รีวิว The Ice Road
เรื่องย่อ ‘ไมก์’ (Liam Neeson) คนขับรถ 18 ล้อมากประสบการณ์ที่ต้องฝ่ามรสุมเข้าไปช่วยชีวิตชาวเหมืองหลังจากเหมืองเพชรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดาเกิดถล่ม เขาต้องเร่งนำทีมกู้ภัยซิ่งข้ามมหาสมุทรเยือกแข็งเพื่อช่วยเหลือชาวเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินก่อนที่ออกซิเจนจะหมด พร้อมฝ่าทุกอุปสรรคเพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายไม่ใช่อันตรายเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องเผชิญหน้า
ถ้าจะพูดถึงหนังที่มี เลียม นีสัน นำแสดง คงร่ายได้ชื่อมายาวเป็นหางว่าว แต่ละเรื่องล้วนเข้าฉายในไทย ส่วนใหญ่เป็นหนังแนวแอคชันที่แทบจะเรียกได้ว่า ตรงใจกับคอดูหนังชาวสยาม หนังสไตล์ที่เหมาะกับชายคนนี้ มีทั้งความดุดัน ขึงขัง และมีความเท่อยู่ในบุคลิก คราวนี้ก็เช่นกัน ลุงเลียมมาในมาดคนขับรถบรรทุกที่ได้รับงานขับผ่านทะเลน้ำแข็ง ในหนังเรื่อง The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง ครับ
‘The Ice Road’ ว่าด้วยเรื่องของ ‘ไมก์’ (Liam Neeson) คนขับรถบรรทุก 18 ล้อตกอับ ได้รับการติดต่อให้ทำงานเมื่อเหมืองเพชรใต้ดิน ‘วินนีเพ็ก’ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศแคนาดาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งเย็นยะเยือก เกิดเหตุพายุหิมะจนทำให้เหมืองถล่มปิดตาย คนงาน 26 คนต้องติดอยู่ในเหมือง
ไมก์และ ‘จิม’ (Laurence Fishburne) จึงต้องนำขบวนรถบรรทุก ซิ่งข้ามมหาสมุทรเยือกแข็งระยะทางกว่า 300 ไมล์ ที่กำลังจะละลาย ฝ่าภูมิประเทศและภูมิอากาศที่โหดร้ายอย่างกับนรกภายในระยะเวลาจำกัดเพียง 30 ชั่วโมง เพื่อขนส่งบางสิ่งบางอย่างไปช่วยคนงานในเหมืองใต้ดินให้รอดตาย ซึ่งนอกจากพวกเขาจะต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติที่ยากต่อการเอาชนะแล้ว ก็ยังมีภัยบางอย่างที่กำลังจะมาทำให้ภารกิจยากยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
‘The Ice Road’ หรือ ‘เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง’ ในชื่อภาษาไทย เป็นผลงานการกำกับของ ‘โจนาธาน เฮนสเลก’ (Jonathan Hensleigh) ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างที่เคยผ่านงานแอ็กชันที่เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องนี่ ถือว่าระดับเป้ง ๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่ ‘Con Air’ (1997), ‘Armageddon’ (1998) และ ‘Gone in 60 Seconds’ (2000) พร้อมกับ ‘มาร์ก เวนสโลว์’ (Mark Vanselow) สตันต์และนักออกแแบบคิวบู๊คู่ใจลุงเลียม นีสันมาร่วมออกแบบงานแอ็กชันเย็นยะเยือกในครั้งนี้ด้วย แล้วที่สำคัญคือ ตอนนี้ Netflix รีบประมูลหนังเอาเข้ามาให้ดูกันผ่านทางสตรีมมิงเรียบร้อยแล้วด้วย แต่ว่าตอนนี้น่าจะดูได้เฉพาะในต่างประเทศนะครับ Netflix ภาษาไทยยังไม่มี
แต่แม้ว่ามันจะมีให้ดูกันผ่านสตรีมมิง (ส่วนของไทยก็น่าจะเร็ว ๆ นี้แหละ) แต่สิ่งที่ผู้เขียนเองอยากแนะนำก็คือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในโรงภาพยนตร์ครับ ไม่ได้ว่าจะอะไรนะครับ แต่ด้วยแอ็กชันของตัวหนังที่่ว่าด้วยเรื่องของการทำภารกิจผจญภัยสไตล์บู๊บนรถบรรทุก ภายใต้บรรยากาศเย็นเยือกแข็งแบบนี้ การดูในโรงน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้ซึมซับภาพและเสียงแอ็กชันได้อย่างเต็มที่แล้ว น่าจะได้ซึมซับกับแอร์โรงหนังที่น่าจะหนาวสู้กับความหนาวในหนังได้อะไรแบบนั้นเลย น่าจะได้บรรยากาศไปอีกแบบ (แซวนะครับ 555)
