รีวิว 47 Meters Down Uncaged
ทิ้งช่วงไปสองปีก็ได้ฤกษ์กลับมาอีกครั้งกับหนังแฟรนไชส์หนังฉลามบุกยุคใหม่อย่าง 47 Meters Down: Uncaged ซึ่งชื่อก็บอกชัด ๆ ว่าภาคนี้ไม่มีกรงคุ้มกะลาหัวแล้วจ้า! โดยคราวนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งนัดกันไปดำน้ำในถ้ำใต้ทะเลสาบในบราซิล โดยเคลมว่าลึกลงไปจะเป็น
ทางเชื่อมต่อกับดินแดนแห่งอารยธรรมโบราณที่จมหายอยู่ใต้ท้องทะเล (ว่าไปนั่น!) แต่ทว่าความซวยก็บังเกิด เมื่อจู่ ๆ ปากถ้ำก็ถล่มลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทั้งหมดต้องรีบหาทางออกแข่งกับสภาวะออกซิเจนในถังที่กำลังจะหมดลง แต่อุปสรรคที่สำคัญคือพวกเธอทั้งหมดต่างไม่รู้ว่ายิ่งดำลงมาลึกเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการรุกล้ำฉลามสายพันธุ์สุดโหดแห่งท้องทะเล พระเอกของเรื่องที่ก็พร้อมรอขย้ำเด็กสาวอยู่ทุกวินาที ดูหนัง
สำหรับภาคนี้ จะเน้นเซตสถานการณ์ไปที่การดำน้ำในถ้ำซึ่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพังโบราณจมอยู่ใต้ก้นทะเล และยังคงเน้นคอนเซปต์สร้างความกดดันจากเงื่อนไขในที่มืด ๆ แคบ ๆ และอ็อกซิเจนที่ค่อย ๆ ลดลง สลับกับพี่หลามโผล่ตุ้งแช่ให้สะดุ้งโหยงหน้าเหยเกเป็นพัก ๆ แต่แตกต่างตรง
ภาคนี้จะได้เห็นการไล่ล่ามากกว่า รวมทั้งส่วนที่อาจจะฮาร์ดคอร์ขึ้นน่าจะเป็นเรื่องโปรดักชัน ที่รู้สึกว่าดีไซน์พี่หลามออกมาได้ดูน่าสะพรึงกลัวมากกว่าเดิม มีเก็บรายละเอียดบาดแผลตามลำตัวแบบดูแล้วรู้เลยว่ามันโหด มันดิบ ดวงตาที่ขาวโพลนกับการเคลมว่าเป็นนักล่าแห่งความมืด บอกเลยว่าอันนี้ทำได้หลอนดี
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เส้นเรื่องมันไม่ได้มีความแปลกใหม่มาก ปูความสัมพันธ์หลวม ๆ งั้น ๆ อาศัยว่าสร้างสถานการณ์ให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อย ๆ ก็เลยทำให้ยังมีลุ้นเยี่ยวเหนียวกันทุกครั้งที่สาว ๆ หย่อนขาลงน้ำ แต่ทว่าหากเทียบหนังยุคหลัง ๆ ภาพรวมของ
47 Meters อาจยังไม่มีชั้นเชิงมากเหมือนอย่าง The Shallows เราจะยังได้เห็นการตัดสินใจที่ขาดความสมเหตุสมผลระหว่างทางเรี่ยราดอยู่เรื่อย ๆ จนอาจชวนหงุดหงิด ไม่มีตัวแปรอื่นในสถานการณ์ ไม่ค่อยพลิกแพลงหรือมีลูกเล่น แต่โอเคว่าหนังทำได้ดีในจุดสำคัญอย่างการสร้างความสะดุ้ง
ชวนหลอน ชวนแต๋วแตกท่ามกลางความมืดมิดแทบตลอดทั้งเรื่องได้ดีนักแล (ฮา) ฉลามก็รู้สึกจะฉลาดขึ้น บางซีนก็ฉลาดเวอร์! แอบคิดในใจว่า ‘นี่มึงเป็นฉลาม AI ใช่ไหม’ ตามตื๊อทั้งเรื่อง ให้คะแนนความพยายามแดกมนุษย์ 10/10 เชื่อแล้วว่าหิวจริง ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เรื่องนี้ มีทายาทนักแสดงรุ่นใหญ่ของวงการอย่าง ซิสทีน สตอลโลน ลูกสาวคนสวยของ ‘แรมโบ้’ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และ คอรีน ฟอกซ์ ลูกสาวของ เจมี ฟอกซ์ นำแสดงด้วย บอกตามตรงว่าเพิ่งเคยเห็นพวกเธอเต็ม ๆ ครั้งแรก ถือว่าสอบผ่านทั้งคู่ โดยเฉพาะ คอรีน ที่ดูมีแววดีเลย หากใครที่
ต้องการไปเสพเอามัน เอาความบันเทิงชนิดตื่นเต้นขั้นสุด อยากหาหนังสักเรื่องให้ชีวิตมีสีสันในช่วงนี้ แฟรนไชส์เรื่องนี้ยังคงตอบโจทย์อยู่มาก กับแรงกดดันตื่นเต้นระดับแปดสิบตีนถีบ กับการล่าไม่เลิกจนรู้สึกเหนื่อยแทนพี่หลาม จุดไคลแมกซ์ช่วง 10 นาทีท้าย บอกเลยเมื่อถึงตอนนั้น คนดูก็ต้องการอ็อกซิเจน เพราะหายใจไม่ทั่วท้อง!
