รีวิว RED DRAGON กำเนิดอำมหิต

สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังสยองขวัญเรื่อง Red Dragon กำเนิดอำมหิต กับเนื้อหาตาต่อตาฟันต่อฟัน ใช้ฆาตกรสุดโหดเพื่อล่าฆาตกรแสนโหดให้อยู่หมัด

แม้หนังจะออกมาหลังเขาเพื่อน แต่ถ้าว่ากันตามนิยายล่ะก็ เรื่องนี้มาเป็นอันแรกนะครับ จะเป็นเรื่องราวก่อนที่ดร.ฮันนิบาล เลคเตอร์ (Anthony Hopkins) จะมาเจอกับแคลริซ สตาร์ลิง ซึ่งตอนนั้น ดร.เลคเตอร์ยังอยู่สบายดี มีฐานะและคนนับถือ ขณะเดียวกันพี่แกก็เป็นฆาตกรโหดที่เอาเนื้อของเหยื่อมาทำเป็นอาหาร

และในที่สุดเขาก็โดนจับโดย วิล แกรแฮม (Edward Norton) เอฟบีไอมือดี ต่อมา ได้เกิดมีฆาตกรโหดที่ชื่อว่า ทู๊ท แฟร์รี่ หรือ ไอ้เขี้ยวสยอง (Ralph Fiennes) ปรากฏขึ้นมาไล่ฆ่าคน ทำให้วิลจนตรอก เขาเลยตัดสินใจไปขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากดร.เลคเตอร์

ตัวหนังทำ ได้ดีมากๆ ครับ ดีกว่า Hannibal แน่นอน ที่งงคือ หนังกำกับโดย Brett Ratner ผู้กำกับซึ่งเคยจับมาแต่หนังตลก อย่าง Rush Hour แต่นี่ พี่แกมาทำหนังสืบสวน ทำไม่ทำเปล่ายังออกมาดีอีก โอย เก่งมากๆเลยครับ ตัวหนังน่าติดตามและนักแสดงก็ได้ที่ทั้งสิ้น ดนตรีของ Danny Elfman เจ้าชายดำแห่งวงการคอมโพเซอร์ ก็เข้ากับความโรคจิตของหนังดีจริงๆ  หนังผีฝรั่ง

แต่ ที่ผมทึ่งมากอีกอย่างก็คือ หนังสามารถเมคอัพ ลุง Anthony แกให้กลับมาดูหนุ่มแบบใน Silence ได้ แต่คนที่เฉียบกว่าคือ Anthony Heald เจ้าของบท ดร.ชิลตั้น หัวหน้าโรงพยาบาลจอมจองหองนั่นแหละครับ ถ้าใครจำได้ล่ะก็ พี่แกก็เคยโผล่มาแล้วใน Silence ตอนนั้นเขาจะดูนิ่งๆ แก่ประสบการณ์ใช่มั้ยครับ

แต่กับเรื่องนี้พี่แกปรับบุคลิกให้เป็นมือใหม่ได้อย่างน่าเชื่อถือ อีกทั้งทีมงานเมคอัพแกได้หนุ่มมากๆ ดูยังกับอายุ 30 ทั้งๆที่อายุจริงๆของเขานี่จะ 60 แล้วนะครับ ผมล่ะก๊ากเลยตอนเห็นหน้าพี่เขาครั้งแรกในหนังน่ะโอ้ หนุ่มเหลือเชื่อจริงๆ

ทีม นักแสดงต้องเรียกว่ารวมดาราขายฝีมือแบบสุดๆ ครับ นอกจาก Hopkins, Heald และ Fiennes ซึ่งแสดงได้อย่างดีมากๆ แล้ว ตัว Norton ก็รับบทวิลได้อย่างยอดเยี่ยมครับ, Harvey Keitel มารับบทแจ๊ค ครอว์ฟอร์ด ซึ่งก็ทำได้ดีมากเช่นกัน, Emily Watson มารับบทสาวตาบอด รีบา คนที่ทู๊ทแฟรี่ไปแอบชอบน่ะแหละ เธอก็หายห่วงไปครับ

