง ดูแล้วทำให้ยิ้มและหัวเราะไปพร้อมๆกัน
ผลงานภาคต่อจากหนังสุดฮิต Finding Nemo (2003) ที่มาภาคนี้นอกจากเวลาในเรื่องจะผ่านไป 6 เดือนแล้ว ยังเปลี่ยนเอาเจ้าดอรี่ ปลาความจำเสื่อมสุดฮาในภาคก่อน มาเป็นตัวเอกเต็มตัวด้วย
นับเป็นการเทคโอเวอร์ตำแหน่งตัวเอกในหนังพิกซาร์เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มี Car 2 (2011) กับ Monsters University (2013) ที่เคยเอาตัวรองในภาคแรกมาเป็นตัวนำในภาคต่อมา
งานนี้ยังได้เจ้าเก่าอย่างผู้กำกับ Andrew Stanton ที่เคยทำหนังภาคก่อน และหนังเทพๆ อย่าง WALL-E (2008) มาสานต่อ ทั้งยังเอา Angus MacLane อนิเมเตอร์จอมเก๋าที่ผ่านงานมาหลายเรื่องขึ้นมากำกับร่วมด้วย ก็นับว่าดิสนีย์ให้โอกาสคนพอสมควร ทั้งแมคเลนที่ไม่เคยกำกับงานใหญ่มาก่อน และสแตนตันที่ดับวูบจากวงการไปหลังจากผลาญเงินดิสนีย์มหาศาลแต่ทำหนังเจ๊งระดับพระกาฬอย่าง John Carter (2012) ไป ดูเหมือนหนังคนแสดงจะยังไม่ใช่ที่ทางของเขาจริงๆล่ะนะ แต่กับหนังการ์ตูนน่ะน่าจะยังเชื่อมือได้ เว็บดูหนังฟรีออนไลน์
ห่างหายไป 13 ปีนับจากภาคแรกจนนึกว่าจะไม่มีภาคต่อเสียแล้ว ซึ่งหนังก็ใช้กำลังผลักดันกันน่าดูเลย เริ่มตั้งแต่ว่า Ellen DeGeneres ที่พากย์เป็นดอรี่ เริ่มเดินสายทอล์คโชว์ของตนเองพร้อมกับพยายามหาแรงสนับสนุนให้หนังเรื่องนี้มีภาคต่อด้วย และก็เพราะพลังของคาแรกเตอร์ดอรี่ด้วยล่ะที่มีศักยภาพเอามากๆในการมีหนังของตนเอง ทั้งยังเป็นที่จดจำในภาคก่อนมากๆ
เมื่อรวมกับการหาแนวร่วมสนับสนุนยาวนาน ดอรี่ เลยเป็นเป็นตัวละครพิกซาร์ที่คนกดไลค์ในเฟซบุคมากที่สุด มากถึง 25 ล้านกว่าไลค์ ทิ้งห่างเจ้านีโมตัวเอกของเรื่องภาคก่อนไปกว่า 3 ล้านไลค์ด้วย ว้าวววว ก็ไม่แปลกใจที่ดิสนีย์จะไฟเขียวให้ทำภาคต่อจนได้
มาภาคนี้หนังเล่าเรื่องของดอรี่ หลังจากที่ช่วยเพื่อนสนิทตามหาลูกชายจนเจอไปแล้วในภาคก่อน ตัวเธอก็เกิดนึกถึงพ่อแม่ของตัวเอง แต่ด้วยเพราะความทรงจำผลุบๆโผล่ๆของเธอ ทำให้ยากลำบากที่จะตามหาพ่อแม่ แต่แน่ล่ะหนังคงไม่ไปไหนถ้าเล่าแค่นี้ ดอรี่จึงได้ออกทะเลกว้างใหญ่เข้าสู่มหานครของมนุษย์อีกครั้งเพื่อหาเบาะแสถึงครอบครัวของตน หนังได้พาเข้าสู่สถาบันวิจัยมหาสมุทรซึ่งเราจะได้พบสัตว์ทะเลมากมายทีเดียว ตรงนี้ก็เปิดโอกาสให้ตัวละครหลากหลายสายพันธุ์มาแสดงความน่ารักและวายป่วงได้เป็นอย่างดี
