รีวิว hulk (2003) มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง
มนุษย์ยักษ์จอมพลัง ภาค1 สรุปย่อเรื่องราว นักวิทยาศาสตร์หนุ่ม ดร.บรู๊ซ แบนเนอร์ (อีริค บาน่า) เป็นนักค้นคว้าผู้เก่งฉกาจ แต่ในชีวิตส่วนตัว เขากลับเป็นเพียงชายหนุ่มที่เงียบเหงา และทุ่มเทให้กับงานวิจัยเทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรม บรูซ บังเอิญไดรับรังสีแกมม่าที่สามารถฆ่าคนได้ง่ายๆ จากความผิดพลาดในการทดลอง
บรู๊ซรอดชีวิต…แต่บางสิ่งกำลังเกิดขึ้น เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อยู่ภายในตัวเขา เป็นคนแปลกหน้าที่เขารู้สึกคุ้นเคย ที่แม้จะอันตราย ..แต่ดึงดูดใจ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง มนุษย์ยักษ์จอมพลังก็ปรากฏกายพร้อมกับทิ้งร่องรอยของการทำลายล้างไปทั่ว แต่น่าแปลกที่ร่องรอยของมนุษย์จอมพลัง ปรากฎอยู่รอบๆ ตัวบรู๊ซเสมอ นายพล ธันเดอร์บอลต์ รอสส์ (แซม เอลเลียตต์) ยกกองทัพมาจับมนุษย์จอมพลังเพื่อหยุดความวุ่นวายนี้
บรู๊ซต้องเข้ามาเกี่ยวพันกับงานนี้ เมื่อเบ็ตตี้ อดีตแฟนสาวของเขาตกอยู่ในอันตราย แล้วบรู๊ซก็พบความลับของ Hulk ที่มีเพียงเบ็ตตี้เท่านั้นที่จะช่วยเขาควบคุมมันได้…แต่จะทันเวลาหรือไม่ รีวิวหนังฝรั่ง
มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง (อังกฤษ: The Incredible Hulk) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรที่มาจากต้นฉบับการ์ตูนของมาร์เวลคอมิกส์ในชื่อเดียวกัน สร้างโดย มาร์เวล สตูดิโอส์ และจัดจำหน่ายโดย ยูนิเวอร์แซลพิกเจอส์ กำหนดตารางจัดฉายครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ดูหนังออนไลน์
นักแสดง
เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน รับบทเป็น บรูซ แบนเนอร์ / ฮัลค์
ลู เฟอริกโน ให้เสียงฮัลค์
ลิฟ ไทเลอร์ รับบทเป็น เบ็ตตี้ รอสส์
ทิม รอท รับบทเป็น อีมิล บรอนสกี้ / อะบอมิเนชัน
ทิม เบลค เนลสัน รับบทเป็น แซมมวลเอล เสติร์น
ไท เบอร์เรล รับบทเป็น ลีโอนาร์ด แซมสัน
วิลเลียม เฮิร์ต รับบทเป็น นายพล ธันเดอร์โบลท์ “แธดดีอัส” รอสส์
รอเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ รับบทเป็น โทนี สตาร์ก
เรื่องย่อ
บรูซ แบนเนอร์ (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) นักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเงามืดเอาแต่คิดค้นวิธีเยียวยารักษาอารมณ์ ในขณะที่พวกกระหายสงครามก็ไม่ปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสันติ หรือยอมให้ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับ เบ็ตตี้ รอส (ลิฟ ไทเลอร์) หญิงคนรักของเขา ส่วนในโลกที่เต็มไปด้วยแสงสีและความศิวิไลซ์ ดิ แอ็บโบมิเนชั่น (ทิม รอท)
ก็ไล่ล่าคุณหมออัจฉริยะอย่างไม่ลดละ เขานี่แหละคืออสรพิษร้ายตัวฉกาจที่จะต่อกรกับ เดอะ ฮัลค์ ให้ได้ ศึกระหว่างคู่อริจากหนังสือการ์ตูน ก็ประทุขึ้นเมื่อ บรูซ แบนเนอร์ จำเป็นต้องอาศัยพลังยอดมนุษย์ในตัวเข้าช่วยมหานครนิวยอร์กที่ถูกถล่มแหลกลาญ! ดูหนังฟรี