47 Meters Down: Uncaged ภาค 2 ของ 47 Meters Down หนังฉลามปี 2017 ที่ทำออกมาได้ดี โกยเงินได้เกินคาดจากความเป็นหนังทุนต่ำกำไรสูง ทำให้ผู้สร้างไม่รอช้ารีบเข็นภาคต่อออกมาทันที ซึ่งตอนแรกมีข่าวว่าใช้ชื่อ 48 Meters Down ตามคอนเซ็ปต์เดิมที่เป็นเล่นเรื่องระดับความ
ลึกของน้ำที่ส่งผลกับ ออกซิเจน อาการน้ำหนีบ ที่เกิดจากการดำน้ำลึกแล้วขึ้นผิวน้ำไวเกินไป กับอาการเมาไนโตรเจน ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นไคลแม็กซ์หักมุมที่กล้ามากๆ ภาคแรกทำให้คนดูจดจำได้จากเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด ซึ่งถือว่าทำได้ดี สอบผ่านเลยแม้จะมีความไม่สมเหตุผลหลายๆ อย่าง
ในเรื่องบ้าง แต่การกลับมาใช้ชื่อเดิม แต่เพิ่มคำว่า Uncaged ประมาณว่าฉลามแหกกรงออกมาจากภาคแรกแล้ว (ภาคแรกตัวเอกติดอยู่ในกรงดูฉลามใต้ทะเล) ซึ่งก็เล่นง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนโลเกชั่นมาอยู่ใต้เมืองโบราณ แล้วก็จับฉลามขาวมาใส่ไว้ไล่กัดคนในเรื่องที่ติดอยู่ในพื้นที่จำกัด แต่ Uncaged กลับละทิ้งรายละเอียดอย่างอื่นที่เป็นที่จดจำในภาคแรกไปแทบทั้งหมด
รีวิว 47 Meters Down Uncaged
ภาคต่อทุนสูงกว่าภาคแรกเท่าตัว (จาก 5 ล้านมาเป็น 11 ล้านเหรียญ) แต่กลับกลายเป็น “งานโลวเกรด” ที่ลดระดับลงมาทุกอย่างแบบไม่น่าเชื่อ ตั้งแต่บทที่ขาดความสมเหตุสมผลทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องฉลามขาวที่ไปติดอยู่ใต้เมืองบาดาลตั้งแต่ตัวเล็กๆ แล้วก็ออกจากที่นั่นไม่ได้ แถม
วิวัฒนาการมาเป็นฉลามผิวซีดๆ ตาบอดแบบปลาในถ้ำ เพื่อจะได้เล่นมุกฉลามมองไม่เห็น ไล่จับกับตัวละครในถ้ำมืดๆ ซึ่งก็ต้องร้องโอ้โหในใจว่าคนเขียนบทคิดมาได้อย่างไรกับวิวัฒนาการอะไรแบบนี้ (นี่ยังไม่นับว่ามันกินอะไรในนี้จนโตด้วยนะ) แต่สุดท้ายหนังก็ไม่ได้ใช้เรื่องฉลามตาบอดไปทำ
อะไรมากนักเลยจริงๆ แถมจากที่เห็นเป็นความพยายามออกแบบวิวัฒนาการฉลามใหม่กะให้ดูดุร้าย แต่กลายเป็นงี่เง่าลงกว่าเดิม แถมยังพ่วงด้วยความสามารถวาร์ป ใช่ครับอ่านไม่ผิด ฉลามวาร์ปได้จริงๆ จากในเรื่องที่บอกที่นี่เป็นเขาวงกตถ้ำใต้ทะเล ฉลามตาบอดกลับโผล่ตามมาได้ทุกจุดที่
ตัวละครหนีรอดผ่านซอกแคบๆ โอเคอาจจะแถว่ามันมีหลายตัวเลยโผล่ได้ทุกที่ก็จริง แต่นั่นยิ่งเป็นจุดบอดใหญ่ของเรื่องที่ว่า ที่นี่มีทีมนักดำน้ำโบราณสถาณมาบุกเบิกอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็เป็นทีมของพ่อนางเอกที่นั่งฟังเพลงใต้กันอย่างสบายใจ แต่ไหงอยู่ดีๆ กลายเป็นฉลามพวกนี้โผล่มางาบไป
