รีวิว Things Heard & Seen (2021)
สวัสดีค่ะวันนี้แอดจะมาแนะนำหนังดูช่วงวันหยุดกันช่วงวันหยุดนี่มักจะเป็นเวลาที่ได้ดูหนังและซีรีส์มากที่สุดในรอบสัปดาห์ และเมื่อเปิดเข้าไปดูในบริการของเน็ตฟลิกซ์ เขาก็ขึ้นหนังเรื่องนี้มาให้พอดี เห็นว่าเป็นผลงานการแสดงของนักแสดงหญิงที่ชื่นชม Amanda Seyfried จึงขอเปิดดูสักหน่อย นั่นจึงเป็นที่มาของการเขียนรีวิวถึงหนัง ‘Things Heard & Seen แว่วเสียงวิญญาณหลอน’ ของนายแพทวันนี้
งานหนังแนวดรามาสยองขวัญที่ดัดแปลงจากหนังสือเรื่อง All Things Cease to Appear ของ Elizabeth Brundage ที่กำกับโดย Shari Springer Berman และ Robert Pulcini เป็นหนังเน็ตฟลิกซ์อีกเรื่องที่เข้าฉายในช่วงปลายเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา
ก็เลยขอหยิบมาเขียนถึงกันสักหน่อยตอนต้นๆ เดือนพฤษภา
เป็นหนังที่โฆษณาให้เราเห็นว่า เขาใช้อารมณ์ในแนวระทึกขวัญสยองขวัญ หรือแนวหนังผี ที่มีโครงเรื่องแบบย้ายบ้านไปอยู่บ้านผีนั่นแหละครับ แต่ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า เขาได้ใช้เรื่องราวความสัมพันธ์ในชีวิตหลังแต่งงานมาเป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร และผีในเรื่องนี้จะหลอกหลอนน่ากลัวแค่ไหน เชิญติดตามรับชมรับฟังในบิลนี้ได้เลยครับ
ในเมืองๆ หนึ่ง มีบ้านเก่าปรากฏอยู่มากมาย หลายหลังก็มีประวัติและความตาย หนึ่งในนั้น คือบ้านหลังที่สามีภรรยาและลูกน้อยย้ายเข้ามาอยู่
จอร์จ แคลร์ (James Norton จากหนังเรื่อง ‘Little Women’, ‘Flatliners’ และ ‘Rush’) กับ แคทเธอรีน แคลร์ (Amanda Seyfried จากหนังเรื่อง ‘Les Misérables’, ‘Love the Coopers’ และ ‘Ted 2’) คือสามีภรรยาคู่นั้น จอร์จนั้นย้ายเข้ามาเพื่อเป็นคุณครูในวิทยาลัยของเมืองนี้ ขณะที่เคที่เลือกจะละทิ้งทุกอย่างเพื่อติดตามเขามาอยู่ที่นี่ เธอบอกว่า เขาต้องการงานนี้จริงๆ นัยว่าเธอพร้อมจะฝากชีวิตไว้กับจอร์จ อะไรแบบนั้น
หนังเล่าเรื่องราวของแคทเธอรีน ที่หลังจากแต่งงานแล้ว เธอต้องทิ้งอาชีพนักซ่อมแซม เพื่อตามสามีไปอยู่ต่างเมือง เนื่องจากสามีของเธอได้เข้าใจทำงานป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ศิบปะในมหาวิทยาลัยแห่งนั้น
ทั้ง 2 คนได้ตัดสินใจซื้อบ้านไร่หลังใหญ่ ที่มีประวัติศาสตร์กลางสร้างมาตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเมื่อแรกเขาก็ย้ายเข้าไปแบบมีความสุขดี
แคทเธอรีน ได้จ้างชายสองพี่น้อง ที่อาศัยอยู่ในละแวกแถวนั้นให้เข้ามาทำงานบ้าน คนที่เป็นวัยรุ่นหนุ่มกระทงดูแลทั่วไป ส่วนคนน้องให้มาเป็นพี่เลี้ยงลูกสาวของเธอ
