รีวิว The Colony – เมืองร้าง นิคมสยอง
เรื่องเกิดในยุคอนาคตครับ เมื่อภาวะโลกร้อนทำให้โลกกลับไปสู่ยุคน้ำแข็งอีกครั้ง มนุษย์ที่เหลือก็ต้องอาศัยอยู่ใต้ดิน ตั้งเป็นอาณานิคมแยกกันไปเป็นจุดๆ
ทีนี้อาณานิคมหมายเลข 5 ได้ส่งสัญญาณมายังอาณานิคมหมายเลข 7 ทีนี้หัวหน้าของอาณานิคมที่ชื่อบริคส์ (Laurence Fishburne) ก็ตัดสินใจเดินทางไปสำรวจ โดยมีแซม (Kevin Zegers) และเกรย์ดอน (Atticus Dean Mitchell) เป็นผู้ร่วมเดินทางไปด้วย และเมื่อพวกเขาไปถึงอาณานิคมหมายเลข 5 ก็ต้องเจอกับความจริงอันน่าสยอง เพราะคนที่นั่นตายหมด ด้วยน้ำมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์กินคนที่พร้อมจะเขมือบทุกชีวิตที่มันพบเจอ
ก็เป็นหนังไซไฟสยองขวัญที่ดูได้ครับ เนื้อหาก็ออกแนว Alien บนพื้นโลก มีคนส่งสัญญาณมาก็มีทีมไปสำรวจแล้วก็พบความสยอง ซึ่งด้านความสยองนั้นถือว่าหนังทำได้โอเคในระดับหนึ่ง พวกบรรยากาศเมืองใต้ดินดูโอเค คือดูดีกว่าหนังเกรดบีสมัยก่อนพอสมควรน่ะครับ เพราะสมัยยุค 90 มีหนังสไตล์นี้ออกมาเยอะ แต่ฉากพวกฐานใต้ดินจะดูไม่ค่อยมีรายละเอียด (คือดูเหมือนห้องแล้วจัดเอามากกว่า) แต่กับเรื่องนี้มีรายละเอียดขึ้นมานิด ดาราก็มีชื่อพอตัว ไม่ว่าจะ Fishburne, Zegers หรือ Bill Paxton ในบทเมสัน ผู้ดูแลอาณานิคมที่ชอบใช้ลูกปืนตัดสินปัญหา
แต่ถ้าว่ากันถึงความสนุกแล้วก็ยังไม่เยอะครับ มีช่วงอืดพอสมควร เรื่องตอนท้ายก็เดาได้ไม่ยาก ความน่าสนใจมีมาเป็นพักๆ แต่ก็ยังไม่มากกพอที่จะทำให้หนังเรื่องนี้สนุกจนถึงขั้นควรค่าแก่การดู
ไม่ได้บอกว่าหนังไม่สนุกนะครับ คือดูได้แบบไม่ต้องคาดหวัง ถ้าชอบหนังสไตล์นี้ก็น่าจะพอโอเค เพียงแต่ยังมีอีกหลายจุดที่ดีได้อีกน่ะครับ
ยุคน้ำแข็งและความเหน็บหนาว.. เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ แล้วถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวได้หวนกลับคืนมาเผชิญหน้ากับมนุษยชาติอีกครั้ง คงไม่มีใครที่ตอบได้ว่าจะสามารถใช้ความรู้และพลังของเทคโนโลยีในการช่วยให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ได้หรือเปล่า!?
ถ้าหากใครกำลังหาคำตอบนี้ให้กับตัวเอง เชื่อว่าหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง ที่กำลังจะขอรีวิวถึงกันในวันนี้ รับรองว่าจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ภัยพิบัติแห่งความเหน็บหนาว ที่มาพร้อมกับความสยองขวัญแบบสุดขั้วได้อย่างแน่นอน..
