รีวิว DREAM HOUSE บ้านแอบตาย
นักหนังสือพิมพ์ วิลล์ แอตเทนตัน (แดเนียล เคร็ก) ลาออกจากงานที่กำลังก้าวหน้าในมหานครนิวยอร์ก และย้ายครอบครัวที่มี ลิบบี้ (เรเชล ไวซ์) ภรรยาและลูกสาวสองคนไปอยู่ที่รัฐนิวอิงแลนด์ ทันทีที่พวกเขาเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
ก็ต้องพบว่าบ้านในฝันของทุกคนเคยเกิดเหตุฆาตกรรมแม่และลูก และเพื่อนบ้านทุกคนก็เชื่อว่าเกิดจากน้ำมือของสามีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว เมื่อ วิลล์ เริ่มสืบค้นถึงความหลังที่เกิดขึ้นในบ้าน เบาะแสเดียวที่เขาพบคือ แอน ปีเตอร์สัน (นาโอมิ วัตตส์)
เพื่อนบ้านที่สนิทกับสมาชิกครอบครัวผู้ตาย ในขณะ วิลล์ และ แอน พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ต้องค้นพบกับเรื่องราวของชายคนสุดท้ายที่เคยอยู่ในบ้านในฝันของ วิลล์ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงที่น่าสะพรึงกลัวกับครอบครัวของเขา
บ้านฝันสลาย
หน้าหนังของ Dream House บอกเราว่านี่เป็นหนังแนวบ้านผีสิงที่สยองขวัญสั่นประสาทเรื่องหนึ่ง ซึ่งหากหนังแนวนี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีประสิทธิภาพมากพอที่จะให้ผู้ชมรู้สึกกลัว ขนลุก และตื่นเต้น แต่หนังเรื่องนี้กลับเป็นหนังที่ขาดความสยองและแทบจะไร้ซึ่งอารมณ์เขย่าขวัญโดยสิ้นเชิง หนังกลับไปเน้นเรื่องราวความรักของพ่อแม่ลูก ซึ่งก็ทำได้อย่างจืดชืดและไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน หนังที่ควรเป็นบ้านสยองขวัญเรื่องนี้จึงกลายเป็นบ้านฝันสลายของคนดู
โดยปกติของหนังสยองขวัญลึกลับคล้ายกับ Dream House มักจะมีฉากที่หักมุมสำคัญที่จะทำให้คนดูช็อคแบบคาดไม่ถึง การเขียนวิจารณ์หนังแนวนี้จึงลำบากพอสมควรที่จะไม่เผยเนื้อเรื่องสำคัญ ผมจะพยายามอย่างที่สุดที่จะเปิดเผยให้น้อยที่สุดครับ แต่ใครที่ได้ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้แล้วก็คงเดาได้แล้วว่าผมพูดถึงเนื้อเรื่องส่วนไหน เพราะผู้สร้างก็ดูจะไม่ค่อยปกปิดเช่นกัน
หน้าหนังของ Dream House บอกเราว่านี่เป็นหนังแนวบ้านผีสิงที่สยองขวัญสั่นประสาทเรื่องหนึ่ง ซึ่งหากหนังแนวนี้จะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องมีประสิทธิภาพมากพอที่จะให้ผู้ชมรู้สึกกลัว ขนลุก และตื่นเต้น แต่หนังเรื่องนี้กลับเป็นหนังที่ขาดความสยองและแทบจะไร้ซึ่งอารมณ์เขย่าขวัญโดยสิ้นเชิง หนังกลับไปเน้นเรื่องราวความรักของพ่อแม่ลูก ซึ่งก็ทำได้อย่างจืดชืดและไม่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน หนังที่ควรเป็นบ้านสยองขวัญเรื่องนี้จึงกลายเป็นบ้านฝันสลายของคนดู
โดยปกติของหนังสยองขวัญลึกลับคล้ายกับ Dream House มักจะมีฉากที่หักมุมสำคัญที่จะทำให้คนดูช็อคแบบคาดไม่ถึง การเขียนวิจารณ์หนังแนวนี้จึงลำบากพอสมควรที่จะไม่เผยเนื้อเรื่องสำคัญ ผมจะพยายามอย่างที่สุดที่จะเปิดเผยให้น้อยที่สุดครับ แต่ใครที่ได้ชมตัวอย่างหนังเรื่องนี้แล้วก็คงเดาได้แล้วว่าผมพูดถึงเนื้อเรื่องส่วนไหน เพราะผู้สร้างก็ดูจะไม่ค่อยปกปิดเช่นกัน