ในตอนแรกทีมงานตั้งใจจะให้ดอรี่ไปตามหาพ่อแม่ที่สวนน้ำ แต่เพราะหลังจากที่ทีมงานได้ดูหนังสารคดีสุดอื้อฉาวเรื่อง Blackfish (2013) ที่ว่าด้วยเรื่องของความโหดร้ายของการเลี้ยงวาฬเพชรฆาตไว้โชว์ในสวนน้ำ จนเกิดโศกนาฏกรรมคร่าชีวิตทั้งคนดูแลและวาฬขึ้น ทีมงานก็เปลี่ยนใจย้ายโลเกชั่นไปเป็นศูนย์วิจัยด้านมหาสมุทรแทน ทั้งนี้ก็คงเพื่อช่วยลดกระแสต้านจากนักอนุรักษ์ที่ออกมาโจมตีหนัง Finding Nemo ที่มีส่วนส่งเสริมให้เกิดการบุกรุกชีวิตสิ่งมีชีวิต รวมถึงระบบนิเวศในทะเลและมหาสมุทรมากขึ้นด้วย และด้วยเหตุนี้ล่ะมั้ง หนังเลยมีท่าทีพูดเรื่องการปล่อยให้สัตว์น้ำอยู่ตามธรรมชาติของมัน มนุษย์ไม่ควรไปวุ่นวายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
หนังสารคดีที่สะเทือนใจทีมงานเอามากๆทีเดียว หนังเรื่องนี้ว่าด้วยการจับวาฬมาโชว์ที่มีเบื้องหลังความสนุกเป็นความทารุณและน่าเศร้าเอามากๆ
หนังสารคดีที่สะเทือนใจทีมงานเอามากๆทีเดียว หนังเรื่องนี้ว่าด้วยการจับวาฬมาโชว์ในสวนน้ำ ที่มีเบื้องหน้าเป็นความสนุกที่เราๆได้ชม แต่เอาจริงๆเบื้องหลังเป็นความทารุณและน่าเศร้าเอามากๆ
หนังเดินเรื่องไวทีเดียว แม้จะเคลื่อนทางด้านฉากไม่มากคือ มหาสมุทรแปซิฟิก ไปฝั่งแคลิฟอร์เนีย แล้วก็วนเวียนอยู่ในศูนย์วิจัยมหาสมุทรไปๆมาๆเท่านั้นเอง ซึ่งทีมงานก็ชดเชยให้โดยการลงรายละเอียดแบบถี่ยิบพอสมควร แบบบ่อนั้นบ่อนี้ ท่อนั้นท่อนี้ โซนนั้นโซนนี้ วุ่นวายทีเดียว ตรงนี้น่าจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่าหนังนั้นสั้นเพราะฉากน้อย ทั้งที่ความจริงหนังก็ยาวถึง 1 ชั่วโมง 43 นาทีแล้ว แม้จะค่อนข้างนานแต่เพราะเหตุการณ์ในหนังค่อนข้างมากด้วยฉากที่น้อยทั้งยังเล่นอยู่บนเมืองมนุษย์เสียเยอะเลย หนังก็เลยใส่ความโม้และบังเอิญไปเยอะพอตัว ผู้ใหญ่เถรตรงอาจดูไปตั้งคำถามไปแต่เชื่อว่าเด็กๆน่าจะสนุกแบบสุดๆไปเลย เพราะถึงจะโม้แต่หนังก็โม้ได้มันโคตรๆเหมือนกัน
ในขณะที่บางคนก็คงอึดอัดกับการไม่ไปไหนเสียทีของหนังด้วย ทั้งฉากที่ซ้ำไปซ้ำมา ตัวละครที่ตัวเดิมๆวนไปวนมา ซึ่งก็คงเพราะด้วยตัวคาแรกเตอร์มีลักษณะความจำเดี๋ยวสั้นมากเดี่ยวสั้นน้อย ทำให้เล่นอะไรไปมากไม่ได้ แต่การย้ำที่หรือย้ำเหตุการณ์ตรงนี้ก็ทำให้เราเห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปของดอรี่ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน โดยรวมเมื่อประกอบกับความสวยแบบโคตรๆของภาพแล้ว ก็ต้องบอกว่าเล่าเรื่องได้เพลิดเพลินบันเทิงใจมาก เชื่อว่าแค่ดูภาพก็คุ้มแล้วล่ะเพราะสวยเอามากๆจริงๆ ยังไม่นับภาพที่อัปเกรดแบบขั้นสุดของหนังสั้นปะหน้าที่ต้องบอกว่าภาพงามงดหมดจดจริงๆ รีวิวหนังออนไลน์