ตัวหนังเองจริง ๆ แล้วในแง่ของบท จริง ๆ ถ้าใครที่ดูตัวอย่างก็อาจจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า มันจะมีอะไรไปมากกว่าการขับรถฝ่าผืนน้ำแข็งที่กำลังจะแตกมั้ยว้า ซึ่งพอดูแล้วก็ถือว่าโอเคครับ เพราะว่ามันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่ามันจะถูกดึงมาเป็นไฮไลต์ก็เถอะนะ แต่โดยรวมของหนังก็ถือว่าออกมาเป็นหนังแอ็กชันกึ่ง ๆ ผจญภัย กึ่ง ๆ ทริลเลอร์ที่เล่าผ่านเรื่องราวของการเดินทางด้วยรถบรรทุกขนาดยักษ์
และแน่นอนว่า ในพาร์ตแอ็กชัน คนที่หวังว่าอยากเห็นลุงเลียมกลับมาบู๊ดุเดือด ก็น่าจะไม่ผิดหวังล่ะครับ เพราะคราวนี้ลุงเลียมที่ตอนแรกดูทรงแล้วจะไร้พิษสง เป็นตาลุงตกอับขับรถบรรทุกที่มีน้องชายป่วยอาการทางจิต แต่พอเข้าโหมดแอ็กชัน ลุงเลียมก็ใส่มาเต็มแบบไม่กลัวอายุกันเลย อาจจะไม่ได้ตะลุยเดี่ยวเป็นฮีโรเก่งโคตรเวอร์แต่ก็เรียกได้ว่าบู๊ดุเดือดแบบที่แฟน ๆ ลุงเลียมน่าจะไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะฉากรถจมน้ำ ที่ทีมงานใช้วิธีแช่น้ำแข็งแล้วเอารถลงไปหย่อนจริง ๆ ซึ่งลุงเลียมแกก็ต้องลงไปดำผุดดำว่ายในบ่อน้ำแข็งด้วยจริง ๆ (เบื้องหลังคือให้ลุงแกดำน้ำลงไปทีละ 10-20 วินาที) นี่ก็เรียกได้ว่าสปิริตแรงกล้า สมกับเป็นเดอะแบกหนึ่งเดียวของหนังจริง ๆ เพราะแม้จะมี ‘ลอว์เรนซ์ ฟิซเบิร์น’ ร่วมด้วย แต่ก็มาสั้นมากเกินกว่าจะมีบทบาทเด่นชัดเจน
รีวิว The Ice Road
ส่วนอีกจุดที่อยากพูดถึงก็คือความเวอร์ครับ ไม่อยากพูดถึง “พี่ดอมรถซิ่ง” แต่ก็ต้องพูดถึงอีกแล้วแหละ เพราะเอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้ก็จัดได้ว่ามีความเวอร์อยู่พอควรนะครับ แถมยังเกี่ยวกับรถเหมือนกันอีก คือในหนังเราจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่แอบเวอร์อยู่ไม่น้อยทีเดียว
เช่นความพยายามพลิกรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่ล้มตะแคงให้กลับมาวิ่งต่อได้ การโดดปีนขึ้นรถที่กำลังวิ่ง หรือแม้แต่ตัวละครที่เหมือนจะตายแต่ก็ดันไม่ตาย อะไรแบบนี้ คือแน่นอนว่า มันคงไม่เวอร์ระดับรถซิ่งเรื่องนั้น แต่มันก็มีความเวอร์อยู่นิด ๆ แหละ ซึ่งถ้าจะดูเอาความบันเทิงก็โอเคล่ะครับ
พาร์ตดราม่าก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่หนังเรื่องนี้ใส่เข้ามา โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัว (ยิ่งเขียนรีวิวไปก็ยิ่งนึกถึงหนังรถซิ่งทุกทีสิน่า 555) คือตัวของลุงเลียมเองจะมีน้องชายเป็นทหารผ่านศึกที่ประสบปัญหาทางจิตจนได้รับการกระทบกระเทือน
แต่มีทักษะด้านซ่อมรถขั้นเทพ ส่วนตัวนางเอกนักขับรถบรรทุกอย่าง ‘แทนทู’ (Amber Midthunder) ที่อยากอาสาเข้ามาร่วมขับรถแบบไม่ลังเล เพราะมีพี่ชายเป็นหนึ่งในคนงานที่ติดอยู่ใต้เหมืองใต้ดิน
ความรู้สึกหลังดู
