รีวิว BRAM STOKER’S DRACULA
มันเป็นหนึ่งในหนังแดร๊กคูล่า เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดล่ะ อีกทั้งในช่วงของความรัก โรแมนติก ก็ถือว่าทำได้ถึงเเละเป็นการสอดแทรกประเด็นไว้ในหนังได้อย่างน่าสนใจ ไม่ใช่เเค่เพียงแดรกคูล่า ไล่าดูดเลือดอะไรเทือกนั้นอย่างเดียว
สร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียนชาว ไอริช เมื่อ บราม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) Dracula ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคำอีกคำหนึ่งที่แปลว่า ผีดูดเลือด แดรกคูลา (Dracula) เป็นลูกชายของ แดรกคูล (Dracul) กษัตริย์โรมันที่โหดร้าย ทารุณ Dracul เป็นสมญานามที่แปลว่า “ปิศาจ” ซึ่งกษัตริย์ที่ได้สมญานามนี้มาจากการปกครองที่โหดร้าย กระหายเลือด และแดรกคูลา (Dracula) ก็แปลว่า “ลูกชายของปิศาจ”
ดาราเบอร์ต้นๆ ที่มารับบทในหนังเรื่องนี้ก็นับว่าเยอะแยะจนคุ้มเอาซะจริงๆ ทั้งแกรี่ โอลด์แมน ที่ไปได้สบายกับการรับบทเป็นท่านเคาท์แดร๊กคูล่า ที่ถูกแปลงโฉมออกมาได้อย่างสมจริง การแสดงก้ไร้ที่ติ ราวกับว่าตอนนั้นแกรี่ดูแก่ตามตัวละครจริงๆ เคียนู รีฟ ก็สมัยที่ยังละอ่อน หล่อ ใสๆ …และนางเอกสาวที่เชื่อว่าตอนนั้นหลายคนคงชื่นชอบเธออยู่ไม่น้อยก็คือ วีโนน่า ไรเดอร์ส รวมไปถึงแอนโธนี่ ฮอปกิ้น ผู้รับเป็น แวน แฮลซิ่ง !
ในส่วนตรงนั้น มันทำให้หนังดูมีสไตล์ คลาสสิค และสามารถดึงดูดคนดูด้วยเทคนิคชวนร้องว้าว ในมุมของความน่าทึ่งที่จะทำเทคนิคงานสร้างย้อนยุคย้อนสมัยแบบนี้ ชอบฉากสยองขวัญในเรื่อง ที่พอหนังมันเดินไปในทางเทคนิคโบราณๆ หน่อย มันเลยดูมีความสมจริงสมจังตามยุคสมัย กลิ่นอายความเก่าคลาสสิค บรรยากาศหลอนๆ ปราสาทน่ากลัวๆ แบบโกธิคมันเลยได้อารมณ์ตรงนั้น
ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ผู้กำกับหนังระดับมหากาพย์ที่ไม่น่าจะทำให้ผิดหวังในเรื่องของงานสร้าง บทภาพยนตร์ ดารานักแสดง แน่นอนว่าความสมบูรณ์ของหนังต้องมาเป็นอันดับต้นๆ
ถ้าไม่ใช่หนังผี แต่ก็ลองดูสรุป ความโดดเด่นและดีงามที่เห็นเด่นชัดในหนังเลยก็คือ… การคารวะตามต้นฉบับโดยการยึดองค์ประกอบงานสร้างเป็นแบบย้อนยุค ย้อนสมัย ให้ดูมีความเก่า (ความเฉยนิดๆ) เทคนิคที่สร้างเองโดยไม่อิงคอมพิวเตอร์ เหมือนหนังสัตว์ประหลาดสมัยขาวดำของค่าย Universal ทั้งๆ ที่หนังก็ฉายปี 1992
มันเป็นหนึ่งในหนังแดร๊กคูล่า เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดล่ะ อีกทั้งในช่วงของความรัก โรแมนติก ก็ถือว่าทำได้ถึงเเละเป็นการสอดแทรกประเด็นไว้ในหนังได้อย่างน่าสนใจ ไม่ใช่เเค่เพียงแดรกคูล่า ไล่าดูดเลือดอะไรเทือกนั้นอย่างเดียว
