รีวิว Brazen ใคร่ฆ่า
ระหว่างที่วุ่นวายอยู่กับการติดตามซีรีส์เรื่องนั้นที เรื่องนี้ที สลับกันไปมา ก็อยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศมาดูบ้าง เปิด Netflix เจอหนังใหม่ที่มีนักแสดงหน้าไม่คุ้น แต่ก็ลองเปิดดู หนังเรื่องนั้นคือ Brazen ใคร่ฆ่า หนังที่ว่าด้วยเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องและมีนักเขียนสาวร่วมด้วยช่วยตำรวจไขคดี สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ วันนี้มีรีวิวภาพยนตร์เรื่อง Brazen หรือ ใครฆ่า แนวโรแมนซ์ ระทึกขวัญ ไขคดีฆาตกรรม มาฝากกันค่ะ กระแสดีติดอันดับ 1 หนังน่าดูใน Netflix ประเทศอเมริกาและในอีกหลายประเทศ
เป็นภาพยนตร์สร้างจากนิยายของนักเขียน Nora Roberts ได้นักแสดงนำหน้าคุ้นอย่าง อลิซ่า มิลาโน่ และแซม เพจ ว่าแต่จะสนุกและน่าดูแค่ไหน เชิญไปติดตามกับรีวิวนี้กันค่ะBrazen ใครฆ่า หนังแนวสืบสวนฆาตกรรม Netflix เรื่องราวของนักเขียนนิยายฆาตกรรมที่ต้องมาสืบคดีฆาตกรรมน้องสาวตัวเอง ก่อนจะมาพบรักกับนักสืบหนุ่มที่ทำคดีนี้ด้วยกัน เป็นความพยายามรวมแนวสืบสวนกับรักเข้าด้วยกันที่ผลลัพธ์ออกมาเละมากจริงๆ
หนังสืบสวนฆาตกรรมเรื่องนี้พยายามฉีกตัวเองออกจากแนวระทึกขวัญตามปกติด้วยการพ่วงเรื่องรักเข้ามา ดูได้จากหน้าปกเรื่องนี้ก็ดูเหมือนหนังรักหวานจ๋อย ผิดกับพล็อตเรื่องกับตัวอย่างที่ชวนดูเหมือนกัน เมื่อเล่นกับการที่นักเขียนนิยายฆาตกรรมเองต้องมาเกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรมตรงๆ เข้า แต่แม้พล็อตเรื่องกับตัวอย่างจะน่าสนใจพอตัว แต่พอได้ดูจริงๆ นี่กลับเป็นผลงานที่เข้าขั้นแย่อีกเรื่องของหนังทุนสร้าง Netflix ไปแทน
เกรซ มิลเลอร์ สาวโสดนักเขียนนิยายฆาตกรรมชื่อดังที่มีแฟนติดตามมากมาย เธอต้องมาพบศพน้องสาวที่ห่างหายกันไป 5 ปี ถูกฆาตกรรมในบ้านของตัวเอง พร้อมกับความลับเรื่องชีวิตอีกด้านที่น้องเธอทำงานออนไลน์ด้าน SEX Worker รับบทเป็นนายหญิงซาดิสม์ถูกเปิดเผย เธอจึงสวมวิญญาณนักสืบเข้าช่วยเหลืองานตำรวจไขคดีนี้ ซึ่งนักสืบเอ็ดผู้รับผิดชอบคดีนี้ก็เป็นเพื่อนบ้านของน้องสาวเธอ และก็เป็นแฟนผลงานนิยายเธอด้วย ทำให้ทั้งคู่ดูเหมือนเคมีต้องกันในระหว่างสืบสวนคดีนี้ไปพร้อมกัน
ตั้งแต่ช่วงต้นเรื่องของหนังก็ทำให้เห็นแล้วว่าไม่ได้จะเป็นแนวสืบสวนเข้มๆ แต่แรก เมื่อหนังมีฉากตลกๆ ของพระเอกที่เป็นนักสืบกับคู่หูทำอะไรเปิ่นๆ ด้วยกัน ซึ่งตัวคู่หูก็ไว้ผมฟูๆ เหมือนพวกดาราตลกอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสัญญาณแรกที่ทำให้เริ่มเอะใจเลยว่า หรือหนังจะออกแนวเบาสมอง