ซึ่งจริง ๆ แล้วโดยโครงสร้างพล็อตก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรใหม่นะครับ เป็นพล็อตสไตล์หนังแอ็กชันยุค 90’s ที่มีพระเอกนางเอกที่ยึดมั่นในความถูกต้อง กับผู้ร้ายขี้โกง และฝ่ายผู้มีอำนาจที่ดูไม่ยี่หระไม่นำพาอะไรกับวิกฤติใหญ่ที่อยู่ภายนอกห้องทำงาน นั่นเลยทำให้ตัวพล็อตหนังโดยรวมทั้งพาร์ตแอ็กชันและดราม่าก็เลยไม่ได้ถึงกับสดใหม่ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่น่าเกลียด ยังมีปมดราม่าน้องชายให้ได้เอาใจช่วย กับแอ็กชันบู๊แหลกสไตล์ลุงเลียมให้ได้พอได้ลุ้นได้สนุก แม้ว่าบางจุดจะแอบเชยจนพอจะเดาได้บ้างก็เถอะ
นอกจากข้อสังเกตเรื่องพล็อตแล้ว อีกจุดที่ผู้เขียนเองมองข้ามไปไม่ได้จริง ๆ ก็คือเรื่องของซีจี ที่แม้ว่าพาร์ตแอ็กชันบางส่วนจะทุ่มทุนสร้าง แต่หลาย ๆ ส่วนโดยเฉพาะฉากแอ็กชันเวอร์ ๆ หรือพวกระเบิด ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่ซีจีหลาย ๆ ส่วนไม่เนียนเอาซะเลย ยังมีอาการลอย ๆ หรือปั้นโมเดลผิดสัดส่วนอย่างเห็นได้ชัดอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้เยอะจนน่าเกลียด ยังพอจะถู ๆ ไถ ๆ กับสเปเชียลเอฟเฟกต์โดยรวม ๆ ได้
โดยรวม ๆ แล้ว ผู้เขียนเองก็ยังอยากเชียร์ให้ไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์กันนะครับ ไม่ได้ว่าจะอะไรนะครับ แต่เชื่อว่าหนังแอ็กชันระดับนี้ การจะดูให้ได้ภาพและเสียงให้ได้อารมณ์และสนุกไปกับหนังได้ การดูในโรงหนังก็น่าจะดึงดูดความรู้สึกได้ดีกว่า แม้ว่าตัวพล็อตเองจะไม่ใหม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นแอ็กชันที่ดูเอามัน ดูเอาลุ้นได้ แถมยังได้บรรยากาศหนาวเหน็บจนฉี่จะราดอย่างแน่นอน
ถือเป็นหนังแอคชันผจญภัยที่ใช้เวลาประมาณ 109 นาทีเพื่อเล่าพล็อตที่อาจดูเชย (ในสายตาใครบางคน) แต่เล่าเรื่องได้ชวนลุ้นตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
หนังมาพร้อมเงื่อนไขของปฏิบัติการที่จำกัดด้วยเวลา หลังเกิดเหตุเหมืองถล่ม มีคนติดอยู่ภายใต้ชั้นหิน 26 คน พวกเขามีเวลาเพียง 30 ชั่วโมงก่อนอากาศจะหมด จำเป็นต้องเปิดช่องทางเข้าไปช่วยเหลือออกมาได้ทัน หากทำไม่สำเร็จย่อมหมายความตายของพวกเขา เครื่องมือที่ชื่อว่า ‘หัวหลุม’ ในเหมืองไม่มี ต้องขนมาจากอีกแห่ง แถมยังมีน้ำหนักมากจนไม่อาจขนทางเครื่องบินได้ เหลือเพียงหนทางสุดท้าย นั่นคือ การขนทางรถบรรทุก แต่ด้วยสภาพพื้นที่ ทำให้ต้องขับข้ามทะเลเยือกแข็ง
การขนผ่านเส้นทางก็นับว่าอันตรายมากพออยู่แล้ว แถมมันยังเป็นช่วงเดือนเมษายนที่แผ่นน้ำแข็งจะบางที่สุด
ยิ่งได้เห็นเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ถ่ายทำในสถานการณ์จริง พวกเขาเลือกจะไม่ใช่ CG เพื่อให้เกิดความสมจริงสูงสุด เช่นลุงเลียมถึงขนาดลงไปในหลุมน้ำแข็งที่อุณหภูมิต่ำเกือบถึงจุดเยือกแข็งด้วยตัวเอง ได้เห็นลุงต่อยกับตัวร้ายแบบตัวต่อตัว มากกว่านั้นก็คือได้เห็นฉากดราม่าชวนสะเทือนใจแถมมาให้ด้วย ลุงเลียมทำได้ทุกอย่างจริงๆ
ใครอยากลุ้นมันๆ ไม่ต้องใช้สมองมากนัก ขอเชิญมาดูหนังเรื่องนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ The Ice Road / เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง
ผู้กำกับ Jonathan Hensleigh
ผู้เขียนบท Jonathan Hensleigh
นักแสดง Liam Neeson, Marcus Thomas, Laurence Fishburne, Amber Midthunder, Benjamin Walker
แนว/ประเภท Action, Adventure, Drama, Thriller
เรท PG-13
ความยาว 109 นาที
ปี 2021
เข้าฉายในไทย 28 ตุลาคม 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย Code Entertainment, ShivHans Pictures, Envision Media Arts, Ice Road Productions