รีวิว Marrowbone
วันนี้แอดจะมารีวิวเรื่อง “Marrowbone” ตระกูลปีศาจ คือผลงานระทึกขวัญ-สยองขวัญ-ดราม่า เป็นหนังสยองขวัญที่แอดได้ดูแล้วไม่กล้านอนคนเดียวเลยวันนั้น จึงอยากให้คอหนังสยองขวัญได้มาดูกัน คงจะท้าทายคนชอบหนังผีไม่น้อย ด้วยเรื่องราวของ “แจ็ค”
(รับบทโดย “จอร์จ แมคเคย์”) ชายหนุ่มผู้กุมความลับเกี่ยวกับปมการตายของแม่ผู้เป็นที่รัก เพื่อให้ตัวเขา และ เหล่าน้อง ๆ ไม่ถูกพรากจากกัน แต่เมื่อแจ็ค และ พี่น้องได้กลับมาใช้ชีวิตที่บ้าน “แมร์โรวโบน” อีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญหน้าคือการเล่นงานจากสิ่งเร้นลับที่มอบประสบการณ์ขนหัวลุกให้กับพวกเขาเพิ่มขึ้นทุกนาทีในบ้านหลังนี้
นำแสดงโดยทัพนักแสดงที่คอหนังต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี นำโดย สาวดาวรุ่ง “อันยา เทย์เลอร์-จอย” (The Witch, Split) ร่วมด้วย “ชาร์ลี ฮีตัน” (ซีรีส์ฮิต Stranger Things), “จอร์จ แมคเคย์” (Defiance), “มีอา กอธ”
(A Cure for Wellness), “ไคล์ โซลเลอร์” (Fury), “นิโคลา แฮร์ริสัน” (The Impossible) ผ่านการกำกับโดย “เซอร์จิโอ กัวเตียเรซ ซานเชซ” (มือเขียนบทหนังเยี่ยมอย่าง The Orphanage และ The Impossible) พร้อมอำนวยการสร้างโดยผู้ร่วมงานคู่ใจ “ฮวน อันโตนิโอ บาโยนา” (ผู้กำกับ The Orphanage, The Impossible และ A Monster Calls)
นอกจากนี้ภายในงานหลังการฉาย “Marrowbone” ยังได้จุดกระแสระทึกให้แก่เหล่าผู้ชม และ นักวิจารณ์ จนต้องบอกต่อถึงความหลอนระดับแรงเต็มขั้นกันอย่างทะลักจอ
จุดขายหลักของ Marrowbone ก็คือชื่อของ เซอร์จิโอ จี.ซานเชส ผู้กำกับ และ เขียนบทของเรื่องนี้ ลำพังชื่อของผู้กำกับน่าจะเหวอกันว่าใครหว่า จึงต้องอ้างอิงถึงผลงานก่อนหน้าของ เซอร์จิโอ ว่าเขาคือผู้เขียนบท Orphanage (2007)
หนึ่งในหนังหักมุมยอดเยี่ยมตลอดกาล และ The Impossible (2012) หนังจำลองเหตุการณ์ซึนามิที่มาถ่ายทำในประเทศไทย หลังจากสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เขียนมานาน เซอร์จิโอก็เลยขอประเดิมผลงานในตำแหน่งผู้กำกับครั้งแรกในเรื่องนี้ จากบทภาพยนตร์ของเขาเองเช่นกัน
Marrowbone เป็นชื่อของครอบครัวชาวอังกฤษที่มีแม่ และ ลูกชายลูกสาว 4 คน ย้ายมาตั้งรกรากอยู่บ้านหลังใหญ่มากบนพื้นที่ห่างไกลชุมชนในเมืองเล็ก ๆ ของสหรัฐ หนังเล่าเหตุการณ์ในปี 1969 จากวันที่แม่ล้มป่วยและเสียชีวิต ทิ้งภาระให้แจ๊คลูกชายคนโดนดูแล บิลลี่น้องชายคนโต เจนน้องสาวคนรอง และ แซมน้องเล็กสุดที่วัยยังไม่ถึง 10 ขวบ หนังเริ่มเรื่องด้วยบรรยากาศอึมครึมค่อย ๆ หยอดปริศนามาทีละนิดว่าครอบครัวนี้ซ่อนความลับต่อบุคคลภายนอกไว้มากมาย
