รีวิว Toy Story 1
วู้ดดี้ ของเล่นคาวบอยตัวโปรดของ แอนดี้ เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่สถานะของเล่นตัวโปรดนั้นเริ่มจะสั่นคลอน เมื่อก่อนวันเกิดของแอนดี้นั้น ได้รับของขวัญชิ้นใหม่เป็นของเล่นตำรวจอวกาศใหม่ล่าสุดนามว่า บัซ ไลท์เยียร์ การเข้ามาของ บัซ นั้นสร้างความไม่พอใจให้กับ วู้ดดี้ เป็นอย่างมาก เลยทำให้ทั้งคู่ต้องแย่งชิงการเป็นของเล่นตัวโปรด จนกระทั่งทั้งคู่ตกไปอยู่ในบ้านของเด็กข้างบ้านจอมทำลายของเล่น ทั้งคู่จึงต้องวางความเป็นอริและจับมือกันเพื่อกลับมาหา แอนดี้ของพวกเขาให้ได้
หมวดหมู่ : Adventure Animation Comedy
สัญชาติ : American
กำกับโดย : John Lasseter
ความยาว : 1 ชั่วโมง 21 นาที
นักแสดงนำ : Tom Hanks, Tim Allen, Don Rickles
สำหรับ Toy Story ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคแบบเต็มตัว การที่แสดงให้เห็นถึงว่าการ์ตูนนั้นก็ไม่ใช่สำหรับเด็กอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เรื่องนี้ยังเหมาะกับผู้ใหญ่หัวใจเด็ก ที่พาคนดูไปหวนรำลึกถึงวันเก่าๆ
ในวันที่เรามีของเล่นตัวโปรดที่รักและผูกพันกับมันได้เป็นอย่างดี และยิ่งถ้ามีเวลาไล่ดูไปจนถึงภาค 3 แล้ว รับรองได้ว่าผู้ใหญ่หัวใจเด็กทุกคนน่าจะได้มีโอกาสน้ำตาร่วงไปกับบรรดาแก๊งของเล่นแก๊งนี้อย่างแน่นอนเลย คนที่ชอบ Animation ยุคแรกๆ ของ Pixar อย่าง A Bug’s Life หรือ Monster Inc. ก็น่าจะสนุกไปกับ Toy Story ได้อยู่เหมือนกัน
อนิเมชั่นที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านจาก 2D สู่โลก 3D ที่สร้างโดยค่าย Pixar และจัดจำหน่ายโดย Walt Disney ซึ่งวางตัวเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกที่สร้างจากคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด แถมยังได้ทีมพากษ์ระดับดารารางวัลมาช่วยการันตีผลงานชิ้นนี้
จนกวาดรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 373 ล้านเหรียญ ด้วยทุนสร้างโดยประมาณ 30 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนนึงของความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ก็คงมาจากรูปแบบของ 3D ที่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่มีมาในตลาด รวมไปถึงการเล่าเรื่องที่เข้าอกเข้าใจวัยเด็กของคนดู
ที่มีความรักและผูกพันกับของเล่นตัวเองเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องราวการสร้างของเล่นให้มามีชีวิตก็ดูเป็นอะไรที่ยังใหม่มาก จนเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจในยุคนั้นเป็นอย่างมากเลย
หากย้อนไปดูในตอนนี้ ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีแล้ว อาจจะพบว่ามันเป็น Animation ที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดในโมเดลมากเท่าไร เมื่อเทียบกับยุคนี้ที่ผมเป็นเส้นๆ ดีเทลละเอียดเท่าเม็ดทราย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ แล้ว
เพราะในสมัยนั้นก็นับว่ายากที่จะหาคู่แข่งไหนมาเทียบได้ ประกอบกับเรื่องราวสุดสร้างสรรค์ของบรรดาของเล่นในแบบที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ก็ดูดี ไปจนถึงการออกแบบตัวละครที่แต่ละตัวก็มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังมีลูกเล่นของความเป็นของเล่นแต่ละอย่างที่สร้างสีสันและเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี
