รีวิว THE DEVIL’S BACKBONE (2001)
สวัสดีวันนี้แอดมินจะมาแนะนำหนังผีจากประเทศสเปน เรื่องย่อ คาร์ลอส เด็กชายที่สูญเสียครอบครัวไปในสงคราม เขาถูกส่งตัวมายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน ในสถานที่แห่งนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิญญาณที่ส่งเสียงโหยหวนทุกคืน คืนหนึ่งเขาก็พบว่าต้นตอของเสียงนั้นคือวิญญาณของเด็กชายที่มีชื่อว่า ซานติ
เรื่องนี้ผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง Pan’s Labyrinth (2006) บรรยากาศของหนังเลยออกแนวหลอนๆเหงาๆปนแฟนตาซีเศร้าๆ เหตุเกิดในช่วงสงคราม ตัวละครหลักก็เป็นเด็กๆอีกแล้ว
หนังเรื่องนี้ทำให้แอดมินนึกถึงหนังผีไทยเรื่อง เด็กหอ ถึงพล็อตเรื่องจะคล้ายๆกัน คือ เด็กมาใหม่เจอผี จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนกับผี รู้ว่าผีจมน้ำตาย แล้วตอนจบก็ช่วยผี แต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมดเพราะ THE DEVIL’S BACKBONE เกิดเหตุในช่วงสงคราม เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างแย่งชิงเอาตัวรอดทำให้มีคนร้ายที่เป็นโจรโลภมาก ฆ่าเด็กและก็ฆ่าคนอื่นๆเพื่อชิงทองคำ บรรยากาศเลยกลายเป็นหลอนปนดราม่าเหงาๆเศร้าๆหมองๆยังไงก็ไม่รู้
มีอยู่ฉากหนึ่งที่คุณหมอ ซึ่งก็ทำหน้าที่ดูแลเป็นผู้พิทักษ์พวกเด็กๆ คุยกับคาร์ลอสเรื่องวิญญาณ แล้วเขาก็เบี่ยงประเด็นให้คาร์ลอสดูศพเด็กทารกที่ถูกดองในขวลโหล น้ำด้านในขวดโหลเป็นเหล้ารัมผสมกับสมุนไพรต่างๆ แล้วก็ตักน้ำที่อยู่ในนั้นยื่นให้คาร์ลอสกินบอกว่าเป็นยารักษาโรค คนตาบอดกินน้ำนี้ยังหายเลยนะ พอคาร์ลอสกลัวจนวิ่งหนีไป คุณหมอก็เลยกินเอง… ที่เล่ามามันไม่มีประเด็นอะไรหรอกฉากนี้ แค่แอดมินแหยงเฉยๆ
แอดมินคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังดีนะ แต่ก็ไม่คิดว่าทุกคนจะชอบ เพราะการเล่าเรื่องช้าแบบเนิบนาบ ผีก็มาแนวแฟนตาซีไม่ได้ทำให้รู้สึกกลัวได้เลย ฉากโหดก็โหดใช้ได้แถมยังมีหลายฉากเลยด้วยถึงสีเลือดจะดูปลอมๆก็เถอะก็ยังทำให้รู้สึกว่าน่ากลัวได้อยู่ดี ถึงในเรื่องจะมีแแต่พวกเด็กๆแอดมินก็คิดว่าเรื่องนี้มันโหดร้ายรุนแรงเกินไปถ้าให้จะเด็กๆดู
ตอนจบของเรื่องแอดมินอึ้งจนหลุดหัวเราะออกมาเลย แต่คิดว่าคนอื่นไม่น่าจะขำออกนะ เพราะมันเป็นหนังที่แสดงให้เราได้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม และเวรกรรมทั้งหมดที่ตกมาอยู่กับพวกเด็กๆที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
สปอยหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะเข้าใจผิดคิดว่าแอดมินใจร้ายขำอะไรกับหนังแนวเศร้าๆหม่นๆแบบนี้ได้ด้วย แอดมินขำที่ตอนจบบอกว่าคนเล่าเรื่องนี้เป็นผี แถมยังเป็นผีที่เจ้าตัวบอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นเรื่องว่าไม่เชื่อเรื่องผีอีกต่างหาก แค่นี้แหละแอดมินก็หัวเราะแล้ว ห่ะ!! ไม่ตลกเหรอ…หึหึ
นำแสดง: Eduardo Noriega (Jacinto), Marisa Paredes (Carmen), Federico Luppi (Casares), Fernando Tielve (Carlos), Inigo Garces (Jaime), Irene Visedo (Conchita), Jose Manuel Lorenzo (Marcelo), Francisco Maestre (El Puerco as Paco Maestre), Junio Valverde (Santi), Berta Ojea (Alma), Adrian Lamana (Galvez), Daniel Esparza (Marcos), Miguel Ortiz, Juan Carlos Vellido, Javier Gonzalez (Owl as Javier Gonzalez Madrigal)
กำกับ: Guillermo del Toro
เขียนบท: Guillermo del Toro, Antonio Trashorras
ประเภท: Mystery / Horror / Thriller / Fantasy