ครึ่งแรกของหนังเต็มไปด้วยปริศนาหลากหลายผ่านบทสนทนาที่ชวนสงสัยทั้ง จากบทสั่งเสียของแม่ถึงลูก ๆ จากบรรดาพี่น้องที่คุยกันด้วยความวิตกกังวล และ จุดพลิกผันโครมใหญ่ของครอบครัวแมร์โรว์โบนก็เริ่มขึ้นเมื่อกระสุนนัดแรกถูกยิงเข้าใส่หน้าต่างของบ้าน
รีวิว Marrowbone
เซอร์จิโอ เปิดฉากงานกำกับตัวเองได้อย่างเหนือชั้น กับการสร้างบรรยากาศอึมครึมให้กับเรื่องราวตลอดทั้งเรื่อง ปริศนามากมายทำให้หนังน่าติดตามตั้งแต่นาทีแรก ในขณะที่บางปริศนาก็ค่อย ๆ แย้มคำตอบมาทีละนิดให้คนดูเริ่มปะติดปะต่อกันเอาเอง ไม่ทันไรปริศนาใหม่ก็เพิ่มเข้ามา หนังเพิ่มความเข้มข้นด้วยการใส่ตัวละครสำคัญเข้ามาอีก 2 รายคือ แอลลี่ สาวสวยที่บ้านอยู่ใกล้กับครอบครัวแมร์โรวโบน และ เป็นคนรักของแจ๊ค และ พอร์ตเตอร์ ทนายประจำท้องถิ่นที่ดูแลเรื่อง
กรรมสิทธิ์ที่ดินของบ้านแมร์โรว์โบน ทำหน้าที่ตัวร้ายของเรื่องอย่างจริงจังเพราะพอร์ตเตอร์ หลงรักแอลลี่ ทำให้กลายเป็นปัญหารักสามเส้า เป็นจุดเริ่มต้นให้พอร์ตเตอร์รู้สึกชิงชังพวกแมร์โรว์โบน และ หาทางกลั่นแกล้ง เป็นจุดที่บทหนังสามารถหนังสอดแทรกความเข้มข้นของเนื้อหาเข้ามาได้เพิ่ม
Marrowbone จึงเป็นหนังที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างน่าติดตามมากด้วยตัวบทภาพยนตร์เองเป็นหลัก ไม่ต้องใช้ซีจี ไม่ต้องมีผีเมคอัพน่ากลัว ใช้ตัวละครนำเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น บวกกับบ้านหลังมหึมาที่เหมือนอีกตัวละครสำคัญของเรื่องราว เพราะทำหน้าที่เป็นฉากหลังของเรื่องที่เหตุการณ์กว่าครึ่งล้วน เกิดในบ้านหลังนี้ เป็นอีกจุดที่ต้องชื่นชมทีมงานที่หาโลเกชั่นได้เหมาะมาก บ้านแมร์โรว์โบนหลังใหญ่ดูเก่าซอมซ่อทำให้ดูลึกลับน่ากลัว ภายนอกดูรกร้าง ส่วนภายในก็ดูมืดครึ้ม
ความรู้สึกหลังดู
มีมุมสลัวในบ้านมากมาย ช่องเล็กช่องน้อยภายในบ้านที่มากมายขนาดมีแร็คคูนมาอาศัยอยู่ได้ และ นำมาใช้เป็นฉากลุ้นสะดุ้งได้ หนึ่งในปริศนาสำคัญก็คือห้องที่ถูกก่ออิฐปิดตายที่บรรดาพี่น้องต่างชำเลืองมองอยู่บ่อยครั้งด้วยอาการหวาด ๆ และไปเฉลยกันเอาช่วงท้ายเรื่องว่าอะไรที่อยู่ภายในห้องนั้น
มั่นใจมากว่าคอหนังสยองขวัญจะต้องถูกใจกับบรรยากาศ และ เรื่องราวของ Marrowbone ที่ผสมผสานเรื่องราวชวนสงสัยมากมายไว้ในเรื่องเดียวทั้งรอยคราบบนฝ้าเพดาน ที่มาของเงินจำนวนมากในกล่องเหล็ก บุคคลที่ครอบครัวหวาดกลัวจนต้องหนีมาซ่อนตัว เหตุผลว่าทำไมแจ๊คไม่ให้น้อง ๆ ออกจากบ้าน และ ปริศนาว่าใครคือวิญญาณลึกลับที่เด็ก ๆ บอกว่าสิงสถิตอยู่ในบ้านนี้ เป็นอีกเรื่องที่เซอร์จิโอฝากลีลาการเขียนบทได้น่าจดจำ สามารถยกระดับความน่าตื่นเต้นได้จาก 0 ถึง 100