ประเภท : สยองขวัญ / ฆาตกร / วันสิ้นโลก
ปีที่ฉาย : 2013
เวลา : 1.35 ชั่วโมง
IMDb: 5.3 /10
เรื่องราวของหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง เกี่ยวข้องกับโลกในอนาคต เมื่อโลกได้หวนกลับไปสู่ยุคน้ำแข็ง ผู้รอดชีวิตจึงถูกบีบให้ลงไปอาศัยอยู่ในสถานที่หลบภัยใต้ดิน พร้อมกับแบ่งปันอาหารและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อเอาชีวิตรอดท่ามกลางภัยธรรมชาติอันแสนโหดร้าย
จนหนึ่งในสถานีหลบภัยใต้ดินแห่งหนึ่งขาดการติดต่อเงียบหายไป พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องส่งทีมค้นหาเพื่อให้ความช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันก็เพื่อสืบหาความจริงว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่น่ากลัวกว่าธรรมชาติอันหนาวเหน็บหรือเปล่า!?
หนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง มีฉากของเรื่องราวที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีการเปิดตัวเนื้อหาที่ทรงพลังจนสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความสงสัยว่ากำลังที่จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเหล่าตัวละครเอก
ฉากของการต่อสู้เองก็ทำออกมาได้ดีในส่วนของ CG ถือว่าทำออกมาได้ดี ฉากเนียน มีความสมจริง แม้แต่พายุหิมะก็ทำออกมาได้ยอด เห็นถึงความใส่ใจของผู้สร้างในรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง ก็มีส่วนด้อยหลายประการเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในช่วงท้ายของเรื่องราวที่ดูราวกับพยายามรีบจบหนังเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ทำให้ทุกอย่างดูเร่งรีบอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามเนื่องจากหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง
ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเกรด B อยู่ก่อนแล้ว บวกกับงบประมาณในการสร้างที่ค่อนข้างน้อย ดังนั้น ถ้าหากมองในเรื่องของคุณภาพโดยรวม ก็ยังถือว่าทำได้ดีเมื่อเทียบกับหนังในระดับเดียว
รีวิว The Colony – เมืองร้าง นิคมสยอง
ส่วนตัวของผู้เขียน หนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง เป็นหนังที่มีความสนุกในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้จะดูมีปริศนาหลายประการ แต่.. หนังเองก็สามารถที่จะตอบข้อสงสัยเหล่านั้นได้ค่อนข้างที่จะชัดเจน ทำให้ในตอนจบไม่ค่อยมีอะไรค้างคาให้สงสัยมากนัก ดังนั้น
ถ้าหากใครกำลังมองหาหนังสยองขวัญ ที่ไม่ใช่สยองขวัญแบบเต็มที่ 100% เชื่อว่าหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง จะช่วยแก้เบื่อได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับเวลาในการรับชมแน่นอน
เรื่องนี้กันได้เลย ภายในปี 2045 มนุษย์ได้สร้างเครื่องตรวจสภาพอากาศเพื่อควบคุมสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน เครื่องจักรพังลงเมื่อวันหนึ่งหิมะเริ่มตกและไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่ามนุษย์จะยังคงอยู่ให้อาศัยอยู่ในบังเกอร์ใต้ดินเพื่อหนีความหนาวเย็น
ความท้าทายของพวกเขาคือการควบคุมโรคและการผลิตอาหารที่เพียงพอ ทหารสองคนบริกส์ (ลอเรนซ์ ฟิชเบิร์น) และเมสัน (บิลแพกซ์ตัน) เป็นผู้นำของหลุมหลบภัยแห่งหนึ่งอาณานิคม 7 บริกส์แซม (เควิน ซีเกอร์ส) และเกรย์ดอน (แอตติคัสดีนมิทเชลล์)