ด้วยความสร้างสรรค์ระดับนี้ทำให้ตัวหนังนอกจากจะได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมด้วยรายได้สูงมากแล้ว หนังยังได้ไปโลดแล่นเข้าชิงเวทีออสการ์ถึง 3 สาขาเลยทีเดียว แต่ถึงแม้หนังจะไม่ได้รางวัลจากส่วนที่เข้าชิงติดมือกลับมา
แต่ภาพยนตร์นี้ก็ได้รับบันทึกลงในหอสมุดภาพยนตร์แห่งชาติด้วย จากความสดใหม่และเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการของมัน จนสามารถมีภาคต่อตามมาได้อีกหลายภาค และยังคงรักษาคุณภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเลย หากใครที่เติบโตมากกับการเล่นของเล่นอยู่ด้วยแล้ว น่าจะอินไปกับเรื่องราวเหล่านี้ของ Toy Story ได้ไม่ยาก
รีวิว Toy Story 1
Toy story เป็นการ์ตูนที่สมัยเด็กๆผมดูเเล้วชอบมากๆ จำได้ว่าถึงขั้นหาซื้อตัวตุ๊กตามาเก็บไว้ที่บ้านเลยทีเดียว เเละภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นขวัญใจเด็กๆหลายคน รวมถึงผู้ใหญ่ด้วย ทั้งความน่ารักของตัวละคร มิตรภาพดีๆระหว่างเพื่อน เเละครอบครัว
บอกได้คำเดียวว่าในช่วงนั้นสามารถทำการ์ตูนแอนิเมชั่นได้ดีขนาดนี้ คงเป็นอะไรที่สุดยอดเเล้วล่ะ ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเขนาดยาวเรื่องเเรกของพิกซาร์ ที่ทำออกมาได้เจ๋งจริงๆครับ เรื่องนี้ออกฉายในปี 1995 โดย วอลต์ ดิสนีย์ พิกเจอส์ เเละกำกับโดย จอห์น แลสเซทเตอร์
เรื่องราว วูดี้ ของเล่นคาวบอย ในฐานะของเล่นตัวโปรดของแอนดี้ เด็กชายวัย 6 ขวบ ทำให้วูดี้กลายเป็นหัวหน้าบรรดาของเล่นทั้งหมด ในช่วงใกล้วันที่ย้ายบ้าน แอนดี้ จึงจัดวันเกิดก่อนวันเกิดจริง แต่เมื่อบัซ ไลท์เยียร์ ตุ๊กตาตำรวจอวกาศที่แม่ให้เป็นของขวัญเซอร์ไพรส์
ได้ก้าวเข้าในถิ่นของวูดี้ ในฐานะของขวัญวันเกิดชิ้นโปรดของแอนดี้ การชิงดีชิงเด่น เพื่อเป็นขวัญใจ ของเจ้านายตัวน้อยจึงเกิดขึ้น
เมื่อทั้งคู่ต้องตกไปอยู่ในบ้านของซิด เด็กชายข้างบ้านผู้รักที่จะทำลายของเล่นเป็นชีวิตจิตใจ การพจญภัยสุดป่วน ภารกิจสุดฮา กับเพื่อนพ้องของเล่นอีกมากมาย.. และการร่วมมือระหว่างวูดี้กับบัซ พวกเขาต้องรีบหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด ก่อนที่ แอนดี้
จะย้ายบ้านไปเสียก่อน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจะต้องเอาชีวิตให้รอดจาก ซิด ฟิลลิปส์ (อีริก ฟอน เดตเทน) เด็กวัยรุ่นจอมอำมหิตที่ชอบทำลายของเล่นเป็นที่สุด เพื่อหลบหนีกลับมานี่เองที่ทำให้พวกเขาตระหนักถึงมิตรแท้ วูดี้กับบัซต้องเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือกัน เพื่อที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เเละกลับมาอยู่กับเจ้านาย เเอนดี้ เเละเพื่อนๆอีกครั้ง..
ความรู้สึกหลังดู
เนื้อเรื่องภาคเเรกก็ยังไม่ได้เล่าที่มาที่ไปของตัวละครมากนัก เเต่เป็นเพราะการพบเจอกันครั้งเเรก เเละนำตัวตัวกันก่อนมากกว่า เรื่องราวก็ดำเนินได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่ออะไรครับ มีช่วงที่ฮาๆตลกๆ อยู่เรื่อยๆ ตัวละครทำได้น่ารักกวนๆดี
ภาพตัวการ์ตูนเเละฉากก็สวยงาม เเละจุดเด่นจะเห็นได้ว่าหนังการ์ตูนชุดนี้ สร้างขึ้นจากชิ้นของเล่น ที่ทำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำำให้ีมีชีีวิตได้ พูดได้ มีความรู้สึกได้ ซึ่งถือเป็นไอเดียที่เจ๋ง เพราะหยิบเอาเรื่องราวธรรมดามาเป็นของที่ล้ำค่าที่สุดได้นั่นเิอง
สมควรเเล้วที่หนังเป็นที่ชื่นชอบเเละยอมรับของคนมากมาย ได้ทั้งเเง่คิด มุมมองต่างๆระหว่างเพื่อนเเละพี่น้องครอบครัว ถึงเเม้อิจฉากันเนื่องจากไม่ได้รับความรักที่มากพอกว่าคนอื่น เเต่สุดท้ายก็เข้าใจกัน เพราะการช่วยเหลือซึ่งกันเเละกัน ไม่ทิ้งกัน นี่จะเป็นบทสรุปของคำว่าเพื่อนเเท้..
