รีวิว The Sea Beast อสูรทะเล
The Sea Beast คือการผจญภัยใต้ท้องทะเลแสนสนุกที่ทั้งครอบครัวสามารถเพลิดเพลินได้ด้วยภาพจริงอันน่าทึ่งที่พิสูจน์ว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่น CG มาไกลแค่ไหนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โปรเจ็กต์ CG มักจะมีปัญหากับสองด้านโดยเฉพาะ ฉากแอ็กชันและขนาด… ข่าวดีก็คือ The Sea Beast ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งคู่
การต่อสู้ระหว่างสัตว์ประหลาดในทะเลกับนักล่านั้นยอดเยี่ยมมาก และด้วยไม้ทุกชิ้นที่แยกออกจากเรือ ความเที่ยงตรงของภาพในทุกฉากแอ็คชั่นจะสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง
มาตราส่วนเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยากที่จะบรรลุด้วย CG; คุณจะทำให้บางสิ่ง”รู้สึก”ยิ่งใหญ่ได้อย่างไรโดยไม่ต้องมีเกณฑ์เปรียบเทียบจริงในฉากเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาสมุทรเปิด
อย่างไรก็ตาม แฟนๆ จะดีใจที่ได้ยินว่าทีมงานของ Netflix Animation ได้ทำสำเร็จ เป็นงานที่ยอดเยี่ยมในการสร้างความรู้สึกของขนาดตลอดการผจญภัยของ The Sea Beast
พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดและวิธีที่การถ่ายทำภาพยนตร์ใช้มุมมองเพื่อเน้นขนาดของพวกเขาแปลได้ดีอย่างแน่นอน ที่จริงแล้ว หลายครั้งที่ความกลัวน้ำลึกคืบคลานไปทั่วหน้าจอและเข้ามาในห้องนั่งเล่นของคุณ ไม่ว่าคุณจะมองไปไกลแค่ไหน
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า The Sea Beast บางส่วนจำกัดศักยภาพของมัน – โดยหลักแล้ว ข้อเท็จจริงที่ว่าเรื่องราวยังคงคาดเดาได้อย่างมากและมีชื่ออื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันผสมกัน
ตามชื่อเรื่องของรีวิวนี้ The Sea Beast นั้นเป็นเวอร์ชันมหาสมุทรของ How to Train Your Dragon โดยมีบางแง่มุมของ Moana และ Pirates of the Caribbean เพื่อความบันเทิงเป็นพิเศษ
แม้ว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องมีการพลิกผันของชยามาลาน แต่ในที่สุด The Sea Beast ก็พยายามทำให้คุณอยากดู Hiccup and Toothless อีกครั้ง
ในฐานะ เครดิตที่เพิ่มขึ้น ฉันคิดว่าตอนจบที่เปิดกว้างและคลุมเครือมากขึ้นอาจเปลี่ยนความคิดสุดท้ายของเราเกี่ยวกับพล็อตเรื่อง คาดเดาใช่; มีไว้สำหรับเด็กและไม่ใช่สำหรับผู้ใหญ่อย่างแน่นอน แต่การลงท้ายด้วยข้อสรุปที่ไม่ค่อยดีนักอาจทำให้การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งขึ้น
สงครามครั้งนี้ดำเนินไปเป็นเวลาหลายศตวรรษ โดยคร่าชีวิตนักล่าและสัตว์ร้ายหลายแสนคน เราอาจจบลงด้วยการประท้วงต่อต้านราชวงศ์ที่ผลักดันการโฆษณาชวนเชื่อของพวกเขา แต่มีสัตว์ประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนที่นั่นและ Red ไม่ได้ควบคุมพวกมัน – เธอเป็นเพียงนักล่าอัลฟ่า
ในขณะที่ภาคต่อไม่ได้ ไม่มีการวางแผน การสิ้นสุดเวลาที่”รู้แจ้ง”ใหม่ให้คุ้มค่ามากกว่าที่จะเป็น”ความสงบ”สมควรได้รับอย่างแน่นอนหลังจากการเดินทางที่สนุกสนานและเดิมพันสูง
โดยรวม: สัตว์ทะเลคือ การผจญภัยที่สนุกสนานและสวยงามซึ่งคุ้มค่ากับการรับชม น่าเสียดายที่เราอาจจะลืมมันไปในหนึ่งหรือสองเดือน – 8.4/10 รีวิวการ์ตูนฝรั่ง
รีวิว The Sea Beast อสูรทะเล