ซึ่งต่อมาก็เป็นจริง เมื่อเรื่องราวในเรื่องนี้ทั้งหมดต้องบอกว่าถูกนำเสนอออกมาเป็นแนวเบาๆ ติดเรื่องรัก บางทีก็เหมือนออกแนวรอมคอมไปโน่นเลย ซึ่งถ้าทำออกมาดีๆ ลงตัวมันก็ไม่ใช่ว่าจะรวมแนวเหล่านี้เข้าด้วยกันไม่ได้ แต่ความที่เรื่องพยายามจับปลาหลายมือมากกว่าที่เป็นปัญหาทำให้ทุกอย่างดูพังไปพร้อมกัน
เริ่มจากการเป็นแนวสืบสวนที่พล็อตมันก็ดูเข้าท่าดีอยู่ว่า นางเอกมีความสามารถพิเศษเป็นนักเขียนนิยายที่มีความเข้าใจในแรงจูงใจฆาตกรได้ดีเป็นพิเศษ การเสนอตัวมาร่วมสืบสวนในเรื่องก็เหมือนเป็นการลงสนามจริงครั้งแรกของเธอ โดยมีนักสืบหนุ่มรูปงามที่ปิ๊งเธอพยายามขัดขวางไม่ให้เธอเอาตัวเองมาเสี่ยงอันตราย แต่ปัญหาของเรื่องนี้ก็คือการ
ที่ตัวเรื่องทำทุกอย่างออกมาง่ายดายไปหมด แทนที่เราจะได้เห็นความจริงที่ยากลำบากของการสืบคดีฆาตกรรม แต่กลายเป็นว่านางเอกกลับพูดอะไรก็ถูกหมด ทำอะไรก็ผ่านหมด นางเอกแทบเหนือชั้นกว่าตำรวจกับฆาตกรไปเลย โดยที่เรื่องก็พยายามทำให้ทุกอย่างดูง่ายเหมือนบทหนังแนวสืบสวนลวกๆ ที่พยายามยัดตัวละครต้องสงสัยมาให้คนดู
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
รีวิว Brazen ใคร่ฆ่า
แรกเห็นชื่อหนังก็อ่านว่า ‘ใครฆ่า’ แต่พอมองดูอีกทีก็พบว่า มันมีไม้เอกอยู่ตรง ร เรือ ด้วย เป็นการตั้งชื่อหนังแบบเล่นคำ บอกความนัยถึงแรงจูงใจของฆาตกรรมครั้งนี้อยู่กลายๆ
หนังวางให้แคทลีน คือแคทลิน น้องสาวของเกรซมีอาชีพเป็นอาจารย์ที่เหล่าศิษย์ค่อนข้างชื่นชม แต่มีอีกตัวตนหนึ่งที่ถูกปกปิดไว้ หนังเล่าว่า มันมีธุรกิจหนึ่งเกิดขึ้น เป็นธุรกิจครอบครัว มีลักษณะเป็นเว็บแคมที่เปิดให้สมาชิกเข้ามาเปิดดูผ่านคอมพิวเตอร์ในบ้าน โดยแคทลินจะใช้ชื่อ เดสิเร ในนั้น เธอจะแต่งตัวและแสดงวาดลวดลายสำหรับผู้ชายที่ชื่นชอบแนวๆ นั้น
แต่แล้ว เธอกลับถูกฆาตกรรมในบ้านของตัวเอง แถมมันยังเกิดขึ้นในช่วงที่เกรซไปหาน้องสาวที่บ้าน เพียงแค่ในเวลานั้น เกรซไม่ได้อยู่ในบ้านเท่านั้นเอง
ด้วยความที่เกรซเป็นนักเขียนเลื่องชื่อ แถมยังมีความสามารถในการอ่านพฤติกรรมคนร้าย เธอเคยร่วมสืบจนหาฆาตกรเจอมาแล้ว ครั้งนี้ เมื่อเหยื่อเป็นคนใกล้ตัว เธอจึงขอร่วมสืบด้วย และคนที่เป็นตำรวจนักสืบก็ไม่ใช่ใคร เขาคือ เอ็ด เจนนิ่งส์ หนุ่มหล่อข้างบ้านที่เกรซไปก้อร่อก้อติกอยู่นั่นเอง
หนังพยายามจะใส่ตัวละครแวดล้อมเข้ามา เพื่อทำให้เราได้เห็นว่า อาจเป็นใครก็ได้ที่นักสืบและเกรซต้องร่วมด้วยช่วยกันหาให้เจอ
เห็นจะๆ แบบทำให้ทุกอย่างชี้ไปที่คนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นการหักมุมอะไรเลย เพราะเรื่องนึกจะยัดใครให้มาเป็นผู้ต้องสงสัยก็ใส่โปรไฟล์มาให้ตรงกับช่วงสืบสวนนั้นๆ จนเหมือนบทหนังที่งี่เง่าดูถูกสติปัญญาผู้ชมยังไงบอกไม่ถูก แบบที่ไม่คิดว่ายุคนี้จะมีบทหนังแบบนี้โผล่ขึ้นมาได้ แต่ก็มีแล้วจริงๆ กับเรื่องนี้ แถมวิธีการเข้าไปฆ่าก็ทื่อๆ บุกเข้าไปในบ้านใส่หน้ากากไหมพรมก็รอดแล้ว ซึ่งเป็นอะไรทีไม่น่าเชื่อว่าบทไม่สมเหตุผลขนาดนี้