เดินทางไปยังอาณานิคม 5 ที่อยู่ใกล้เคียงหลังจากได้รับสัญญาณความทุกข์ บริกส์ทิ้งไค (ชาร์ล็อตต์ ซัลลิแวน) คนรักของแซมให้ดูแลอาณานิคมในขณะที่เขาจากไปทำให้เมสันเสียใจมาก เมื่อมาถึงพวกเขาพบโคโลนี่ 5 ที่เต็มไปด้วยเลือด ในที่สุดพวกเขาก็ไปถึงประตูที่ถูกล็อกซึ่งแซมก็เปิดออก
ภายในพวกเขาพบลีแลนด์ ซึ่งแสดงข้อความที่ได้รับจากกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ซ่อมเครื่องตรวจอากาศและทำให้หิมะละลาย กลุ่มนี้ให้ความช่วยเหลือทุกคนและขอให้พวกเขานำเมล็ดมาเพื่อที่พวกเขาจะได้นำไปปลูกในดินที่ละลายน้ำแข็งได้ เขาแสดงให้พวกเขาเห็นว่าสัญญาณมาจากไหน
แต่แจ้งให้พวกเขาทราบว่าการสำรวจล้มเหลวในการค้นหาแหล่งที่มาของการส่งสัญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นการเดินทางของคณะสำรวจยังนำกลุ่มคนกินเนื้อกลับไปที่ โคโลนี่ 5 และการสังหารก็เกิดขึ้น บริกส์แซมและเกรย์ดอนพยายามบังคับให้ลีแลนด์กลับไปพร้อมกับพวกเขา
แต่เขากลับขังตัวเองกลับเข้าไปในห้องของเขา ทั้งสามเริ่มสำรวจ โคโลนี่ 5 และเข้าใกล้ห้องที่ไฟไหม้ ที่นี่พวกเขาเห็นมนุษย์กำลังสับสมาชิก ในขณะที่คนอื่นๆกินซากศพมนุษย์
ความรู้สึกหลังดู
กลับมาพบกันอีกแล้ว เพื่อนๆ เวลานี้ก็คงจะเป็นเวลาที่ใครหลายคนกำลังจะเดินทางกลับบ้านกันใช่ไหมล่ะคะ ส่วนเราก็ถึงบ้านก่อนเลยถึงเร็วกว่าปกติ แต่ก็ต้องทำใจกันเนอะสำหรับการจราจรบนท้องถนนในตอนเย็นๆแบบนี้ เพื่อนๆคนไหนที่อยากจะพักผ่อนโดยการดู ที่ได้บอกเล่าเมื่อโลกตกอยู่ในยุคน้ำแข็งอีกครั้ง
ผู้รอดชีวิตต้องอาศัยอยู่ใต้ผืนดินเพื่อหลบเลี่ยงความหนาวเย็นจนกลายเป็นอาณานิคม จนกระทั่งเสบียงเริ่มขาดแคลน เกิดโรงระบาดและความขัดแย้งภายใน ชาวนิคมเริ่มระแวงต่อความเลวร้ายเมื่อการติดต่อกับโคโลนี่ 5 ขาดหายไปอย่างลึกลับ และก็มีกลุ่มคนได้ตัดสินใจออกเดินทางไปถึงจุดหมายและพบกับภัยยางอย่างที่น่ากลัวกว่าธรรมชาติ
ขณะที่ทั้งสามพยายามหลบหนี เกรย์ดอนถูกฆ่าโดยมนุษย์กินคน บริกส์และแซมสามารถสร้างบันไดขึ้นมาจากอาณานิคมและทำลายเพลาด้วยดินระเบิด พวกเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อหลบภัยในเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกทิ้งร้างและพบว่ามนุษย์กินคนสามารถหลบหนีจากอาณานิคมที่ 5 ที่ถูกฝังอยู่และได้ติดตามรอยเท้าของพวกมันในหิมะ
ไคล์ทะเลาะกับเมสันอย่างดุเดือดหลังจากรู้ว่าเขาตั้งใจจะฆ่าเจ้าอาณานิคมโดยไม่ได้ทดสอบเธอว่าเป็นโรค การโต้เถียงของพวกเขาหยุดชะงักเมื่อไคเห็นแซมที่กำลังกลับมาเหนื่อยล้าและวิ่งไปหาเขา แต่เมสันก็ผลักเธอออกทันที เมื่อแซมตื่นขึ้นเขาพบว่าเมสันเข้ายึดครองและวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
เรื่องราวเมื่อโลกตกอยู่ในยุคน้ำแข็งอีกครั้ง ผู้รอดชีวิตต้องอาศัยอยู่ใต้ผืนดินเพื่อหลบเลี่ยงความหนาวเหน็บจนเป็น อาณานิคม จนเมื่อเสบียงเริ่มขาดแคลน เกิดโรคระบาด และเกิดความขัดแย้งภายใน ชาวนิคมเริ่มระแวงต่อความเลวร้ายเมื่อการติดต่อกับโคโลนี่ 5 ขาดหายไปอย่างลึกลับ ผู้นำโคโลนี่ 7
จึงตัดสินใจนำทีมออกไปค้นหาสาเหตุ แต่ถูกท้าทายโดยอดีตเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขที่มีความเห็นแตกต่างกัน เขาพาสองอาสาสมัครไปด้วย จนเมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงจุดหมาย พวกเขาพบกับภัยบางอย่างที่น่ากลัวกว่าธรรมชาติ และต้องต่อสู้เพื่อตัวเอง และ พี่น้องชาวนิคม
ดำเนินเรื่องเรื่อยๆโดยผ่านการเล่าเรื่องจากตัวละครหลักเป็นช่วงๆ ช่วงแรกค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อย มีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครบ้าง มีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง มีฉากโหดบ้าง พฤติกรรมของคนที่ติดเชื้อจะคล้ายๆเรื่อง Doomsday (2008) ห่าล้างโลก
ยุคน้ำแข็งและความเหน็บหนาว.. เป็นหนึ่งในทฤษฎีที่นำไปสู่การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ แล้วถ้าหากเหตุการณ์ดังกล่าวได้หวนกลับคืนมาเผชิญหน้ากับมนุษยชาติอีกครั้ง คงไม่มีใครที่ตอบได้ว่าจะสามารถใช้ความรู้และพลังของเทคโนโลยีในการช่วยให้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ได้หรือเปล่า!?
ถ้าหากใครกำลังหาคำตอบนี้ให้กับตัวเอง เชื่อว่าหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง ที่กำลังจะขอรีวิวถึงกันในวันนี้ รับรองว่าจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ภัยพิบัติแห่งความเหน็บหนาว ที่มาพร้อมกับความสยองขวัญแบบสุดขั้วได้อย่างแน่นอน..
เรื่องราวของหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง เกี่ยวข้องกับโลกในอนาคต เมื่อโลกได้หวนกลับไปสู่ยุคน้ำแข็ง ผู้รอดชีวิตจึงถูกบีบให้ลงไปอาศัยอยู่ในสถานที่หลบภัยใต้ดิน พร้อมกับแบ่งปันอาหารและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อเอาชีวิตรอดท่ามกลางภัยธรรมชาติอันแสนโหดร้าย
จนหนึ่งในสถานีหลบภัยใต้ดินแห่งหนึ่งขาดการติดต่อเงียบหายไป พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องส่งทีมค้นหาเพื่อให้ความช่วยเหลือ ในขณะเดียวกันก็เพื่อสืบหาความจริงว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่น่ากลัวกว่าธรรมชาติอันหนาวเหน็บหรือเปล่า!?
หนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง มีฉากของเรื่องราวที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีการเปิดตัวเนื้อหาที่ทรงพลังจนสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความสงสัยว่ากำลังที่จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับเหล่าตัวละครเอก
ฉากของการต่อสู้เองก็ทำออกมาได้ดีในส่วนของ CG ถือว่าทำออกมาได้ดี ฉากเนียน มีความสมจริง แม้แต่พายุหิมะก็ทำออกมาได้ยอด เห็นถึงความใส่ใจของผู้สร้างในรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเป็นอย่างมาก
ส่วนตัวของผู้เขียน หนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง เป็นหนังที่มีความสนุกในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้จะดูมีปริศนาหลายประการ แต่.. หนังเองก็สามารถที่จะตอบข้อสงสัยเหล่านั้นได้ค่อนข้างที่จะชัดเจน ทำให้ในตอนจบไม่ค่อยมีอะไรค้างคาให้สงสัยมากนัก
ดังนั้น ถ้าหากใครกำลังมองหาหนังสยองขวัญ ที่ไม่ใช่สยองขวัญแบบเต็มที่ 100% เชื่อว่าหนังสยองขวัญ The Colony เมืองร้างนิคมสยอง จะช่วยแก้เบื่อได้เป็นอย่างดี คุ้มค่ากับเวลาในการรับชมแน่นอน