หมดดื้อๆ หนังไม่มีคำอธิบายหรือแม้แต่จะจินตนาการว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยังไง ซึ่งต่างจากภาคแรกที่มีความสมเหตุผลของการที่ลงมาติดอยู่ใต้ทะเล แถมด้วยตัวเลขระดับความลึกที่นำมาเล่นเป็นเหตุการณ์น้ำหนีบได้อย่างเข้าท่า ในภาคนี้ไม่มีตัวเลขความลึกหรือเรื่องใดๆ จากภาคแรกมาเลย
มีเพียงแค่ข้อจำกัดออกซิเจนหมดที่ยังเหมือนภาคแรกเท่านั้น ซึ่งก็ขาดความสมจริงไปอีกเรื่องเนื่องจากตัวละครในภาคนี้กรี๊ดสนั่นตกใจตลอดทุกช่วง แต่ออกซิเจนกลับอึดเหลือหลาย ต่างจากภาคแรกที่ต้องลดอาการตื่นตกใจเพื่อควบคุมออกซิเจนให้ลดน้อยลงที่สุด ซึ่งก็เป็นข้อท้าทายอย่าง
หนึ่งที่เข้าท่า เรียกว่าภาคแรกพยายามเขียนบทให้ฉีกกรอบหนังฉลามกินคนหลายอย่างที่เคยสร้างกันมา แต่พอมาภาคนี้เอาของเก่ามายำใหม่จนกลายเป็นหนังที่ไม่น่าจะเหลือเครดิตอะไรให้ไปทำภาคต่อลงโรงได้อีกแล้ว ดูหนังออนไลน์4k
ความรู้สึกหลังดู
ส่วนสิ่งที่ยังพอขายได้ก็คงเป็นตัวละครหญิงเหมือนอย่างภาคแรก ที่คราวนี้ใช้ถึง 4 คนต่างกับภาคแรกที่ใช้แค่ 2 คนทั้งเรื่อง แต่ก็ยังหยิบยืมแนวทางพี่น้องไม่ลงรอยกัน แต่ต้องมาดำน้ำด้วยกัน แล้วก็กลายเป็นเรื่องราวการเอาชีวิตรอดที่ช่วยสานสัมพันธ์กัน ซึ่งในภาคแรกถ้าใครได้ดูมาก่อน
คงรู้ว่าตอนจบหนังได้สร้างฉากเซอร์ไพรส์ที่น่าจดจำ แต่ในภาคนี้กลับทำมาราบเรียบเป็นเส้นตรง ไม่มีการหักมุมใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังออกแบบให้มีบทตัวละครโง่ๆ ซึ่งเล่นโดยลูกสาวซิลเวสเตอร์สตอลโลน คนสวย ซึ่งเธอสวยจริงๆ ครับ แต่กลับได้รับป่วยสุด ไร้สมองสุดในเรื่อง แต่ยังดีที่สอง
นางเอกพี่น้อง Mia กับ Sasha ยังถือว่าสอบผ่าน พอมีเคมีเข้าคู่กันกับเรื่องถูไถเอาตัวรอดไปได้ ส่วนสาวชาวเวียดนามอีกคนก็พอถูไถไปได้กับบทผู้นำในเรื่อง แต่ด้วยองค์รวมกับบทป่วยๆ ไม่เมคเซนส์ตั้งแต่ต้นจบ ก็เลยไม่ช่วยให้ใครดูดีขึ้นมาจริงๆ ได้เลย ยิ่งตอนจบฉากสู้กับฉลามงาบลงไปใต้
ทะเลนี่ทำเอาอึ้งว่าคิดได้ไง ฉลามขาวงับคนเหมือนแมวคาบลูกไปซ่อน ไม่ได้มีความรุนแรงอะไรตามข้อเท็จจริงที่ฉลามขาวเป็นสัตว์ที่มีแรงกัดลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งภาคแรกก็มีฉากโดนฉลามกัดแบบโอเวอร์ๆ คล้ายกันในตอนจบ แต่ได้ทลายกฏความไม่เมคเซนส์ด้วยฉากจบเซอร์ไพส์แทน ทำให้ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่ารอดได้ยังไง ถ้าใครสงสัยอ่านดูจากสปอยล์ด้านล่างเอานะครับ ดูหนังออนไลน์