รวมถึงจู่ๆ ท้ายเรื่องก็เฉลยตัวออกมาตรงๆ ก่อนที่จะไปจบกันที่ฉากดวลของนางเอกกับคนร้ายที่ดูไม่น่าเชื่อถืออย่างแรงว่านางเอกจะใจเย็นกับฆาตกรได้ขนาดนี้ เรียกว่าเรื่องในส่วนนี้พังพินาศมากๆ นอกจากนี้ตัวเรื่องยังทิ้งปมอื่นๆ ไว้มั่วซั่วไปหมด อย่างการที่สามีเก่าน้องนางเอกโดนแบล็คเมล์ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร หรือการที่ฆาตกรเหมือนจะมี 2 คน เป็นการฆาตกรรมเลียนแบบกัน ตัวเรื่องก็ไม่มีอธิบายอะไรต่อ ปล่อยให้ทุกอย่างหายไปแบบงงๆ
ความรู้สึกหลังดู
ในส่วนของแนวรักโรแมนติกที่เรื่องพยายามสอดแทรกมาก็เน่าพอกัน คือนึกจะให้ปิ๊งรักกันก็เอากันง่ายๆ ตั้งแต่แรก โอเคจริงอยู่ว่าพระเอกรูปหล่อ แถมเป็นเพื่อนบ้านกันอีกอะไรมันก็ง่ายๆ แต่นางเอกเจอหน้าปุ๊บก็รีบอ่อยโดยการชงกาแฟยกไปให้กินถึงบ้านทันที
มันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นแนวโรแมนติกได้ไง มันเหมือนหนังพยายามทำให้เรื่องจะเป็นอีโรติกมากกว่า เพราะทั้งสองคนนี้พยายามอ่อยกันไปมาตลอดเวลา จนคนดูคงคิดว่าเมื่อไหร่จะเอากันให้จบๆ ไปซะที แต่เพราะเรื่องยังเหมือนมีเส้นบางๆ ว่านักสืบทำคดีฆาตกรรมอยู่ก็ไม่ควรล้ำเส้นไปมีสัมพันธ์กับคนในคดีเอง ตัวเรื่องก็เลยยึกยักส่วนนี้ไว้นานพอสมควร
ก่อนที่จะได้เวลาปั่มป๊ามกันซะทีในตอนหลัง ซึ่งก็มาพร้อมประโยคที่ฟังแล้วขำแบบไม่รู้คิดได้ไงบทถึงใส่มา เพราะตอนจะมีอะไรกันครั้งแรกพระเอกบอกนางเอกว่า “ทีเดียวคงไม่พอแล้ว” ก่อนที่จะไปย้ำประโยคนี้ในตอนจบที่เป็นฉากโรแมนติกนั่งกินชามีฉากหลังสวยๆ ประกอบว่า ทีเดียวคงไม่พออีกรอบ แต่คราวนี้จากปากนางเอก ซึ่งแทนที่เรื่องจะดูโรแมนติกกลับทำให้ขำซะมากกว่า หรือว่านี่เป็นความตั้งใจทำแนวรอมคอมที่ผู้เขียนไม่เข้าใจเองได้ (มั้ง)
อีกอย่างคือตัวเรื่องพยายามขายความเซ็กซี่ของพล็อตที่เหยื่อทั้งหมดทำอาชีพ Sex Worker แบบหนึ่งโดยการเล่นบทเป็นนายหญิง Live สดผ่านออนไลน์ แล้วก็ให้นางเอกเข้ามาทำตัวเป็นเหยื่อในแนวนี้เดียวกันเพื่อล่อคนร้าย
ตัวหนังพยายามบอกว่าไม่มีใครแทนน้องนางเอกได้ แต่นางเอกทำได้ ซึ่งเอาตรงๆ ตัวนางเอกเองก็ไม่ได้มีจุดไหนดูเซ็กซี่แบบนั้นเลย หน้าตารูปร่างก็มาแนววัยกลางคนจะเป็นป้าอยู่รอมร่อแล้ว ถ้าดูจากภาพนิ่งอาจจะดูดีเพราะแต่งภาพเยอะ แต่พอในหนังนี่ไม่ได้เลย ก็เลยไม่รู้ว่าเรื่องพยายามยัดเยียดขายจุดเซ็กซี่ของนางทำไมกัน ซึ่ง Alyssa Milano นักแสดงในเรื่องนี้เกิดปี 1972 ตอนนี้ก็อายุ 50 ปีแล้วด้วยยิ่งไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้มาก
ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย
Brazen ใครฆ่า (2022) ผลงานของผู้กำกับหญิงคนเก่งโมนิกา มิตเชลล์ (Virgin River 2021) บอกเล่าเรื่องราวของ เกรซ มิลเลอร์ นักเขียนนิยายแนวลึกลับสืบสวนสอบสวนชื่อดัง ที่ตัดสินใจเดินทางไปหา แคธลีน บรีซวู้ด น้องสาวที่ไม่ได้พบกันมานาน 5 ปีหลังได้รับโทรศัพท์จากเธอ ในทริปนี้เกรซได้พบกับหนุ่มหล่อข้างบ้านของแคธ เอ็ด เจนนิงส์
ตำรวจนักสืบฝีมือดี ที่ต่างฝ่ายต่างถูกใจกัน จนตกลงไปดินเนอร์ออกเดต แต่เรื่องราวกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อเกรซกลับถึงบ้านแล้วพบว่าน้องสาวถูกฆาตกรรม จากสัญชาตญาณและประสบการณ์การเขียนนิยายสืบสวน เกรซขอเข้าช่วยเจนนิงส์ในการไขคดี ตามหาว่าใครคือฆาตกรตัวจริง สรุปแล้วใครเป็นคนฆ่าแคธลีน และแรงจูงใจคืออะไร เชิญไปรับชมกันต่อได้ทาง Netflix มีพากย์ไทย หนังยาว 1 ชั่วโมง 36 นาที
หนังปูเรื่องให้ตัวเอกเกรซ มิลเลอร์ (อลิซ่า มิลาโน่) เป็นนักเขียนที่มีสัญชาตญาณนักฆ่า เพราะเข้าใจแรงจูงใจของฆาตกร จึงประสบความสำเร็จในการเขียนนิยายลึกลับที่เหยื่อมักเป็นเพศหญิง นิยายเรื่องล่าสุดของเธอคือ Brazen Virtue คาแรกเตอร์เกรซเป็นคนเก่ง มีไหวพริบ เคยช่วยไขคดีจนสามารถหาตัวฆาตกรได้ในเวลารวดเร็ว
ต่างจากน้องสาว แคธลีน บรีซวู้ด (เอมิลี่ อูลเลอรัป) ที่มีปัญหารุมเร้า ทั้งหย่าร้างไม่ได้สิทธิเลี้ยงดูลูกชาย และอดีตเคยใช้สารเสพติด ด้านหนึ่งทำงานเป็นครูโรงเรียนมัธยมสาขาการละครและวรรณคดีอังกฤษ อีกด้านหนึ่งทำงานเป็นนักแสดงเว็บแคมชื่อ เดสิเร ของเว็บไซต์แฟนตาซีอิงค์ ที่มีกลุ่มลูกค้าทั่วโลก
สิ่งที่น่าเสียดายหลายอย่างในหนังเรื่องนี้ ก็คือ การสืบคดียังดูทื่อๆ ไปหน่อย เกรซนักเขียนที่มาช่วยก็ดูจะเก่งเสียจนตำรวจดูบื้อไปเลย ทั้งความสมจริง หรือสมเหตุสมผล ก็ยังดูแหม่งๆ อยู่ คนร้ายสามารถเข้าบ้านเหยื่อได้ง่ายดาย ทั้งอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคนด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ หนังก็ทำเป็นละเลยประเด็นนั้น
ในส่วนของแคสต์นักแสดง พบว่าร่างและวัยของพวกเธอดูค่อนข้างจะล้ำไปมาก จนไม่ชวนให้รู้สึกเซ็กซี่พอ ประกอบกับการแสดงที่ดูไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ เรื่องราวก็ดูยัดเยียดเรื่องรักรอมคอมมากไปหน่อย มุกที่ใส่มาดูประดักประเดิดไม่ชวนขำแต่อย่างใด เรื่องราวที่เริ่มต้นมาค่อนข้างน่าสนใจ แต่ดำเนินไปอย่างน่าผิดหวัง แม้จะพอให้ตามดูไปจนจบได้ แต่ก็กลับพบว่า ทุกอย่างดูคลี่คลายง่ายดายเกิน เมื่อรู้ตัวคนร้าย คนดูอย่างเราๆ ยังคาดคิดเลยว่า เดี๋ยวมันต้องมีอะไรพลิกผันอีก แต่ก็ไม่…
กลายเป็นหนึ่งชั่วโมงครึ่งที่ได้ดูหนังนักสืบที่ธรรมดาเกินไป