แต่พออยู่ไปสักพักก็เริ่มมีสิ่งปกติเกิดขึ้นในบ้าน โดยเริ่มจากลูกสาวของเธอก่อน เห็นบางสิ่งบางอย่างในห้องนอนของตัวเอง เห็นเก้าอี้โยคเอง และเห็นร่างของหญิงวัยกลางคนปรากฏตัวขึ้น
ไม่นาน แคทเธอรีน เริ่มรับรู้สิ่งผิดปกติในบ้าน แล้วรู้สึกว่าไม่ได้มีเพียงครอบครัวของเธอที่อยู่เพียงลำพัง
เธอได้ชวน เพื่อนบ้านที่มีความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ให้มาประกอบพิธีกรรมเชิญดวงวิญญาณในบ้าน ซึ่งก็มีดวงวิญญาณอาศัยอยู่จริง
แต่สิ่งที่ผิดปกติมากที่สุดก็คือสามีของเธอ มีอาการเปลี่ยนไป โมโห เจ้าอารมณ์ ใช้ความรุนแรง แล้วก็เริ่มไม่ไว้วางใจเมียของเขา โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ของแคทเธอรีน กัยหนุ่มผู้ดูแลบ้าน อีกทั้งยังมีปัญหากับทางมหาวิทยาลัย และหัวหน้าภาควิชาของเขาเองอีกด้วย
ซึ่งเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป ครอบครัวของแคมเธอรีน จะจัดการกับวิญญาณที่อยู่ในบ้านได้หรือไม่ และสามีของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปจะถึงจุดไหน สามารถติดตามรับชมต่อได้ทาง Netflix ครับ
รีวิว Things Heard & Seen (2021)
Things Heard & Seen: แว่วเสียงวิญญาณหลอน เป็นภาพยนตร์จากทาง netflix ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดัง All Things Cease to Appear ของเอลิซาเบธ บรันเดจ ซึ่งตัวผมเองไม่เคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้ครับจึงไม่รู้ว่ามีความแตกต่างกันกับฉบับอย่างไร
ในส่วนของภาพยนตร์ วิธีการดำเนินเรื่อง การนำเข้าไปสู่ความขัดแย้ง สถานการณ์คลี่คลายปม บอกตามตรงว่าผมผิดหวังกับหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
ซึ่งตอนเห็นปล่อยตัวอย่างออกมาก็เห็นว่าน่าจะเป็นหนังผีแนวระทึกขวัญสยองขวัญแบบเต็มขั้น แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เลย มันหลอกคนดูอย่างสิ้นเชิง
ตรรกะของเรื่อ งความสมเหตุสมผลต่าง ๆ มันก็แทบไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะนำไปสู่การเฉลยในท้ายเรื่องแบบนั้น การเล่าเรื่องก็แสนจะน่าเบื่อ
กว่าจะไปรู้ความลับของบ้านก็ปาเข้าไปครึ่งเรื่องแล้วอารมณ์ของเรื่องก็กระโดดไปกระโดดมา ระหว่างหนังแนวครอบครัวแตกร้าว หนังผีสยองขวัญ แล้วก็หนังแบบสืบสวนสอบสวน
ความรู้สึกหลังดู
ซึ่งเรียกได้ว่ามันเป็นส่วนผสมที่ผู้กำกับและคนเขียนบทปรุงรสแบบไม่เข้ากันเลย และที่เลวร้ายมากที่สุดก็คือ การจบของเรื่องที่ทำร้ายจิตใจคนดู แบบจบไปอย่างดื้อไม่มีการสรุปอะไรทั้งสิ้น