สร้างจากนิยายชื่อดังของนักเขียนชาว ไอริช เมื่อ บราม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) Dracula ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของคำอีกคำหนึ่งที่แปลว่า ผีดูดเลือด แดรกคูลา (Dracula) เป็นลูกชายของ แดรกคูล (Dracul) กษัตริย์โรมันที่โหดร้าย ทารุณ Dracul เป็นสมญานามที่แปลว่า “ปิศาจ” ซึ่งกษัตริย์ที่ได้สมญานามนี้มาจากการปกครองที่โหดร้าย กระหายเลือด และแดรกคูลา (Dracula) ก็แปลว่า “ลูกชายของปิศาจ”
รีวิว BRAM STOKER’S DRACULA
ในนิยาย Dracula เกิดขึ้นในทรานซิลวาเนีย (Transylvania) และมีความโหดร้ายเช่นเดียวกับพระบิดา ทรงสร้างศัตรูมากมาย โดยหนังเปิดตัวในยุคสงครามศาสนา เจ้าชาย Dracula นำกองทัพสู้กับเหล่ามุสลิมและใช้ปลายหอกแหลมแทงก้นข้าศึกทั้งหมดทะลุปาก ก่อนที่เหล่ามุสลิมจะพ่ายแพ้ก็ได้ปล่อยข่าวลือเข้าไปในเมืองว่า Dracula เสียชีวิตในศึก ทำให้ Elisabeta คู่หมั้นหลงเชื่อและเศร้าโศกเป็นอย่างมาก
จึงฆ่าตัวตายโดยการกระโดดจากยอดหอปราสาท ลงสู่แม่น้ำเบื้องล่าง และบันทึกสาส์น ถึง เจ้าชาย Dracula ว่า “บางทีพระเจ้าจะให้เราพบกันในสวรรค์”
เจ้าชาย Dracula กลับถึงพระราชวังเมื่อเห็นข้อความ ถึงกับหลั่งน้ำตาและเสียใจที่คนรักจากไปเพราะคำลวงเป็นอย่างมาก แต่ทว่า… ในงานศพ บาทหลวงแห่งพระคริสต์ยืนยันว่า “เธอจะต้องตกนรก การฆ่าตัวตายเป็นบาปหนา ผิดบัญญัติของพระเจ้า” Dracula คงไม่สามารถพบกับเธอในสวรรค์ได้ เจ้าชาย Dracula ถึงกับโกรธและโมโห
ตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง “นี่ หรือคือรางวัลที่ข้าปกป้องพระคริสต์” “ต่อไปนี้ข้าขอตัดขาดจากพระเจ้า และขายวิญญาณของข้าให้กับซาตาน” Dracula ใช้อาวุธหอกทิ่มแทงสัญญลักษณ์พระคริสต์ จนหลั่งเลือด
” โลหิตคือชีวิต มันนี้แหละ จะทำให้ข้าเป็นอมตะ” Dracula ประกาศลั่น
จน กระทั่ง 400 ปีต่อมา Dracula เดินทางมา ลอนดอน ประเทศอังกฤษเพื่อตามหา Mina Murray คู่รักของเขาที่กลับชาติมาเกิดใหม่ แต่เธอเป็นคู่หมั้นของ Jonathan Harker ซึ่ง Dracula ได้วางแผนหลอกมาขังตัวไว้ในปราสาทของเขาที่โรมาเนีย ถึงแม้ว่า Mina Murray จะจำเขาไม่ได้ แต่ด้วยพลังอำนาจที่เหนือธรรมชาติของ Dracula ทำให้เธอระลึกถึงความรักในอดีตและรักเขาได้อีกครั้ง
เรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกครับ ที่ผมดูแล้วกลับสงสาร ปิศาจ ขึ้นมาจับใจ บรรยากาศความสมจริงเหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆเอาไปเลยเต็มร้อย เลยครับ ตลอดทั้งเรื่องพบแต่ความ Classic ของหนังผสมความหลอน ความน่ากลัว ที่ทำออกมาได้ประทับใจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากอลังการ คอสตูมเสื้อผ้า เอฟเฟ็ค แต่งหน้า ไม่ธรรมดาเลยครับ แม้หนังจะผ่านมา 17 ปีแล้ว และนักแสดงแต่ละคนก็ระดับเทพ อย่าง Gary Oldman และ Anthony Hopkins ที่เล่นได้ถึงบทบาทมาก จนรู้สึกว่า Keanu Reeves ห่างชั้นไปไกลเลย ต่างกับ Winona Ryder ที่แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ว่าสามารถยืนเคียงข้างอยู่ระดับเดียวกับสองยอด ฝีมือได้อย่างไม่เกรงกลัวบารมี บวกความสวยกับฝีมือทำให้ทุกฉากที่มีเธอจะเป็นจุดที่น่าสนใจตลอด