ในยุคที่สัตว์ร้ายน่าสะพรึงกลัวท่องไปในท้องทะเล นักล่าสัตว์ประหลาดเป็นวีรบุรุษผู้โด่งดัง และไม่มีใครเป็นที่รักยิ่งไปกว่า Jacob Holland ผู้ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเมซี่ บรัมเบิลยังเด็กซุกตัวอยู่บนเรือในตำนานของเขา เขาต้องแบกรับกับพันธมิตรที่คาดไม่ถึง พวกเขาร่วมกันเริ่มการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สู่น่านน้ำที่ไม่คุ้นเคยและสร้างประวัติศาสตร์ Netflix ร่วมมือกับผู้สร้างภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง คริส วิลเลียมส์ (Moana, Big Hero Six, Bolt) สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
ปัจจุบันภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คะแนน 7.1/10 ใน IMDB ด้วยคะแนนที่สูงกว่า 8.8/10 และ 96 % ที่เห็นใน MetaCritic และ Rotten Tomatoes ตามลำดับ
“The Sea Beast เป็นแอนิเมชั่นผจญภัยที่แข็งแกร่งจาก Netflix และยังคงประวัติการกำกับของ Chris Williams ที่น่าประทับใจต่อไป แม้ว่าเรื่องราวจะมีจังหวะที่คุ้นเคย แต่ก็มีการอุทิศอย่างน่าทึ่งในการสร้างโลกและอยู่กับโลกนั้นอย่างแท้จริงโดยไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องบ่อนทำลายตัวเองด้วยอารมณ์ขันที่ประหม่าหรือความผิดพลาดโดยเจตนาหรือบทสนทนาร่วมสมัย โครงเรื่องบางจุดให้ความรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยหรืออาจถูกดัดแปลง แต่มันเป็นการผจญภัยที่สนุกสนานอย่างแน่นหนาที่ฉันแนะนำได้มาก – ผู้ใช้ IonicBreezeMachine ผ่าน IMDB
The New York Times ตั้งข้อสังเกตว่า”บาปที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสคริปต์นี้คือความสามารถในการคาดเดาได้ไม่เปลี่ยนแปลง”แต่ยกย่องว่า”ฉากหลังและภาพใต้น้ำน่าทึ่งมาก”
รูปหลายเหลี่ยมยังตั้งข้อสังเกตว่า The Sea Beast แสดงให้เห็นว่าแอนิเมชั่นมาไกลแค่ไหน โดยระบุว่า “คุณสมบัติอนิเมชั่นใหม่ของ Netflix คือ The Sea Beast แสดงให้เห็นว่าสื่อมาไกลแค่ไหนในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา – แต่มันแสดงให้เห็นพร้อมกันว่างบประมาณมหาศาลที่ไม่ได้รับแรงบันดาลใจ แอนิเมชั่นยังคงดูได้ บางครั้งหลังจากนั้นก็ให้ภาพที่น่าตื่นตา
“ในขณะที่ตัวเรื่องต้องการความโกลาหล The Sea Beast เป็นสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวที่หวานชื่นและเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดทะเลระยะประชิด แกนอารมณ์ที่แข็งแกร่ง และภาพที่สวยงามตระการตา มันมีหัวใจ การสร้างโลกที่ดี และข้อความสำคัญ แม้ว่าการตั้งค่าจะยาวเกินไปและจุดจบไม่แน่นอน – Matt Fowler ทาง IGN
ความรู้สึกหลังดู
มาสู่อีกหนึ่่งเรื่องราวการผจญภัยล้ำจินตนการระหว่างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยอสูรใหญ่ยักษ์ และนี่คือ “The Sea Beast อสูรทะเล” หนังแอนิเมชั่นออริจินัลเรื่องล่าสุดของเน็ตฟลิกซ์ ที่ถือว่าเป็นหนังการ์ตูนที่มาพร้อมกับพล็อตสูตรสำเร็จแต่เข้มข้นชวนติดตาม มาพร้อมกับเทคนิคงานสร้างและการสร้างสรรค์ออกแบบที่สมจริงน่าขนลุก นับว่าเป็นหนังที่อยู่นอกสายตาผู้ชมไม่น้อยทีเดียว
The Sea Beast ทะเลอสูร เป็นเรื่องราวในยุคที่อสูรน่าสะพรึงกลัวเพ่นพ่านอยู่ทั่วท้องทะเล เหล่านักล่าสัตว์ประหลาดต่างได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ และสุดยอดฮีโร่ผู้เป็นขวัญใจของใครๆ ก็คือ เจค็อบ ฮอลแลนด์ แต่เมื่อเด็กน้อย เมซี่ แบรมเบิล แอบขึ้นเรือในตำนาน เขาจึงต้องเจอกับพันธมิตรที่ไม่คาดคิด ทั้งคู่จะออกเดินทางครั้งสำคัญสู่น่านน้ำที่ไม่มีใครเคยไปและร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์