หนังได้สร้างปมไว้หลายประเด็นมากเช่น ปมความเจ้าชู้ของสามีแคทเธอรีน ปมของชายสองพี่น้องที่มาทำงานบ้านให้แคทเธอรีน ปมเรื่องราวของบ้านไร่อาถรรพ์ที่มีอายุ 100 กว่าปี ซึ่งมีความตายเกิดขึ้นในบ้านมากมาย แล้วก็ปมของแคทเธอรีนที่ไม่กินอาหาร กากจะกินเธอต้องไปล้วงคอเอาออกในห้องน้ำเสมอ
บอกตามตรงว่าระหว่างดู พอมองเห็นปมเหล่านี้ มันก็ทำให้เราสามารถเกาะติดไปกับหนังได้ ซึ่งอยากจะรู้เหลือเกินว่าเขาจะไปยัง จะเฉลยหรือแก้ปมเหล่านี้ยังไง
บอกตามตรงว่าหลังดูจบแล้ว หนังกลับไม่ได้คลี่คลายปมอะไรเหล่านี้เลย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แม้แต่ประเด็นการไม่กินอาหารของแคทเธอรีน ที่เราคิดล่วงหน้าว่าหนังจะหักมุม การที่เธอเห็นผีอาจจะเกิดจากภาพหลอนจากการที่เธออดอาหารนั้น เขาก็ไม่ได้เอามาเล่นเลย มันทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีเซอร์ไพรส์ ไม่หักมุมอะไรเลย
แม้แต่เรื่องราวอาถรรพ์ของบ้าน เขาก็ไม่ได้เฉลยว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร ราวกับว่าความลึกลับของบ้านโบราณหลังนี้ก็ปล่อยให้มันลึกลับไป คอนดูไม่ต้องรู้อะไรหรอก ส่วนตัวผมแล้ว ขอบอกได้เลยว่านี่คือหนังผีที่น่าเบื่อที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
โครงเรื่องหลักทั้งหมดอย่างที่กล่าวไปในข้างต้น เป็นหนังแนวชีวิตครอบครัวที่ไม่สมหวัง ผสมกับการเข้าไปอยู่ในบ้านผีสิง แล้วมีบางสิ่งบางอย่างเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความแตกร้าวมากขึ้น จนนำไปสู่บางสิ่งบางอย่างที่เลวร้ายในตอนจบ แต่หนังก็เล่าออกมาได้แบบทื่อ ไม่ได้คมคายอะไรเลย
ซึ่งหากเรามองประเด็นนี้แล้วนำมาเทียบกับหนังแนวนี้ของบ้านเราอย่างเช่น ลัดดาแลนด์ ผมว่าลัดดาแลนทำได้ดีกว่ามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ การเล่าเรื่อง การใช้สีในเชิงสัญลักษณ์ จนไปถึงจุดจบของเรื่องที่กลายเป็นโศกนาฏกรรม ลัดดาแลนด์กินขาดมาก ๆ
ส่วนในแง่ของความเป็นหนังผีสยองขวัญ ก็จืดชืดมาก ๆ ไม่มีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกขนลุกและน่ากลัวเลย แม้ว่าในช่วงต้นเขาจะทำให้เราเห็นว่าลูกสาวของแคทรียา เจอความผิดปกติและผีในห้องนอนของเธอ แต่มันก็ไม่ได้ขยี้อะไรต่อ ผีก็ออกแบบมาได้แบบธรรมดามาก ในแง่ของความเป็นหนังผีสยองขวัญไม่ได้หลอกหลอนทำให้น่ากลัวอะไรเลย
หากจะพอมีอยู่บ้าง ก็ต้องยกย่องให้กับฝีมือทางการแสดง แมนด้า ไซย์ฟริด ดาราสาวสวยหน้าตาโต เธอรับบทที่โตขึ้น แสดงถึงอารมณ์มาก แม้ว่าตัวละครที่เธอเล่นนั้นจะมีการตัดสินใจไม่ค่อยมีตรรกะนักก็ตาม
ส่วนเจมส์ นอร์ตัน ที่รับบทเป็นสามีของแคทเธอรีน เขาก็เล่นได้ดี บทในหนังที่เลวเข้าก็แสดงได้เลวจนหน้าหมั่นใส่ ถือว่าดีทั้งคู่ นักแสดงประกอบคนอื่นก็เล่นได้ ในส่วนตัวผมแล้วรู้สึกว่าไม่ติดขัดอะไร