หนังมีแดเนียล เครก รับบทเป็นหนุ่มนักเขียนชื่อวิล เอเทนตัน จากนิวยอร์กที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับเมีย (เรเชล ไวสซ์) และลูกสาวที่น่ารักสองคนที่บ้านในฝันย่านชนบทที่เพิ่งซื้อมา วิลฝันที่จะได้เขียนนิยายของเขาเองที่นี่และจะได้มีเวลาอยู่กับลูกเมียมากขึ้น
แต่เมื่ออยู่ไปได้ไม่นาน พวกเขาก็ถูกคุกคามโดยชายแปลกหน้าที่มาแอบมองอยู่นอกหน้าต่าง และค้นพบว่าก่อนหน้านี้ก็มีครอบครัวที่มีลูกสาวสองคนเคยมาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ แล้วเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น ทำให้ภรรยาและลูกสาวทั้งสองคนต้องตาย โดยผู้ต้องสงสัยก็คือผู้ที่เป็นพ่อของครอบครัว วิลเริ่มสงสัยว่าชายลึกลับคนนั้นคือคนร้ายคนนั้นที่อาจจะมาทำร้ายลูกเมียของเขา เขาจึงพยายามสืบหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมด
โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องของหนังมีการหยิบยืมองค์ประกอบของหนังแนวบ้านผีสิงกับหนังแนวสยองขวัญจิตวิทยามาหลายเรื่องครับ เป็นต้นว่า The Others, The Amityville Horror และ Shutter Island แต่ไม่อาจเอามาผสมกันได้อย่างกลมกล่อมพอ และก็อย่างที่เกริ่นในตอนแรก หนังไม่อาจเล่าเรื่องให้เรารู้สึกตื่นเต้นและระทึกไปด้วยได้ มีเพียงบางขณะของครึ่งแรกของหนังที่ชวนให้ตกใจอยู่บ้าง แต่ก็เพียงเล็กน้อย และก็ใช้สูตรการสร้างฉากสะดุ้งตกใจในแบบเดียวกับหนังบ้านผีสิงทั้งหลายที่เราเคยดูกันมาแล้ว
รีวิว DREAM HOUSE บ้านแอบตาย
เมื่อเรื่องราวดำเนินผ่านไปสองในสาม หนังก็เฉลยฉากหักมุมสำคัญ ซึ่งฉากนี้น่าจะทำให้เราช็อคได้หากผู้สร้างไม่เฉลยออกมาตั้งแต่ในตัวอย่างหนัง และเมื่อเฉลยแล้วก็ไม่ได้เล่นกับสิ่งที่เฉลยออกมาให้คุ้มค่าพอ หรือสร้างฉากที่ระทึกขวัญต่อเนื่องออกมาจากฉากดังกล่าว
แต่กลับลากยาวด้วยการพยายามสร้างฉากสะเทือนอารมณ์ของพ่อแม่และลูกที่กลายเป็นความน่าเบื่อและชวนง่วงหงาวยิ่ง เพราะหนังไม่ได้ปูความสัมพันธ์ของตัวละครในช่วงต้นมากพอที่จะชวนให้เราคล้อยตามหรือสะเทือนใจไปด้วยได้
หนังกลับเข้าสู่ช่วงเขย่าขวัญอีกครั้งใน 15 นาทีสุดท้ายด้วยการคลี่ปมความเป็นมาของเหตุฆาตกรรมทั้งหมด แต่หนังก็ไม่อาจทำให้เรารู้สึกลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครได้สักฉาก ผู้สร้างไม่อาจสร้างจังหวะที่ชวนระทึกได้เลย และหาทางลงเอยให้แก่เหตุการณ์ทั้งหมดได้อย่างง่ายเกินไป
ทั้งยังขาดเหตุผลที่มีน้ำหนักมากพอด้วย จึงกลายเป็นช่วงที่แห้งแล้งอย่างมากของหนัง