ความรู้สึกหลังดู
เป็นหนังสยองขวัญที่บรรยากาศสวยงามมากที่สุด และโรแมนติคที่สุด ในความรู้สึกหลังจากได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ แต่ไม่ได้เป็นหนังสยองขวัญที่ทำให้ถึงกับรู้สึกขนหัวลุกเพราะความหลอน
หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Dracula คือความแข็งแรงของตัวละครหลักของผู้หญิง มินาเมอร์เรย์ซึ่งแต่งงานกับโจนาธานผ่านนวนิยายเรื่องนี้และกลายมาเป็น Mina Harker ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่การพัฒนาเรื่องราว นอกจากเป็นหนึ่งในผู้เล่าเรื่องหลักของเรื่องแล้ว Mina ยังช่วยผลักดันพล็อตด้วยสติปัญญาและความมั่งคั่งของเธอ
ในหลาย ๆ ด้านมิน่าเป็นวีรบุรุษมากที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่ง Mina มีแนวคิดในการพิมพ์สำเนาข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาซึ่งช่วยให้พวกเขารวบรวมและแบ่งปันข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาใน Dracula เมื่อ Mina ถูกกัดโดยแวมไพร์และเริ่มเปลี่ยนตัวเองเธอรักษาความจงรักภักดีของเธอ ในที่สุดเธอก็ให้เพื่อนร่วมงานของเธอมีความเข้าใจอันลึกซึ้งต่อการเคลื่อนไหวของแดรกคิวลา ในตอนท้าย Mina อนุมานที่อยู่ของ Dracula – ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยให้มนุษย์สามารถซุ่มโจมตีเขาก่อนที่เขาจะสามารถเข้าถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเขา
Stoker ยังไม่อายไปจากเลือด เขาอธิบายอย่างละเอียดถึงช่วงเวลาที่สเต็ปถูกผลักดันผ่านหัวใจของลูซี่: “สิ่งของในโลงศพถูกห่อหุ้มอยู่และมีเสียงกรีดร้องเลือดเย็นน่ากลัวเกิดขึ้นจากริมฝีปากแดงที่เปิดอยู่ร่างกายสั่นและสั่นและบิดเบี้ยวในป่า ฟันสีขาวคมพร้อมกันจนริมฝีปากถูกตัดออกและปากถูกป้ายด้วยฟองสีแดงเข้ม ” ไม่มีรายละเอียดใด ๆ
ตัวละครของ Mina ขัดแย้งกับเพื่อนของเธอ Lucy ที่มีส่วนช่วยหลักในนวนิยายเรื่องนี้คือความสามารถในการปฏิเสธเธอได้ Mina ชุมนุมหลังจากที่ถูกกัดแม้จะมีความจริงที่ว่าเธอเป็นอย่างดีบนเส้นทางที่จะกลายเป็นแวมไพร์ มีน่ารอดความขัดแย้ง ในความเป็นจริงเธอช่วยในการช่วยชีวิตของตัวเองในขณะที่ลูซี่เล่นเป็นเหยื่อที่ไร้กำลัง ลูซี่เป็นผู้หญิงที่เป็นลมขวาง – ทุกข์ (นางเอกที่คาดว่าจะได้จากนวนิยายยุควิกตอเรีย) ในทางตรงกันข้ามบทบาทที่สำคัญของ Mina ในข้อสรุปนี้จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหญิงสาวในความทุกข์ทรมานบนหัวของมัน
Dracula อยู่ในระดับที่เทียบเท่ากับมาตรฐานร่วมสมัยในหลาย ๆ ด้านทำให้อ่านง่ายสำหรับผู้อ่านสมัยใหม่ ด้วยคุณสมบัติที่ไร้กาลเวลามากมาย แดร๊กคูล่า จะยังคงเป็นคลาสสิกสยองขวัญ