เล่นได้ขนาดไหนล่ะ, Mary-Louise Parker มาป็นมอลลี่ แกรแฮม ภรรยาของวิล ซึ่งเธอแม้จะโผล่น้อยแต่แสดงได้เยี่ยมมาก เอาแค่ฉากที่เธอปล่อยโฮในตอนสุดท้ายนั่นก็ยิ่งยอดล่ะครับ, Philip Seymour Hoffman มาเป็น เฟรดดี้ ลาวน์ นักข่าวจอมสอดที่ในเรื่องก็ต้องเจอกับเรื่องสยองสุดขีด

พี่แกก็ไม่ลำบากอยู่แล้วครับ หลับตาเล่นยังได้เลย และ Frankie Faison ก็กลับมารับบท บาร์นี่ย์ ผู้ดูแลสถาบันประสาทและยังเป็นผู้ดูแลดร. เลคเตอร์ตามเคย

นักแสดงสุดยอด หนังเดินเรื่องดี การสืบน่าติดตาม ครบเครื่องครับ แต่โทนมันเบากว่าใน The Silence เยอะครับ แต่ผมว่าดีนะครับ มันสนุกและทำได้ยอดมากสำหรับหนังสืบสวนซักเรื่องนึง ก็จัดว่าต้องดูครับ (เขาว่ากันว่าตอนแรก Michael Bay แห่ง The Rock และ Armageddon จะมากำกับครับ โอย ถ้าพี่แกมาจริงหนังจะเป็นไงหว่า)

หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต เป็นหนึ่งในชุดหนังแนวฆาตกรโรคจิตกินคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “ฮันนิบาล เล็คเตอร์” โดยเรื่องราวอยู่ในช่วงหลังจากที่ฮันนิบาลได้ถูกจับกุมตัวมาคุมขังเอาไว้ในโรงพยาบาลสำหรับกักกันฆาตกรโรคจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องราวของหนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต จะมีความน่าสนใจเกี่ยวข้องกับฆาตกรอำมหิตสุดอัจฉริยะอย่างไรกันบ้างนั้น ลองมาฟังรีวิวจากบทความชิ้นนี้กันเลย…

ประเภท : สยองขวัญ / ฆาตกร / จิตวิทยา

ปีที่ฉาย : 2002

เวลา : 2.4 ชั่วโมง

IMDb: 7.2 /10

รีวิว RED DRAGON กำเนิดอำมหิต

หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต เป็นเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ FBI ที่ทำการเกษียณอายุราชการของตัวเองก่อนกำหนดเพื่อใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างสงบ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีฆาตกรสุดโหดที่ถูกเรียกว่า “นางฟ้าฟันน้ำนม” ปรากฏตัวขึ้น ทำให้เขาต้องให้ความช่วยเหลือในการติดตามฆาตกรที่แสนลึกลับ

ควบคู่ไปกับรับความช่วยเหลือจากฆาตกรสุดโหดและนักจิตแพทย์ชื่อดัง “ฮันนิบาล เล็คเตอร์” ที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ เพื่อให้เข้าใจและเข้าใกล้ฆาตกรปริศนารายนี้ให้มากที่สุด

หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต ต้องขอปรบมือให้กับนักแสดงที่สามารถสวมบทบาทตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต ยังเป็นหนังระทึกขวัญแนวจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยม เป็นภาคของเหล่าแฟนฮันนิบาลไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ในส่วนของจุดด้อย มีความแตกต่างของนักแสดงจากภาค The Silence of the Lambs อยู่พอสมควร โดยเฉพาะ “แอนโธนี ฮอปกินส์” ที่การแสดงออกของฮันนิบาลแตกต่างออกไปจนมากผิดสังเกต มันทำให้เกิดความสะดุดในการรับชมเหมือนกับเป็นตัวละครคนละตัวอย่างน่าเสียดาย นอกจากนี้หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต ยังทำออกมาได้ไม่ยอดเยี่ยมเท่ากับ The Silence of the Lambs ที่อาจขึ้นแท่นของหนังระทึกขวัญที่ดีที่สุดไปอย่างน่าเสียดาย แถมหนังเรื่องนี้ก็ยังไม่มืดมนพออีกด้วย