และเดอะ ฮัลค์ก็กลับมาอีกครั้ง โดยได้ Ang Lee กำกับ และได้ Eric Bana มารับบท บรูซ แบนเนอร์ ชายหนุ่มผู้ซึ่งโดนรังสีแกมม่าเข้าและจะกลายร่างเมื่อโกรธจัด
จะว่า ไป หนังยังคงคอนเซปต์ของ ตัวบรูซ แบนเนอร์อยู่ครับ นั่นคือ เขาเป็นชายผู้อาภัพ ซึ่งในหนังก็กำหนดมาเลยครับว่า พ่อของบรูซ ซึ่งก็คือ เดวิด แบนเนอร์ (Nick Nolte) เป็นชายผู้บ้างานและบ้าคลั่ง จนทำลายชีวิตครอบครัวของตนเอง ทำให้บรูซ ต้องบ้านแตก แล้วซ้ำร้าย พอบรูซมีความรักกับ เบ๊ตตี้ (Jennifer Connelly)
ความสัมพันธ์นั้นก็ดันไปไม่รอดอีก แล้วพอมาเรื่องงานบรูซก็ยังถูก ทัลบ็อต (Josh Lucas) มาบีบคั้นและแย่งผลงานอีก อืมม์ ยอมรับว่า บรูซ ต้องเจอกับความกดดันมากมาย … แต่ทว่า …ผมไม่ได้สัมผัสถึงอารมณ์กดดันเลยครับ มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง เรื่องย่อ
รีวิว hulk (2003) มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง
เหมือน กับหนังบอกๆๆๆๆๆๆ ว่าบรูซเจอแบบนี้นะ แต่ไม่สามารถบีบอารมณ์คนดูได้เลย ผมเลยไม่คล้อยตาม ซึ่งก็ไม่ทราบว่า Ang Lee แกไปทำอีท่าไหนเข้า หนังถึงออกมาแบบนี้ คือด้านอารมณ์ความลึกนี่จับไม่ติดเลยครับ เฉยมากๆ การเดินเรื่องก็อืดไปอาดมา ดูหนังออนไลน์ ไม่น่าติดตามเท่าไหร่ ตอนผมดูในโรงกับเจ้ากอล์ฟใหญ่นี่ ผลัดกันหลับน่ะครับ
คือดูจบออกมาก็ต้องผลัดกันเล่าเรื่อง ไม่งั้นไม่คุ้มตังค์อ้ะ เออ ปกติผมก็ไม่ใช่คนหลับในโรงง่ายๆนะ ต้องสุดๆน่ะ ถึงจะหลับ นี่ไอ้กอล์ฟก็หลับกับผมอีกตะหาก เอาเข้าไปสิ
อีกอย่าง ตัวละคร เดวิด แบนเนอร์ ของ Nick Nolte ก็เป็นตัวละครที่ไม่สมเหตุผลยังไงก็ไม่ทราบ เพราะเขาเดี๋ยวดีเด๋วร้าย จะว่ารักลูกมั้ย ก็คงจะรักน่ะแหละ เพราะพี่แกถึงกับทรุดทั้งน้ำตาตอนที่เห็นว่า บรูซกลายเป็นฮัลค์ แต่ซักพักพี่แกก็คลั่งทำลายลูกซะยังงั้นน่ะ คือผมต้องทำใจคิดซะว่า เดวิด เป็นคนบ้าขั้นรุนแรงน่ะครับ ตัวละครนี้ถึงจะพอมีเหตุผลขึ้นมาบ้าง มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง เนื้อเรื่อง
การดำเนินเรื่อง
อีกอย่าง พูดถึงอารมณ์สะเทือนใจนะ บอกตามตรง ใน Spider-Man ตอนที่ปีเตอร์ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเสียใจไปชั่วชีวิตนั่น ความยาวประมาณ 1 นาที แต่ได้อารมณ์และลุ่มลึกว่า 138 นาทีของหนังเรื่องนี้ซะอีก ดูหนังฟรี
ไม่รู้ล่ะครับ ผมคิดไงก็ว่าไปตามนั้นน่ะ สรุปก็คือ ผิดหวัง และออกจะน่าเบื่อมาก มีดีก็ตรง Effect และ การตัดฉากแบบแบ่งช่อง เหมือนอ่านหนังสือการ์ตูนก็นับว่าเข้าท่า ดนตรีฝีมือของ Danny Elfman ก็ยอดพอสมควร การแสดงของดาราก็ดี โดยเฉพาะ Connelly ที่แสดงได้ยอดสุดๆ อย่างฉากที่เธอแสดงความเป็นห่วงทางสายตากับบรูซ
ตอนที่เขาเพิ่งโดนรังสีแกมม่าเข้าไปนั่น แววตาสุดยอดดดดดดดดดด โคตรจะสื่ออารมณ์ห่วงได้อย่างเฉียบมากๆ อ้ะ ท่านผู้ชม….. แต่ทำไม ตัวหนังมันน่าเบื่อว้ามนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง สปอย
รีวิว hulk (2003) มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง บทสรุป