หนังไม่มีอะไรน่าจดจำหรือเทียบเคียงภาคแรกได้เลยทุกทาง แม้แต่การออกแบบฉากแคบๆ มากะให้ลุ้นระทึก แต่ในเรื่องกลับกลายเป็นฉากมืดๆ กับฉลามตาบอดปลอมๆ กับซีนไล่กัดซ้ำๆ แทบทั้งเรื่อง ยังดีที่มีช่วงท้ายเป็นฉากในทะเลเปิดปกติ ซึ่งก็ดีกว่าฉากไล่ล่าในถ้ำแบบเห็นได้ชัด แต่ก็ตาย
ด้วยความไม่เมคเซนส์อย่างที่กล่าวไปด้านบนนี่เป็นหนังสัตว์กินคนที่ทำมาห่วย ด้วยบทป่วยๆ อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าคิดทำกันออกมา แต่ถ้าใครแคลงใจว่าเอาน่า หนังแนวนี้จะไปหาเหตุผลอะไร แค่ดูคนถูกกัดก็พอใจแล้ว (เอาจริงๆ ก็แทบไม่ได้เห็นภาพหรืออะไรเลยเพราะถ้ำมันมืดๆ) ก็ต้อง
ลองพิสูจน์ดูด้วยตาตัวเองกันแล้วล่ะครับ ขอแถมรวมรีวิวจากรอบสื่อไว้เปรียบเทียบอีกทางครับ คลิกที่นี่ได้เลยโลกแผ่นฟิล์มและฉลามคงจะเป็นสิ่งที่อยู่เคียงคู่กันไปอีกนานแสนนาน เพราะในทุกๆ ปีจะต้องมีหนัง ที่ว่าด้วยฉลามดุร้ายออกอาละวาดโจมตีมนุษย์ออกมาให้ดูกันอยู่เป็นประจำ (ไม่ว่า
จะเป็นหนังที่ส่งตรงลงวิดีโอเลย หรือหนังที่ฉายบนจอยักษ์ก็ตาม) เช่นเดียวกันกับภาคต่ออย่าง 47 Meters Down: Uncaged ที่ไม่มีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวพันกับหนังภาคแรกเลยสักนิดเดียว แต่เลือกจะใช้ชื่อเดิมเพื่อเกาะกระแสความสำเร็จของหนังภาคแรก และสร้างโอกาสในการทำราย
ได้ให้กับหนังภาคถัดมาด้วยนั่นเองเหตุการณ์ในภาค Uncaged โฟกัสไปที่กลุ่มตัวละครวัยรุ่นไฮสคูล โดยเฉพาะพี่น้องต่างบิดามารดาอย่าง อย่าง มีอา (โซฟี เนลลิส) ซาช่า (คอรีนน์ ฟ็อกซ์) ที่ดูเหมือนจะยังปรับตัวเข้าหากันไม่ได้ และสำหรับมีอาเองเธอก็มักจะโดนกลั่นแกล้งจากเพื่อนใน
โรงเรียนอยู่เสมอ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่พ่อและแม่ของพวกเธอวางแผนให้ทั้งสองไปร่วมขึ้นเรือเพื่อไปดูการให้อาหารฉลามขาวในทะเลเม็กซิโก แต่อเลกซ่า (บรีแอน ทจู) ได้เสนอไอเดียว่า ควรไปว่ายน้ำเล่นกันในทะเลสาบส่วนตัวน่าจะสนุกกว่า อีกทั้งยังชวนอีกหนึ่งเพื่อนซี้อย่างนิโคล (ซิสทีน สตอลโลน) ไปร่วมก๊วนเพื่อนสาวด้วยอีกคน
ความสมเหตุสมผลของหนังยิ่งไม่ต้องถามถึง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหายใจเพื่อใช้ออกซิเจนของตัวละครเอกในเรื่องที่ดูน่าจะขาดใจตายกันตั้งแต่ 40 นาทีแรกของหนัง (หายใจไวกันขนาดนั้นออกซิเจนหมดไปนานแล้วเธอจ๋า) กระแสน้ำวนใต้ทะเลลึก (มาจากไหนเหรอ) ทีมงานดำน้ำจัดอุปกรณ์ครบทุกอย่างแต่ลืมตีนกบ (ได้เหรอ) หรือสารพัดเหตุผลที่พอเราคิดตามแล้วก็จะได้แต่คำถามที่ผุดงอกออกมาไม่รู้จบ