พอมาถึงตอนจบของเรื่อง ที่จะเป็นการขมวดปมทั้งหมดของหนัง ที่วางเอาไว้อย่างมากมาย หนังเขาก็จบแบบว่าทำร้ายจิตใจคนดูเป็นอย่างมาก จบไปแบบเฉย ๆ จะไปแบบดื้อ ๆ ดูเหมือนว่าจะหนังโยงกับภาพจิตรกรรม แต่มันก็ไม่ได้แก้ปมอะไรเลย การตัดสินใจของตัวละครสำคัญในช่วงท้ายเรื่องนี้ ก็ประหลาดดีแท้
แต่หากเราลองมองให้ลึกไปกว่านั้น หนังก็นำเสนอในเชิงสัญลักษณ์ ที่โดดเด่นมาก ๆ ที่สอดคล้องกับภาพเขียน 2 ภาพคือ ภาพดวงวิญญาณอยู่ในนรก ที่ไหนมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วมองไม่เห็น มันอาจจะเปรียบได้กับ การแสดงถึงผลของการกระทำของตัวละครที่ทำสิ่งไม่ดี จะได้รับในอานคต
และอีกภาพหนึ่งคือ ภาพเรือใบที่ล่องไปในมหาสมุทรยามค่ำคืนที่มีฟ้าคะนอง ฝนกระหน่ำ กับแสงสีแดงในผืนน้ำใต้ท้องเรือ และบนท้องฟ้าปราบแปรบสีแดงอมส้ม
นั่นอาจแสดงถึง เส้นทางที่ตัวละครเอกของเรื่องเลือกที่จะเดินในทางที่มันเป็นอุปสรรค์ เดินทางเข้าสู่ความมืด หรือเดินทางเข้าสู่มหาสมุทร ที่เต็มไปด้วยคลื่นลมมรสุมที่พร้อมกับความเหลือนั้นได้ตลอดเวลานั่นเอง
นั้นมันก็ไม่ได้ชัดเจนมาก ซึ่งหนังปล่อยให้คนดูตีความเอาเอง
แต่ถ้าหากเราจะนำประเด็นในเรื่องภาพจิตรกรรม กับโครงเรื่องที่สะท้อนถึงภาวะจิตใจของตัวละคร อย่างเช่นในภาพยนตร์เรื่อง What Dreams May Come พลังรักข้ามขอบฟ้า ตามรักถึงสวรรค์ ที่ฉายในปี 1998 แล้ว หนังเล่าเรื่องราวของนายแพทย์คนหนึ่ง ที่ยอมสละความสุขบนสวรรค์เพื่อไปตามหาคนรักของเขาในนรก โดยใช้ภาพกิจกรรมเป็นตัวเชื่อม หนังเขาสามารถเชื่อมโยงภาพกิจกรรม นำเสนอในเชิงสัญลักษณ์ของโลกแห่งสวรรค์ โลกแห่งนรก และความผิดบาปได้อย่างลึกซึ้งมากกว่าหลายเท่านัก
ผมไม่แน่ใจว่างานวรรณกรรมต้นเรื่อง มีโครงเรื่องอะไรยังไง มีจุดไหนบ้างที่หนังเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ แล้วตอนจบในงานวรรณกรรมจะเป็นยัง แต่ที่เข้าใจได้ก็คือ ในแง่ของภาพยนตร์ที่สร้างมาจากงานวรรณกรรมนั้น ทางร่วมกับและคนเขียนบท เขาก็มีวิธีการเล่าเรื่องที่ต่างจากงานวรรณกรรม อาจมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินเรื่อง เปลี่ยนแปลงตอนจบ ก็เป็นเรื่องปกติ มันก็เลยทำให้ผม อยากหางานวรรณกรรมต้นเรื่อง เธอว่าเขาน่าจะใส่สัญลักษณ์ รวมถึงการผูกโยงเรื่องราวทางศิลปะ ได้ลุ่มลึกไม่น้อยเลยทีเดียว
กล่าวโดยสรุป Things Heard & Seen: แว่วเสียงวิญญาณหลอน แม้หนังจะบอกว่าเป็นหนังผี แต่ก็ใช้ผีได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ แม้จะมีหลายอย่างที่เขาสร้างปมทำให้เราติดตาม แต่ถ้าถึงเวลาคลายปม มันก็เหมือนว่าไม่ได้แก้อะไรให้กับเราเลย