จากนาทีแรกของหนังไปจนถึงนาทีจบ หลอกล่อให้ดูไปเดาคำตอบไป ผิดบ้างถูกบ้าง นอกจากดูไปลุ้นสะดุ้งไปแล้วยังต้องคิดตามหนังไปอีกด้วย และ ที่ชอบมากคือการหักมุมซ้อนหักมุมแบบว่าใครสปอยล์สมควรโกรธกันตายไปเลย ถ้าใครชอบหนังที่หยอดฉากปริศนาแล้วมีฉากเฉลยเผยทีละจุดในตอนท้าย นี่ก็เรื่องนึงล่ะที่ไล่เฉลยแต่ละจุดได้ลงตัวครบถ้วน แต่ต้องใช้สมองไตร่ตรองตามสักนิดถึงจะ “อ๋อ”
สำนักพิมพ์มังงะญี่ปุ่นเตรียมฟ้อง Cloudflare ฐานให้บริการกับเว็บไซต์มังงะเถื่อน
อันยา เทเลอร์ จอย ดาราสาวที่มาแรงในช่วง 2 ปีมานี่ ด้วยหน้าตาที่น่ารักทำให้เธอโดดเด่นมากจากหนัง The Witch (2015) แล้วก็ได้มารับบทนำใน Split (2016) อันยา รับบท แอลลี่ ในเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเสน่ห์เธอมากขึ้นตามวัย
ในเรื่องนี้ดูสดใส และ สดสวยขึ้นมากรับกับรัศมีดาราขาขึ้นในฮอลลีวู้ด เพราะปีหน้าจะมีผลงานทั้งหนังโรงหนังทีวีอีกถึง 4 เรื่อง และ หนึ่งในนั้นคือ The New Mutant หรือ X-Men เซ็ตใหม่ ถ้าหนังประสบความสำเร็จ อันยา ก็จะได้เป็นมิวแตนท์สาวไปอีกยาวนาน อีกรายที่น่าพูดถึงจากเรื่องนี้คือ หนูน้อยแซมน้องชายตัวเล็กของบ้านที่เป็นเด็กน่ารัก วัยเพียงแค่ 7 ขวบ แต่ก็เล่นได้สดใสไร้เดียงสาตามวัย ร้องไห้ก็ได้ และ น้องแมทธิวยังต้องรับภาระเล่นฉากลุ้นเจอผีคนเดียวอีกตั้ง 2 ฉาก
ที่รับภาระหนักสุดก็คือ จอร์จ แม็คเคย์ ผู้รับบทแจ๊คพี่ชายคนโต เป็นบทที่น่าสงสารมากเพราะในเรื่อง แจ๊ค อยู่ในวัย 20 (ตัวจริงอายุ 25 แล้ว)ต้องรับหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ออกหน้ารับปกป้องทุกอย่างแทนน้อง ๆ และ เป็นบทที่เด่นสุด และ ก็จอร์จก็ทำได้ดี
จอร์จ อยู่ในวงการมา 10 กว่าปีล่ะ บทแจ๊คนี่ก็ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญของเขาที่จะได้เป็นที่จดจำมากขึ้น ส่วนอีกรายที่พอจะเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มคนชื่นชอบซีรีส์ก็คือชาร์ลี ฮีตัน ดาราดังจากซีรีส์ Stranger Things
ในบท บิลลี่ น้องชายคนรอง ซึ่งก็รับหน้าที่ตัวประกอบจริงจัง แต่ก็มีฉากชวนลุ้นยาว ๆ ของตัวเองเช่นกัน
Marrowbone เป็นหนังที่มาในแนวสยองขวัญ ที่หน้าหนังอาจจะดูไม่น่าสนใจ เพราะแทบไม่เห็นผีออกมาให้เห็น นี่คือหนังไม่เน้นขายตุ้งแช่ แต่มีดีที่บรรยากาศลึกลับชวนสงสัย มีฉากให้ได้ลุ้นบ่อยครั้ง ปริศนาลึกลับมากมายแม้มุกที่ใช้จะเเคยเห็นกันมาแล้วจากหนังสยองขวัญเรื่องก่อน ๆ แต่ก็นับว่าเป็นการประยุกต์ใช้ใหม่ที่ได้ผล และ ยังไม่รู้สึกจำเจ ยืนยันว่าไม่ควรพลาดครับ