รีวิว The King’s Man
ภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนคิงส์แมน ซึ่งเขียนโดย เดฟ กิบเบินส์ และมาร์ก มิลลาร์ หากเราจะกล่าวถึงภาพยนตร์แนวแอคชั่น สายลับ ในลุคของสุภาพบุรุษชุดสูทแล้วละก็ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาพยนตร์ King’s Man คือหนึ่งในภาพยนตร์สายลับ
ที่ใครหลาย ๆ คนคงจะต้องนึกถึงเป็นเรื่องแรก ๆ เมื่อโลกต้องพบกับมหาวายร้ายที่หมายจะล้างบางมวลมนุษย์ บุรุษหนึ่งคนพร้อมลูกชายของเขาจะต้องร่วมมือกันปกป้องโลกให้ทันเวลาอย่างมีสไตล์
ซึ่งความจริงแล้ว ภาพยนตร์ชุด King’s Man เป็นหนึ่งในผลงานการกำกับของ Matthew Vaughn หรือผู้กำกับจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Kick Ass ที่เคยฝากผลงานให้เราได้คุ้นหูคุ้นตากันมาบ้างแล้วนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของผู้กำกับคนนี้คือการนำเสนอฉากแอ็คชั่น
ผสมผสานกับมุมกล้องสุดแปลกแหวกแนวอย่าง Point of view หรือ มุมมองบุคคลที่ 1 เสมือนว่าเราได้มองผ่านสายตาของตัวละครนั้นเองจริง ๆ
โดยในภาพยนตร์ The King’s Man ภาคนี้ ไม่ใช่ภาคต่อแต่เป็น Prequel ของสองภาคก่อนที่ผ่านมานั่นเอง โดยเนื้อหาหลักของภาคนี้ จะเป็นการเล่าเรื่องราวเน้นไปที่จุดต้นกำเนิดขององค์กรสายลับอิสระอย่าง KINGSMAN มาผสมผสานเข้ากับการนำเรื่องราวจริงบางส่วนในสงครามโลกครั้งที่ 1 มาถ่ายทอดให้เป็นประเด็น ซึ่งเราบอกได้เลยว่าถ้าใครที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ หรือเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 มาบ้างแล้ว จะทำให้การดูภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกขึ้นมากอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา จากที่เคยศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทางยุโรปมาบ้าง ทำให้การดูภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถดูได้อย่างลื่นไหลและเข้าใจบทบาทของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องได้พอสมควร อย่างการที่ภาพยนตร์จะใช้ความขัดแย้งของตัวละครต่าง ๆ
ซึ่งเป็นชนวนสำคัญ ที่ทำให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง พร้อมทั้งสอดแทรกภารกิจลับ ของเหล่าผู้บุกเบิกองค์กร KINGSMAN อย่าง Orlando Oxford รับบทโดย Ralph Fiennes ดยุคผู้เคยผ่านสงคราม และการสูญเสียคนสำคัญของชีวิตมานับไม่ถ้วน มาพร้อมกับลูกชายของเขาอย่าง Conrad Oxford รับบทโดย Harris Dickinson เด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีความกล้าหาญ แน่วแน่ ใฝ่ฝันอยากเป็นทหารเพื่อปกป้องประเทศชาติ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก
ซึ่งภายในตัวภาพยนตร์เอง จะบอกเล่าถึงความโหดร้ายของสงคราม การเข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพียงเพราะความขัดแย้งที่เล็กน้อยของจักรวรรดินิยมในสมัยก่อนอย่าง อังกฤษ เยอรมนี และ รัสเซีย ทั้งหมดก่อสงคราม สู้รบกันไปมา จนผู้คนต่างบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