Hulk เล่าเรื่อง ดร.บรูซ แบนเนอร์ (Eric Bana) นักวิทยาสาสตร์ที่ค้นคว้าวิทยาการสมัยใหม่กับพลังรักษาตัวเองจากอาการบาดเจ็บ แต่เกิดอุบัติในห้องทดลอง ทำให้ร่างกายของเขาได้รับรังสีแกมม่าจนเกิดความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นสามารถกลายร่างเป็นฮัลค์ยักษ์เขียวตัวใหญ่มีพลังที่ทลายได้แทบทุกสิ่งที่ขวางหน้ายามโมโหโกธา
ฮัลค์มีพลังมหาศาลยกของหนักๆได้สบายๆราวกับของเล่นเด็กในอุ้งมือ วิ่งได้เร็ว กระโดดได้ไกลหลายไมล์ มีพลังในการเยียวยารักาสมานแผลตัวเองได้อย่างราวดเร็ว ทั้งผิวหนังที่ทนทานต่ออาวุธหนักได้แทบทุกชนิด ทำให้เขาเป็นที่หมายตาของคนของรัฐบาลในฐานะวัตถุที่นำมาเป็นอาวุธประดิษฐ์กองทัพระดับมหาประลัย จึงถูกตามล่าอย่างไม่
ลดละโดยนายพลธันเดอร์โบลท์ รอสส์ (Sam Elliott) ซึ่งดูเหมือนเขาเองมีความในใจบาดหมางบรูซมากกว่าก่อนจะยักษ์เขียวซะอีก และดูเหมือนเหตุการณ์ได้เครียดมากขึ้นจากการปรากฏตัวของเดวิล แบนเนอร์ (Nick Nolte) พ่อของบรูซ ที่จงใจทำอะไรบางอย่างเอาไว้มากมาย รวมถึงต้นเหตุเรื่องรังสีแกมม่า แต่เขาจะทำเพื่ออะไรกับลูกของตัวเอง
เมื่อความเครียดมีมากเกินไปจะรับไหว จึงกลายเป็นผลของความโกรธอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งนั้นทำให้เขาไม่ใช่บรูซอีกต่อไป คนที่หยุดยั้งได้มีเพียงคนเดียว และคนนั้นคือหวานใจของบรูซ เบ็ตตี้ ลอสส์ (Jennifer Connelly) ที่ทำให้จิตใจของเขาสงบลง แต่จะนานแค่ไหนกันเมื่อมีคนต้องการตัวเขามากนัก มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง บทสรุป
โดยรวมหนัง
ด้วยความฮิตทีมาร์เวลกำลังขาขึ้นจากการทำหนัง X-Men (2000) และ Spider-Man (2002) จึงไม่แปลกที่จะมีการสานต่อโปรเจ็คใหม่ๆกับซุปเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆออกมาบ้าง และหวยได้ออกที่การทำ Hulk ยักษ์เขียวที่มีการใช้เอฟเฟค CG แทนเมื่อก่อนที่จะเป็นคนตัวเป็นๆแสดง ทำให้ผลลัพธ์หน้าตารูปร่างแตกต่างจากของเดิมที่ใช้วิธีการถ่ายทำด้วยเทคนิคหลอกตา ทว่าเมื่อออกฉายจริงๆกลับทำรายได้ไม่เข้าเป้าอย่างที่คิด แถมเสียงวิจารณ์ยังแตกเป็นสองฝั่งระหว่างชอบกับไม่ชอบอย่างมาก มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง สนุกไหม
กลับมาที่ตัวหนัง Hulk มีความโดดเด่นในเรื่องของเอฟเฟคในการสร้างตัวฮัลค์ออกมาที่เสมือนจริงเป็นไปตามยุคสมัย เช่น การเคลื่อนไหว หรือหน้าตาการแสดงอารมณ์ ทั้งเทคนิคที่สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองด้วยการตัดต่อแบ่งช่องแบ่งฉากที่อิงมาจากรูปแบบของหนังสือการ์ตูน ทำให้มีความรู้สึกอ่านคอมมิคฉบับคนแสดงโดยไม่ต้องอ่าน
ในแง่การดำเนินเรื่องค่อนข้าล่าช้า เก็บรายละเอียดเรื่องราวได้หนักหน่วง ฉากแอ็คชั่นมีความสนุกน้อยไปหน่อย แต่หวังได้มากกับช่วงหลังที่แสดงถึงความบ้าพลังได้อย่างสนุก รวมถึงการไล่ล่าไม่ลดละของนายพลธันเดอร์โบลท์ที่หนังมีความสนุกทดแทนกับความเบื่อได้สมใจ(ซึ่งอันนี้แล้วแต่คน) ส่วนฉากต่อสู้พอฟัดพอเหวี่ยงได้ระดับหนึ่ง
แม้จะไม่เร้าใจอย่างที่ควรก็พอทำให้ดูเพลินขึ้นได้บ้าง
ติดตามรีวิวหนังเรื่องอื่นๆได้ที่ หนังฝรั่ง netflix