นี่คือผลงานล่าสุดของอดีตลูกศิษย์จาก วอลต์ ดิสนีย์ อย่าง “คริส วิลเลียมส์” ผู้ที่เคยสร้างหนังปัง ๆ อย่าง Bolt หรือ Big Hero 6 ออกมาเป็นที่น่าจดจำนั่นเอง โดยในครั้งนี้เขายังคงควบหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังด้วย แม้ว่าจะมาพร้อมกับองค์ประกอบของสูตรสำเร็จแบบจำเจเดิม ๆ ในหมวดหนังแอนิเมชั่นก็ตาม เหมือนกับนำเอานิทานและตำนานคลาสสิกต่าง ๆ มาปรุงแต่งใหม่ ออกมาเป็นรสชาติที่ยังกลมกล่อมกำลังพอดี
น่าประหลาดใจไม่น้อย ที่ไม่ว่าจะเป็นหน้าหนังหรือทีเซอร์ตัวอย่างหนังของ The Sea Beast ไม่ค่อยจะดึงดูดใจผู้ชมได้สักเท่าไหร่ เพราะภาพที่ออกมาเหมือนจะเป็นหนังแอนิเมชั่นเด็ก ๆ ธรรมดาทั่วไป แต่วลีที่ว่า “อย่าตัดสินจากเพียงแค่ภายนอก” น่าจะเหมาะกับหนังเรื่องนี้ เพราะเนื้อในและเนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้ถือว่าถ่ายทอดออกมาได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ และสนุกกว่านี่คาดหมายเอาไว้เลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่น่าประทับใจมาก ๆ ใน The Sea Beast ก็คือเทคนิคงานสร้างในหนังเรื่องนี้ แม้ว่างานออกแบบตัวละครและคาแรกเตอร์มนุษย์ในหนังจะทำออกมาได้ค่อนข้างธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก แต่ผู้ชมก็ต้องตื่นตาตื่นใจไปกับงานออกแบบสร้างฉากแอคชั่นสู้รบ รวมทั้งฉากธรรมชาติ-ท้องทะเลที่สมจริงแบบชวนขนลุกไม่น้อย นับตั้งแต่เปิดฉากแรกออกมาของหนัง
ขณะที่งานออกแบบอสูรต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ อาจจะไม่ได้น่าเกรงขามจริงจังอะไร เพราะนี่คือหนังแอนิเมชั่นผจญภัยสดใสเรื่องหนึ่ง ทำให้เหล่าอสูรใหญ่ยักษ์ในเรื่องนี้อาจจะไปในทางแต่งเติมเสริมจินตนาการมากกว่า ให้อารมณ์เป็นความน่ารักน่ากอดประมาณนั้น เพราะหากว่าหนังเรื่องนี้ดังขึ้นมา ก็น่าจะสามารถนำเอาไปแตกยอดสร้างเป็นผลิตภัณฑ์คาแรกเตอร์ต่าง ๆ ออกมาให้น่าจดจำและขายได้เลย
The Sea Beast เปิดเรื่องมาได้อย่างน่าตื่นเต้น เพราะฉากสู้รบกลางสมุทรที่น่าประทับใจ ให้อารมณ์เหมือน ๆ กับแฟรนไชส์หนังดังอย่าง Pirates of the Caribbean อะไรทำนองนั้นเลยทีเดียว แม้ว่าอาจจะน่าเสียดายที่หนังค่อนข้างยืดยาวไปสักหน่อย หนังการ์ตูนที่มีความยาวเกือบจะ 2 ชั่วโมง น่าจะไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ซื้อใจเฉพาะเด็ก ๆ แน่ แต่กระนั้นก็พลอยทำให้การเดินเรื่องในยาวกลาง ๆ ค่อนข้างช้าและเนือยไปสักหน่อย เมื่อมาอยู่กับพล็อตปรุงสำเร็จแบบเดิม ๆ
เพราะสุดท้ายแล้ว The Sea Beast ก็ม้วนจบเรื่องราวแบบขายได้ที่ไม่มีความแปลกใหม่อะไร มอบแง่คิดและปรับทัศนคติมุมมองแนวคิดของตัวละคร แต่ข้อความที่หนังสื่อสารออกมานั้น กลายเป็นฉากจบที่ช่างทรงพลังเกินกว่าที่คิดว่าหนังการ์ตูนเรื่องหนึ่งจะส่งข้อความออกมาแบบนั้น หนังยังถือว่ามอบประสบการณ์และอรรถรสความเพลิดเพลินได้ดีตลอดทาง เพราะอย่างน้อย ๆ การนอนดูหนังแอนิเมชั่นงานสร้างแจ่ม ๆ แบบเรื่องนี้ก็ถือว่าสร้างคาวมประทับใจได้อย่างคุ้มค่าดีแล้ว
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น The Sea Beast ถือว่าเป็นหนังนอกสายตาที่ทำออกมาได้เรียกความสนใจได้ดี แม้พล็อตเรื่องต่าง ๆ จะค่อนข้างเชยและซ้ำซากไปหน่อยก็ตาม แต่การผจญภัยครั้งนี้ก็ยังมีลูกเล่นและเทคนิคต่าง ๆ ที่น่าประทับใจดี แม้ว่าทีมพากย์เสียงของเรื่องนี้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก ทั้ง “คาร์ล เออร์บัน”, “แดน สตีเวนส์” หรือ “จาเรด แฮร์ริส” ก็มอบงานให้เสียงได้ตามมาตรฐานที่น่าพอใจดี และอยากจะเชียร์จริง ๆ ว่า…นี่คือหนังที่ไม่อยากให้พลาดเรื่องหนึ่งในปีนี้