Orlando Oxford ที่ไม่เห็นด้วยกับสงคราม ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดการปะทะกันระหว่างประเทศเหล่านี้ โดยการก่อตั้งเครือข่ายแฝงตัวเข้าไปในประเทศต่าง ๆ เพื่อล้วงข้อมูลที่สำคัญ และพยายามแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศนั้น ๆ อย่างลับ ๆ แต่ด้วยความที่เขามีปมภายในจิตใจที่ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รักอย่าง Emily Oxford รับบทโดย Alexandra Maria Lara จึงทำให้เขาพยายามปกป้อง Conrad Oxford จากคำสัญญาสุดท้ายที่ให้ไว้กับภรรยา โดยการทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันไม่ให้ลูกชายคนสำคัญของเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสงคราม เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
รีวิว The King’s Man
เมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งของชีวิต ตัวของ Conrad Oxford ไม่เข้าใจถึงการกระทำของพ่อ ผู้ซึ่งพยายามปกป้องและห้ามเขาไม่ให้เข้าร่วมสงคราม อีกทั้งเขาเองก็ยังไม่เข้าใจถึงความจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้ ส่วนตัวเรามองว่าตัวละครอย่าง Conrad นั้นเปรียบเสมือนนกในกรง
ที่อยากบินออกไปเผชิญโลกกว้างด้วยปีกของตัวเอง ด้วยความมุ่งมั่น บวกกับความกล้าหาญ และความศรัทธาอันแรงกล้า เขาจึงพยายามทำทุกวิธี เพื่อให้ได้ออกไปเผชิญกับความจริงของโลกอย่างที่เขาเคยวาดฝันไว้ แต่แล้วในความเป็นจริง เมื่อเขาต้องพาตัวเองไปสู่สงคราม สิ่งต่าง ๆ ที่เขาต้องพบเจอ มันไม่ใช่ภาพฝันอย่างที่เขาคิดไว้เลย มันเต็มไปด้วยความโหดร้าย ทารุณ และความสิ้นหวัง…
ซึ่งภายหลังจากที่เราได้ดู The King’s Man จบนั้น เกิดความรู้สึกขึ้นมากมายภายในใจ ทั้งผิดหวังและพอใจกับภาพยนตร์ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เรายังคงชื่นชอบและยังคงติดตามภาพยนตร์ชุด King’s Man อยู่นั้น คือการกำกับของ แมทธิว วอห์น ที่มีทั้งมุมกล้อง
ฉากแอ็คชั่น บวกกับการนำเสนอองค์ประกอบของภาพ ที่เราคุ้นเคยกันดีจากภาคก่อน ๆ ก็ได้ถูกนำมาใส่ในภาคนี้อีกด้วย เรียกได้ว่าฉากการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์นั้น เป็นฉากที่เราประทับใจมากจริง ๆ และที่สำคัญการนำเสนอความร้ายแรง ผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากสงคราม ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากอีกเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ในตัวภาพยนตร์เอง ยังใส่ Easter Egg มาให้เราพอได้นึกถึงเรื่องราวของภาคที่ผ่าน ๆ มาอีกด้วย ส่วนในเนื้อหาของการดำเนินเรื่องนั้น เราแอบรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับการเดินเรื่องบางฉากของตัวละคร เพราะรู้สึกว่าตัวละครบางตัวที่เหมือนจะเด่น
กลับถูกลดบทบาทลงไปมากพอสมควร อีกทั้งยังรู้สึกเสียดายที่ต้องสูญเสียตัวละครบางตัวไป แต่ก็พอเข้าใจได้ เพราะถ้าใครเคยมีโอกาสได้ดูภาคที่ผ่าน ๆ มาของภาพยนตร์ชุดนี้ ก็คงพอจะเข้าใจกันดีว่า “ถ้าไม่สูญเสียก็คงไม่ใช่ภาพยนตร์คิงส์แมน”
ซึ่งการจะตัดบทหรือฆ่าตัวละครสำคัญของเรื่องทิ้งนั้น คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ชมอย่างเราเซอร์ไพรส์มากพอสมควรเลยทีเดียว สำหรับภาพยนตร์ชุดนี้