เปิดเรื่องได้น่าสนใจทีเดียวสำหรับผลงานของ Guillermo del Toro ผู้กำกับชาวแม็กซิกัน ที่กำกับหนัง Horror สร้างชื่ออย่าง Cronos (1993), Mimic (1997) จนถึงเรื่อง The Devil’s Backbone, Blade II (2002), Hellboy (2004) และ The Labyrinth of the Faun (2006) เพื่อนๆ คงจะผ่านตา และคุ้นเคยกับหนังเรื่อง Blade II และ Hellboy กันไปบ้างนะครับ นั่งแหละ ฝีมือของ Guillermo del Toro เขาแหละ
The Devil’s Backbone เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงยุค 1939 ในยุคที่เรียกกว่าเกิดสงครามกลางเมืองในสเปน สามปีให้หลัง บ้านเมืองเริ่มสงบลง เนื้อเรื่องกล่าวถึงสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า หนึ่งในสถานที่ที่เคยถูกโจมตีด้วยระเบิดขนาดใหญ่มาแล้ว แต่มันด้าน ไม่ระเบิด และที่สำคัญ ไอ้ระเบิดดังกล่าวมันยังปักเป็นอนุสรณ์สถานอยู่ที่สถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้อยู่เลย
Carlos เด็กชายวันกำลังมีพัฒนาการ จำต้องมาอยู่ในสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ด้วย เขาเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับสถานที่แห่งนี้ จนวันหนึ่งสิ่งที่เรียกว่า “One who sighs” ก็ปรากฏตัวให้เขาเห็น…นั่นคือ ผีเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ที่ชื่อ Santi เด็กผู้ถูกฆ่าจากบุคคลภายในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ ผู้ต้องการชำระแค้นที่เกิดขึ้นในคืนแห่งสงคราม!
หนังลึกลับด้วยกลิ่นอายความเป็นหนัง ‘ผี’ เต็ม ๆ ไม่ใช่หนังปีศาจ หนังสัตว์ประหลาด หรือหนังซอมบี้ นี่เป็นหนังผี ที่วิญญาณวนเวียนเต็มไปด้วยความแค้นที่ยังไม่ได้ล้าง! การถ่ายทำมุมกล้อง การตัดต่อ ทำได้ชวนระทึกตลอดเวลา เป็นหนังย้อนยุคอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ไม่น่าเบื่อเลย หนังเรื่องนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับ The Others หนังในปีเดียวกันที่ทำออกมาได้บรรยากาศของ ‘ผี’ จริงๆ เหมือนกัน ใครชอบแบบไหน ก็แล้วแต่ละคนจะพิจารณาดูกันเอาครับ
รีวิว THE DEVIL’S BACKBONE (2001)
หนังผีที่ไม่เน้นผี แล้วมันมีอะไรล่ะ… อีกหนึ่งหนังสยองขวัญที่คอหนังปนวนี้ไม่ควรพลาด มันเต็มไปด้วยความพิศวงมากมาย หนังที่เล่นความน่ากลัวกับสถานที่ สิ่งลึกลับที่น่าหวาดระแวงและเด็กๆ ที่ไม่รู้ตาสีตาสาทั้งหลายในเรื่อง ก็เป็นชนวนหลักให้เราได้ติดตามไปกับหนัง
หนังผีสัญชาติสเปนเรื่องนี้ มีกลิ่นอายและส่วนผสมของความโหดร้ายปนหดหู่ หลายครั้งที่คนดูต้องหวาดกลัวกับเหล่าภูตผีวิญญาณทั้งหลายที่ออกมาปรากฏตัวในหนัง ในเรื่องนี้มันกลับมีความรู้สึกว่า หนังไม่ได้จงใจให้คนดูรู้สึกสยองขวัญหรือหวาดผวากับผีในหนังแบบโต่งๆ
มันถูกกล่อมเกลาด้วยการสร้างบรรยากาศร่วมแบบได้ผล ความรู้สึกจากภาพที่ปรากฏในหนังมันทำให้รู้สึกไม่สบายใจ หวาดระแวง น่ากลัวเอามากๆ แม้แต่ในฉากกลางวันที่หนังเน้นสีโทนร้อน แดงจัดๆ ก็ทำให้รู้สึกว่ามันทรมานจริงๆ
แม้แต่เนื้อเรื่องในหนัง มันก็มีส่วนของความเป็นโศกนาฏกรรมที่แสนเจ็บปวด ประเด็นในหนังที่พูดถึง ทุกๆ อย่าง คนดูจะรู้สึกได้เลยว่า หนังผีเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นความน่ากลัว มันเต็มไปด้วยความโหดร้าย เศร้าสร้อยท่ามกลางตัวละครเด็กทั้งหลาย …ในส่วนบทดราม่าก็ทำได้ถึงอารมณ์
เมื่อได้ดูแล้วจะบอกเลยว่า มันหดหู่เศร้าสร้อยจริงๆ ครับ… โดยรวมแล้วหนังมันยอดเยี่ยมสมกับเป็นฝีมือของเดล โทโร่ จริงๆ ครับผม
ความรู้สึกหลังดู