ปัญหาอีกอย่างของหนังนอกเหนือจากเรื่องบทและการเล่าเรื่องแล้วก็คือตัวนักแสดงเอง เครกเป็นนักแสดงที่เก่ง แต่ไม่อาจให้บทบาทของพ่อและสามีที่อบอุ่นได้ การแสดงของเขาเหมือนมือปืนเลือดเย็นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจเหมาะกับบทในหนังเรื่องอื่น แต่ไม่ใช่ในเรื่องนี้
ส่วนไวสซ์ในบทภรรยาและนาโอมิ วัตต์ในบทเพื่อนบ้านที่ดูเหมือนจะรู้ปมปริศนาทั้งหมด ก็ดูจะไม่ได้อวดความสามารถทางการแสดงอะไรเลย เพราะบทหนังแทบไม่ได้เอื้อให้แสดงความสามารถเท่าไหร่
Dream House เป็นผลงานกำกับของจิม เชอริแดน ผู้กำกับชาวไอริชที่มีผลงานอันน่าชื่นชมอย่าง My Left Foot, In the Name of the Father และ In America ผู้ที่แม้ผลงานที่แย่ที่สุดของเขาก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยตกต่ำถึงขนาดนี้ แต่จะโทษเชอริแดนเสียทีเดียวนักก็ไม่ได้
ชอริแดนให้สัมภาษณ์ในแอลเอไทม์ว่าเขาอยากถอนชื่อตัวเองจากการเป็นผู้กำกับหนัง Dream House เพราะมอร์แกนครีก บริษัทที่สร้างหนังเรื่องนี้ไม่พอใจกับฉบับที่เชอริแดนกำกับ จึงได้จัดการถ่ายซ่อมใหม่และเปลี่ยนตอนจบของหนังเอง นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมครึ่งเรื่องแรกกับครึ่งเรื่องหลังของหนังจึงเหมือนกำกับจากผู้กำกับคนละคนกัน
เครกและไวสซ์เองก็ดูจะมีปัญหากับมอร์แกนครีกเช่นกันครับ โดยปฏิเสธที่จะร่วมเดินสายประชาสัมพันธ์หนังเพราะไม่พอใจอย่างมากที่มอร์แกนครีกตัดต่อตัวอย่างหนังออกมาโดยเฉลยปมสำคัญของเรื่อง หนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นหนังที่ดูจะมีปัญหาทั้งในและนอกจอเลยทีเดียว
ความรู้สึกหลังดู
Dream House เรื่องราวของนักเขียนข่าวหนังสือพิมพ์ วิล เอนเทนทัน ที่เพิ่งจะขอลาออกจากงานเพื่อมาอยู่กับครอบครัวที่รักของเขา ที่บ้านหลังใหม่ กับภรรยาสุดสวยอย่าง ลิบบี้ และลูกๆอีก 2 ที่พวกคิดว่าจะเริ่มต้นชีวิตหลังใหม่ที่บ้านนี้ได้อย่างสงบสุข และ มีความอบอุ่นในครอบครัว
จนกระทั่งพวกเขาดันได้ไปได้ยินเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนี้ โดยเคยมีการฆาตรกรรมยกบ้านมาก่อน โดยผู้ก่อเหตุนั้นคือชายหนุ่มที่ชื่อ ปีเตอร์ วอร์ด ที่ได้เกิดคลั่งและฆ่าครอบครัวของเขาทิ้งซะหมด และหลังจาก วิล และ ลิบบี้ ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็ได้เริ่มมีเรื่องประหลาดๆตามมา จนพวกเขาต้องสืบหาว่า วอร์ด นั้นอยู่ไหน
Dream House กำกับการแสดงโดยผู้กำกับรางวัลออสการ์อย่าง Jim Sheridan ที่เมื่อ 2 ปีก่อนเลยนำพาเอา Tobey Maguire ไปเข้าชิงรางวัลนำชายที่งานลูกโลกทองคำ ได้ พร้อมกับหนังก็ถือว่าได้รับคำชมเยอะมากพอสมควร (แต่โดยส่วนตัวผมนั้นออกจะเฉยๆ
เหมือนกับว่าเป็นหนังขายการแสดงซะมากกว่าเนื้อเรื่อง) แต่เมื่อมาคราวนี้ไม่รู้ผู้กำกับคิดอยากจะเปลี่ยนแนวหรือยังไง ถึงได้เลือกมาทำหนังแนวดราม่า ระทึกขวัญอย่าง Dream House ที่หลังจากเปิดตัวฉายในอเมริกาก็โดนนักวิจารณ์สับกันเละทีเดียว