สรุปเเล้วเรื่องนี้ก็เป็นหนังเเอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ควรค่าเเก่การเก็บรักษาไว้ ขนาดผมดูภาค1-3 หลายๆรอบ ก็ยังชอบเหมือนเดิมครับ เหมือนกับทุกครั้งที่หยิบเรื่องนี้มาดูก็เหมือนเราได้ย้อนวัยเด็กอีกครั้ง.. ได้สนุกกับเพื่อนๆ เเละของเล่นสุดโปรดของเรา..เเหะๆ
เอาเป็นว่ามีความรู้สึกดีๆทุกครั้งที่ได้ดูเรื่องนี้ครับ ก็เเนะนำให้ลองหาดูกันนะครับ สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ดู ^^ รับรองคุณจะได้ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ เเละความสนุก รวมถึงมิตรภาพดีๆระหว่างเพื่อนกลับไปด้วยอย่างเเน่นอน..
ในภาคแรกนี้การ์ตูนได้เกริ่นถึงเรื่องราวของเหล่าของเล่นที่ต้องแกล้งทำเป็นของเล่นปกติที่ไม่มีชีวิต แต่ที่จริงแล้วของเล่นทุกชิ้นต่างสามารถมีความคิด ความรู้สึก และเคลื่อนไหวได้ไม่ต่างจากมนุษย์ โดยมีตัวละครหลักอย่าง ‘วู้ดดี้’ ตุ๊กตาคาวบอยยุคคลาสสิค ซึ่งเป็นของเล่นชิ้นโปรคของ ‘แอนดี้’ เด็กชายวัย 6 ขวบ ทำให้วู้ดดี้เป็นเหมือนหัวหน้าของเหล่าของเล่นชิ้นอื่น ๆ ในบ้านของแอนดี้อีกด้วย
เริ่มต้นกันที่ ทอยสตอรี่ ภาคแรก พาเราไปรู้จักกับเหล่าของเล่นของตัวละครเด็กนามแอนดี้ ของเล่นเหล่านี้ต่างมีชีวิต เคลื่อนไหวได้ ส่วนใหญ่พูดได้ แต่แสร้งเสทำเป็นไม่มีชีวิตเมื่ออยู่ต่อหน้ามนุษย์ โดยเฉพาะ “เจ้าของ” ของมัน
แต่แล้ววันหนึ่งในช่วงที่ครอบครัวของแอนดี้กำลังจะย้ายไปบ้านหลังใหม่ ครอบครัวของเขาจึงได้จัดปาร์ตี้วันเกิดล่วงหน้า และแอนดี้ก็ได้รับ ‘บัซ ไลท์เยียร์’ ของเล่นหุ่นยนต์ตำรวจอวกาศที่แม่ของแอนดี้ให้เขาเป็นของขวัญ ซึ่งเขาก็ชื่นชอบหุ่นยนต์ตัวใหม่นี้มาก ทำให้หลังจากนั้นก็เกิดการแย่งชิงความสนใจจากแอนดี้
ของวู้ดดี้ และบัซไลท์เยียร์ต้องการเป็นของเล่นชิ้นโปรดเพียงหนึ่งเดียวของแอนดี้จนเกิดเหตุบังเอิญให้เขาทั้งสองต้องไปตกอยู่ในมือของ ‘ซิด’ เด็กชายข้างบ้านของแอนดี้ ที่มีนิสัยชอบทำลายของเล่นด้วยวิธีการพิศดารต่าง ๆ วู้ดดี้ และ บัซ ไลท์เยียร์
จึงต้องร่วมมือกันเพื่อหนีกลับไปบ้านของแอนดี้ให้ได้ ทำให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน ได้เรียนรู้ถึงความแตกต่าง และเกิดเป็นมิตรภาพที่ดี เพื่อที่จะเอาชนะอุปสรรค และหาทางกลับไปาหาแอนดี้ให้ได้ เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งสองจะเป็นอย่างไร? พวกเขาจะสามารถหาทางกลับมาพบกับแอนดี้อีกครั้งได้หรือไม่? ต้องติดตามชมให้ได้ใน Toy Story นะคะ
กำกับโดย John Lasseter
ผลิตโดย Walt Disney, Pixar Studios
ปีที่เข้าฉาย ค.ศ. 1995
ความยาว 81 นาที