ในประเทศไทยหนังผีจากประเทศสเปนอาจไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าใดนัก ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่หนังประเภทนี้ค่อนข้างที่จะมีตัวเลือกในการนำเสนอที่น้อย แถมความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมเองก็ค่อนข้างมากทำให้ไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องของวัฒนธรรมเรื่องผีกันนัก
แต่บทความชิ้นนี้อยากให้คุณผู้อ่านเปิดใจให้กว้าง แล้วลองมาสัมผัสเรื่องผีจากหนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาท ที่เชื่อว่าอาจจะช่วยเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับเรื่องผีสางของประเทศสเปนให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมได้อย่างมากเลยทีเดียว
หนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาท เป็นเรื่องราวของ “คาร์ลอส” ที่ถูกนำมาส่งให้กับบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังจากที่พ่อของเขาถูกสังหารในสนามรบในฐานะของนักปฏิวัติ ท่ามกลางความเศร้าหมองและความพยายามพิสูจน์ตัวเองกับเพื่อนกลุ่มใหม่ เขาก็ได้พบว่าในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ได้เก็บงำความมืดมิดมากมายเอาไว้ที่ช่วยให้น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ก่อนอื่นต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ทั้งฉากและนักแสดงทำออกมาได้อย่างมีเสน่ห์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของตึกเก่าในประเทศสเปนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสถานที่รกร้างห่างไกลจากผู้คน ในขณะเดียวกันมันก็เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งปริศนา ความน่าสงสัยอย่างที่หนังผีต้องการ
นักแสดงในหนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาท ทำผลงานได้ดีโดยเฉพาะกลุ่มนักแสดงเด็กที่ดูเป็นธรรมชาติ พวกเขาดูไร้เดียงสา หิวโหย อยากรู้อยากเห็นในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยมิตรภาพที่แน่บแน่น ตัวละครเด็กเหล่านี้แต่ละคนมีนิสัย บทบาทที่แตกต่างกัน ดังนั้น เมื่อนำพวกเขามารวมกันจึงกลายเป็นเรื่องราวที่เรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว
การวางโครงเรื่องและเชื่อมโยงเรื่องราวของหนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาทเองก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มันช่วยกระตุ้นความคิด ปริศนาและจินตนาการที่นำไปสู่ความน่าขนลุกได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับจุดด้อย หนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาทไม่ควรถูกจัดอยู่ในกลุ่มของหนังสยองขวัญ เพราะโดยรวมแล้วมันเพียงแค่ “น่าขนลุก” เท่านั้น และหนังเรื่องนี้อาจเหมาะกับคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับสงครามกลางเมืองของประเทศสเปน เพราะมันเต็มไปด้วยความอุปมาอุปไมยมากมายที่เกี่ยวข้องกับสงคราม ถ้าหากไม่มีพื้นฐานในเรื่องนี้เลยก็จะทำให้ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่หนังอยากสื่อสารถึงอย่างน่าเสียดายและแน่นอนว่ามันทำให้การดูหนังหมดสนุกอย่างน่าเสียดาย
ถ้าหากใครกำลังมองหาหนังมิตรภาพ + น่าขนลุก หนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาท อาจเป็นหนึ่งในหนังแปลกตาที่เรียกได้ว่ามีองค์ประกอบโดยรวมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ถ้าหากใครไม่ได้ต้องการหนังสยองขวัญแบบสุดขั้ว แล้วอยากเสพสิ่งแปลกใหม่ทั้งเรื่องของชีวิต วัฒนธรรมและฉากของประเทศสเปนที่ไม่คุ้นตา เชื่อว่าหนังผี The Devil’s Backbone เด็กผีวิญญาณพยาบาท เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงอย่างแน่นอน…