และถ้าหากใครที่ยังไม่เคยได้ดูภาพยนตร์แนวสายลับ ที่แปลกใหม่ บวกกับมุมกล้องสุดเจ๋งอย่าง King’s Man มาก่อน เราขอแนะนำให้เริ่มดูตั้งแต่ภาคนี้เป็นต้นไปได้เลยนะ!!! แล้วเชื่อเถอะว่าคุณจะต้องตกหลุมรักตัวละครในทุก ๆ ภาคของภาพยนตร์ชุดนี้อย่างแน่นอน
ความรู้สึกหลังดู
แม้ว่าจะเป็นหนังที่เป็นภาคต่อจาก Kingsman ทั้งสองภาค แต่ก็ต้องขอเบรกเอี๊ยดก่อนนะครับ ถ้าหากว่าอยากจะไปดูแอ็กชันมัน ๆ ล้ำ ๆ เปี่ยมลูกบ้า หรืออยากไปดูความทันสมัยเท่เนี้ยบเฉียบคมในแบบสองภาคก่อนหน้านี้
เพราะว่าตัวหนังเรื่องนี้เป็นหนัง Prequel ที่พาย้อนไปหาตำนานต้นกำเนิดของหน่วยข่าวกรองคิงส์แมนแบบจริง ๆ จัง ๆ โปรดักชันดีไซน์โดยรวมก็เลยพาย้อนไปในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 แบบชัดเจนซะจนแทบไม่หลงเหลือภาพของหนังแอ็กชันล้ำ ๆ
และพล็อตเปี่ยมลูกบ้าเหมือนอย่างสองภาคก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่แทนที่ด้วยการเล่าเรื่องแบบหนังแอ็กชันที่ผสมรายละเอียดเกี่ยวกับการเมือง สงคราม และนำเสนอผ่านเรื่องราวของสายลับอังกฤษสมัยโบราณขนานแท้
สิ่งที่เป็นจุดเด่นอย่างชัดเจนของหนังเรื่องนี้ก็คือการหยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกมาตีความใหม่และดัดแปลงได้อย่างโดดเด่นและกลมกลืนมาก ๆ ครับ นอกจากว่าจะหยิบเอาเกร็ดประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริง รวมทั้งการใส่บุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์
เช่นจักรพรรดิ กษัตริย์ ประธานาธิบดี รวมถึง ‘รัสปูติน’ (Rhys Ifans) ผู้อื้อฉาว หรือแม้แต่ดยุกอ็อกฟอร์ดเองก็ได้แรงบันดาลใจจาก ‘ทีอี ลอว์เรนซ์’ (T. E. Lawrence) สายลับอังกฤษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีตัวตนอยู่จริง ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย
รวมทั้งการดัดแปลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่นการล่มสลายของจักรวรรดิรัสเซียด้วย แม้ว่าตัวหนังจะเล่าเกร็ดประวัติศาสตร์เอาไว้แบบหลวม ๆ แต่ก็ไม่ใช่แค่การเล่าประวัติศาสตร์ที่เอามาจับคู่กับตำนานสายลับคิงส์แมนที่เป็นเรื่องแต่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ เฉลยที่มาที่ไปเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยคิงส์แมน (ที่คนดูภาคก่อน ๆ แล้วน่าจะเก็ต) เพียงเท่านั้น
แต่ตัวหนังยังผสมผสานและแอบบิดประวัติศาสตร์ใหม่ ด้วยการเพิ่มพล็อตให้ตัวแทนประเทศต่าง ๆ ถูกควบคุมและยุแยงให้ทำสงครามกันอย่างลับ ๆ โดย “คนเลี้ยงแกะ” ได้อย่างแนบเนียนกลมกลืน ชนิดที่ดูแล้วเชื่อว่าสายลับคิงส์แมนอาจจะมีอยู่จริง และที่เกิดสงครามโลกก็อาจจะเป็นเพราะผู้ชายเพียงคนเดียวก็ได้นะครับ (555) เรียกได้ว่าตัวหนังในครึ่งแรกนี่คือมีความเป็นโทนหนังการเมืองแบบซีเรียส ๆ อยู่พอสมควร คอประวัติศาสตร์สงครามโลกที่พอจะรู้ปูมหลังอยู่แล้วน่าจะดูแล้วอึ้งและชื่นชอบได้ไม่ยาก
สรุปได้ว่า The King’s Man กำเนิดโคตรพยัคฆ์คิงส์แมน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คอหนังสายลับ ต้องซื้อตั๋วเข้าไปรับชม เอาจริง ๆ แค่เข้าไปเห็นหน้า ‘คอนราด’ ก็ถือว่าคุ้มแล้ว เพราะมองหน้าเขาเพียงหนึ่งครั้ง หัวใจก็ตกไปอยู่ตาตุ่มทันที ไหนจะเพลง ฉากแอคชั่น ที่ขนมาแบบจัดเต็ม! คุ้มเกินคุ้ม