(และส่วนนึงที่โดนสับก็คือตัวอย่างหนัง ที่ไม่ได้ให้ความน่าสนใจแก่คนดู แถมยังสปอยล์เนื้อเรื่องจนเกือบหมด ถ้าใครคิดจะดูหนังเรื่องนี้แนะนำอย่าดูตัวอย่างเด็ดขาด) แต่ยังไงก็ตาม Dream House เริ่มต้นด้วยความอืดและจบลงแบบไปไม่ถูก
ซึ่งถึงแม้จะเป็นอย่างงั้น แต่สำหรับข้อดีใน Dream House ที่ถือว่าชอบมากที่สุดคือด้านของ จิตวิทยา หรือด้านของการเล่นกับ จิตใจ มนุษย์ในหนังเรื่องนี้ของ วิล เอนเทนทัน ที่หนังใส่ข้อความแอบกัดจิกคนดูของเรื่องการ ทำดี ทำชั่ว ถึงแม้จะไม่มีใครเห็นก็ตาม
แต่ที่รู้อยู่แก่ใจแน่ๆคือ จิตใจ ของเรา ที่ในด้านนี้ถือว่ายังทำออกมาได้ดีและมีข้อให้ชมอยู่บ้าง (ที่ใครดูตัวอย่างก็คงรู้ว่าเป็นยังไง เพราะฉะนั้นผมจะไม่ขอเล่ามาก เพราะคนที่ยังไม่ได้เห็นตัวอย่างจะได้ดูสนุก) พร้อมกับการแสดงของคู่ สามี ภรรยา (รวมทั้งในชีวิตจริง) ของ แดเนียล เคร็ก และ เรเชล ไวซ์ ที่ถือว่าเล่นกันเป็นธรรมชาติได้กำลังดี
โดยเฉพาะด้านของป๋า แดเนียล เคร็ก ที่ถือว่าแสดงได้อินกับบทชายหนุ่มที่รักครอบครัว (มากเกินไป) ได้อินมากเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามนอกจากด้านของจิตใจมนุษย์ ที่หนังหยิบมาเล่นแล้วพร้อมกับการแสดงของ สามี ภรรยา ที่ดูแล้วน่ารัก
เป็นกันเอง Dream House ก็ไม่มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้แล้ว เริ่มจากการที่ ตัวอย่างหนังเล่นเผยจุดหักมุมที่สุดของหนังก็ว่าได้ จึงทำให้ครึ่งแรกของหนังนั้นดูน่าเบื่อ อืดอาด และ อยากจะหลับ เพราะคนที่เคยดูตัวอย่างแล้วก็ประมาณว่า ‘เมื่อไหร่จะถึงฉากที่เฉลยในตัวอย่าง’ เพราะเมื่อตัวอย่างเล่นเฉลยนั้น จึงทำให้ฉากการค้นหาความจริงของคู่พระนางดูแล้วมันออกแนว…
ไร้สาระ และทำให้ดูเหมือนตัวละครกำลังทำสิ่งที่คนดูนั้นได้รู้มาก่อนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าให้พูดจริงๆคือ ตัวหนังนั้นไม่ผิด มันผิดที่มือตัดต่อตัวอย่าง ที่เลือกที่จะเอาจุดหักมุมที่สุดของหนังมาใส่ในตัวอย่าง พร้อมกับการที่ผู้กำกับเล่นหลอกคนดูเอาเต็มทั้งโปสเตอร์
และสไตล์ของตัวอย่างหนัง ที่คิดว่าหนังจะเป็นหนังแนวค้นหาความจริง ปน สยอง ทั้งที่จริงแล้วหนังเรื่องมันคือหนังแนวดราม่า สืบสวน ที่มีฉากหลังเป็นบ้านเก่าๆเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นถ้าใครคิดอยากจะดูหนังผีนั้นผมว่าแนะนำไปดู Paranormal Activity 3 น่าจะสะดุ้งและตกใจมากกว่าเรื่องนี้อยู่หลายเท่าเลยทีเดียว
เพราะ Dream House มีฉากสะดุ้งอยู่ฉากเดียวในเรื่อง
สรุปแล้วคือ Dream House มันคือหนังแนวดราม่า สืบสวน ที่มีฉากหลังคล้ายๆจะสยอง แต่สามารถเล่นเรื่องราวของจิตใจมนุษย์ได้ดี พร้อมกับการแสดงที่ถือว่าอิน แต่ปัญหาหลักเลยคือด้านของตัวอย่างหนังที่เล่นตัดต่อทำเอาหนังเสียหมด สรุปแล้วคือนี้คือหนังที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยดูตัวอย่างเลยสักนิด