สำหรับผู้เขียน หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ลุ้นระทึก แถมยังได้เห็นบางแง่มุมของกฎหมายที่ใช้พิษล้างพิษในการจัดการฆาตกรโหด ด้วยบางสิ่งที่น่าสยดสยองมากกว่า ทำให้หนังสยองขวัญ Red Dragon กำเนิดอำมหิต เป็นหนึ่งในหนังแนวฆาตกรโรคจิตที่น่าดูเป็นอย่างมาก

แต่.. ถ้าหากอยากที่จะเพิ่มอรรถรสในการรับชม ขอแนะนำว่าควรดูหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวของฮันนิบาลในภาคก่อนจะดีกว่า เพื่อที่จะได้เข้าใจอาการทางจิตที่นำทางในจิตแพทย์อัจฉริยะกลายมาเป็นคนกินเนื้อคนที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ดูหนัง

รีวิว RED DRAGON กำเนิดอำมหิต

ความรู้สึกหลังดู

เมื่อครั้งที่เขาสังกัดเอฟบีไอ วิล แกรม เกือบกลายเป็นโรคประสาทตอนตามจับดอกเตอร์ฮันนิบาล เลกเตอร์ ฆาตกรอัจฉริยะที่ไม่เหมือนใคร ตอนนี้แกรมกำลังทำความเข้าใจรูปแบบการกระเซ็นของคราบเลือดจากน้ำมือ เทพพิทักษ์ฟันน้ำนม ฆาตกรวิปลาสที่ฆ่ายกครัวไปแล้วถึงสองครอบครัว ทางเดียวที่แกรมจะเข้าใจได้คือการหวังพึ่งสมองอัจฉริยะของ

ฮันนิบาล เลกเตอร์ดร. ฮันนิบาล เล็กเตอร์กลับมาอีกแล้วค่ะ! อันที่จริงแล้ว เล่มนี้เป็นเล่มก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง Silent of The Lamb ค่ะ เรื่องจะเป็นอย่างไรนั้น แอดมินจะเล่าให้ฟังค่ะในเล่มนี้ ดร.เล็กเตอร์ถูก FBI ชื่อวิล แกรม จับเข้าคุก หลังจากที่แกรมพบความเชื่อมโยงจากที่ ดร.เล็กเตอร์ว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง และเขาก็โดนเล็กเตอร์แทงเข้าที่ท้องจน

ต้องเข้าโรงพยาบาล แถมมาด้วยอาการทางจิตจึงต้องจบชีวิตการเป็น FBI ออกมามีครอบครัวและย้ายไปอยู่เมืองที่ติดทะเล แต่เมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรมครอบครัว 2 บ้านคือ ครอบครัวลีดส์และครอบครัวจาโคบีอย่างสยดสยอง สมาชิกของทั้งสองบ้านถูกฆ่ายกครัว มีร่องรอยข่มขืนบนร่างกายของคุณนายลีดส์และคุณนายจาโคบี ส่วนสมาชิกคนอื่นนั้น

ถูกแทง ถูกยิงและนำกระจกมาใส่ไว้ในเบ้าตาของทุกคน และจัดเรียงศพไว้ราวกับเป็นผู้ชมเมื่อฆาตกรได้กระทำชำเราร่างอันไร้วิญญาณของคุณนายทั้งสองบ้าน กระจกทั่วบ้านถูกทุบแตกกระจาย นักข่าวและเหล่าตำรวจเรียกฆาตกรคนนี้ว่า “เทพพิทักษ์ฟันน้ำนม” เพราะพบรอยกัดบนตัวของเหยื่อ ครอว์ฟอร์ด ผอ. FBI จึงต้องไปขอร้องแกรม

แกรมซึ่งมีความสามารถพิเศษในการวิเคราะห์พฤติกรรมของอาชญากรจึงถูกตามกลับมาให้เป็นที่ปรึกษาของคดีทั้งสองนี้

เว็บหนัง

รีวิว RED DRAGON กำเนิดอำมหิต

เมื่อแกรมได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทั้งสองบ้าน เขาก็เกิดความสับสน ความเชื่อมโยงที่ว่าฆาตกรทั้งสองคดีคือคนเดียวกัน แต่เบาะแสอย่างอื่นก็ยังมืดแปดด้าน เขาจึงจำใจต้องขอเข้าพบกับ ดร.เล็กเตอร์เพื่อขอคำปรึกษา เมื่อทั้งสองได้พบกันก็เกิดการแซะกันเล็กน้อย แต่ ดร.เล็กเตอร์ก็ยอมให้ความช่วยเหลือ เมื่อแกรมได้เดินออกมาจากโรง

พยาบาลที่คุมขัง ดร.เล็กเตอร์ นักข่าวจากหนังสือพิมพ์เนชันแนลแทตเลอร์ชื่อเฟรดดี เลาส์ได้แอบถ่ายภาพของแกรมพอดี และนำไปเขียนบทความ
ดร.ชิลตันผู้อำนวยการ รพ.ที่คุมขัง ดร.เล็กเตอร์ได้โทรศัพท์ด่วนมาที่ครอว์ฟอร์ดและแกรมว่าเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมได้เขียนจดหมายติดต่อมาให้ทาง ดร.เล็กเตอร์ พวกเขาพบมัน

ระหว่างที่ทำความสะอาดห้องขังของเล็กเตอร์ ครอว์ฟอร์ดและแกรมจึงขอจดหมายฉบับนั้นและนำมาวิเคราะห์ทันที ซึ่งพวกเขาได้รู้ว่าฆาตกรได้อ่านหนังสือพิมพ์เนชันแนลแทตเลอร์จากประโยคในจดหมาย ดังนั้นครอว์ฟอร์ดและแกรมจึงเรียกเลาส์เข้ามาให้ข้อมูลเท็จเพื่อล่อให้ฆาตกรออกมา

ฟรานซิส ดอร์ลาไฮด์ ฝ่ายดูแลวีดิโอครอบครัว หัวหน้ากลุ่มฝ่ายผลิตของบริษัทเกตเวย์ ได้เข้ามาพบรีบา แมคเคลนสาวตาบอดซึ่งทำงานบริษัทข้างๆ เพื่อมาขอตู้อบฟิล์มและฟิล์มอินฟาเรดสำหรับถ่ายวิดิโอตอนกลางคืนเพื่อนำไปติดตั้งที่สวนสัตว์ ดอร์ลาไฮด์ซึ่งมีปมด้อยเรื่องหน้าตามาตลอดเขารู้สึกดีที่รีบามองไม่เห็นและไม่วิจารณ์เรื่องหน้าตาของ

เขา ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่คืบหน้ามากขึ้น ระหว่างนั้นเฟรดดี เลาส์ก็ถูกเทพพิทักษ์ฟันน้ำนมจับตัวไป เขาถูกบังคับให้กล่าวคำขอโทษและอ่านตามบทที่เทพพิทักษ์ฟันน้ำนมบอกให้พูด ฆาตกรอยากให้เรียกเขาว่ามังกร และเลาส์ก็ไม่รอดขีวิตกลับไป

รีวิว RED DRAGON กำเนิดอำมหิต

ระหว่างที่ครอว์ฟอร์ด แกรมกำลังกุมขมับเรื่องคดี ดอร์ลาไฮด์อยากเข้าใกล้รีบามากขึ้น แต่มีคนคนหนึ่งที่กำลังสนุกอยู่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดร.เล็กเตอร์

เรื่องนี้จะเขียน Review ไม่ให้สปอยล์ยากมากค่ะ หลายคนอาจจะรู้เรื่องแล้วเพราะเรื่องนี้ก็นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยเมื่อปี 2002

นำแสดงโดยเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน และ เซอร์ แอนโทนี ฮอปส์กิน คนดีคนเดิมของพวกเรา การดำเนินเรื่องออกจะแนวนาบๆ เนิบๆ นะคะ

แต่การสืบคดีของแกรมนั้นโดดเด่นในเรื่องการปะติดปะต่อเรื่องราวจากเบาะแสที่มีและการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนร้ายเมื่อไปดูสถานที่เกิดเหตุ

ส่วนที่ดีที่สุดของเรื่องคือการที่แกรมกับเล็กเตอร์แซะกันในห้องขังนี่แหละค่ะ

 รีวิวหนังฝรั่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *