รีวิว Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
หนังแอ็คชั่นสุดระห่ำเรื่องใหม่ของป๋าเลียม นีสัน ที่เป็นการร่วมงานระหว่างเขากับ มาร์ค วิลเลียมส์ ต่อจาก Honest Thief (2020) เมื่อไหร่ที่เห็นหน้า เลียม นีสัน บนโปสเตอร์หนัง ร้อยทั้งร้อยต้องคาดเดาว่าเป็นหนังแอคชัน ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้นจริงๆ ว่ากันว่าทุกๆ ปีเราจะต้องมีโอกาสได้ดูผลงานของ “เลียม นีสัน” บนจอใหญ่อย่างน้อย 1 เรื่อง และในปีนี้เริ่มต้นปีแค่ไม่กี่สัปดาห์เราก็ได้เห็นหนังบู๊ของลุงเลียมเรื่องล่าสุดออกมาสู่สายตาผู้ชมแล้ว นั่นก็คือ “Blacklight” (โคตรระห่ำ ล้างบางนรก)
ที่จะเล่าเรื่องราวถึงเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ดันไปพบกับแผนการลับขององค์กรตัวเองที่กำลังมีผลต่อผู้บริสุทธิ์เขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดโปงแผนการนี้เพื่อให้คนบริสุทธิ์ปลอดภัยจากแผนอันชั่วร้ายขององค์กรตัวเอง นอกจากป๋าเลียม นีสัน แล้วยังมีนีกแสดงอย่าง ไอเดน ควินน์, เอ็มมี่ เรเวอร์,แลมป์แมน เทย์เลอร์ และ จอห์น สมิธ
ส่วนเรื่องของของ Blacklight โคตรระห่ำล้างบางนรก จะเล่าถึง ทราวิส บล็อค (เลียม นีสัน) เจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ทำงานในเงามืด ไม่มีใครรู้การมีตัวตนอยู่ของเขา เขาเชี่ยวชาญด้านการเข้าช่วยเหลือสายลับที่ถูกเปิดโปงออกมาก่อนจะเกิดอันตราย แต่กลายเป็นเขาเองที่เป็นคนพบแผนการลับสุดอันตรายที่มาจากหน่วยงานของเขาเอง ทำให้เขาต้องตั้งคำถามกับทำตัวเองว่าทั้งหมดที่เขาทำไปมันเพื่อความถูกต้องแน่หรือไม่
Blacklight โคตรระห่ำล้างบางนรก หนังเรื่องนี้มีอะไรให้เสพเยอะอยู่พอสมควรเลย เริ่มจากการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลสหรัฐจากประชาชน ไปถึงแผนการทำงานต่างๆของหัวหน้าเอฟบีไอที่คอยรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาล แต่หนังก็ไม่ได้พูดถึงสักเท่าไร ส่วนใหญ่จะไปเน้นที่การอยากวางมือของป๋าเลียมที่อยากกลับไปเลี้ยงหลานสะมากกว่า
แถมพล็อตเรื่องหนังแบบนี้ที่สายลับพยายามจะเปิดโปงแผนชั่วของอาชีพตัวเองก็มีอยู่เยอะแยะไป จึงทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำสักเท่าไรครับ แต่ฉากแอ็คชั่นที่เป็นจุดขายของหนังค่อยข้างดีเลยแต่ดันไปไม่สุดเท่าที่ควร แต่ก็ยังดูเพลินอยู่ครับ แล้วยังมีฉากให้เราลุ้นหน่อยๆกับการเปิดโปงครั้งนี้จะเป็นอย่างไร และในตอนท้ายต้องบอกเลยว่าจบสวยมากสำหรับหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ที่ไม่มีการฆ่าแกงกันเลย
Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก เป็นเรื่องราวของ ทราวิส บล็อค สายลับไร้ตัวตน ผู้ได้รับภารกิจบางอย่างจนได้ค้นพบความลับอันชั่วร้ายของเอฟบีไอ ที่มีชีวิตคนบริสุทธิ์กว่าหลายคนเป็นเดิมพัน เขาจึงต่อต้านและพยายามต่อสู้เพื่อความถูกต้อง แต่กลับวุ่นวายขึ้นเมื่อครอบครัวของเขาถูกดึงเข้ามาเสี่ยงด้วย และอดีตของเขายังตามมาค้ำคออีก เขาจึงต้องปกป้องคนที่เขารัก และเปิดโปงความชั่วร้ายขององค์กรเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง
นี่คือผลงานของผู้กำกับ “มาร์ค วิลเลียมส์” ที่ถือว่าเป็นงานกำกับหนังเรื่องที่ 3 ของเขา หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์เป็นโปรดิวเซอร์หนังแอคชั่นมายาวนาน โดยครั้งนี้ถือว่ากลับมาทำงานกับลุงเลียมอีกครั้ง หลังจากผลงานเรื่องก่อนอย่าง Honest Thief ซึ่งเขายังได้ร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย โดยต้องยอมรับว่า Blacklight มาพร้อมกับประเด็นที่ขึงขัง สอดแทรกปมการเมืองเอาไว้ได้ค่อนดีน่าสนใจ เพียงแต่ว่าการนำเสนอและเล่าเรื่องของนั้นยังไม่เชียบขาดและไม่น่าสนใจเพียงพอ
ปัญหาหลักๆ ของ Blacklight คือการเล่าเรื่องค่อนข้างขาดเสน่ห์และใส่รายละเอียดเยอะเกินไป หนังเสียเวลากับการปูเรื่องไปค่อนข้างนานเกือบเป็นชั่วโมง กว่าจะจุดเครื่องติดและเร่งเครื่องสู่โหมดบู๊สนุกที่ควรจะเป็น แต่จังหวะที่ช้าเกินไปของนั้นก็เกือบจะทำลายหนังทั้งเรื่องไปอย่างน่าเสียดาย เอาเข้าจริงๆ ไคลแมกซ์ช่วงท้ายของเรื่องก็เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จเดิมๆ ที่ไร้ความแปลกใหม่ และแทบไม่มีอะไรให้น่าจดใจ กลายเป็นบทสรุปที่รวบรัดและดูลวกๆ ไปสักหน่อยด้วย
เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
รีวิว Blacklight โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
เลียม นีสัน ก็ยังคงเป็นลุงเลียมขาบู๊ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เห็นได้ชัดว่าหนังเรื่องนี้ลุงก็โรยราและดูเหนื่อยอยู่ไม่น้อย เสน่ห์ของตัวละครที่เขาได้รับเกือบจะแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ไม่อยู่ เนื่องจากเป็นคาแรกเตอร์ที่ดูเหมือนจะมีอะไรที่น่าสนใจ แต่หนังกลับไม่สามารถขับอินเนอร์นั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่ สุดท้ายก็กลายเป็นแค่คาแรกเตอร์ที่ดาดดื่นธรรมดาๆ ที่ไร้ความน่าค้นหาและไร้เสน่ห์ที่ชวนทำให้ต้องลุ้นติดตามไปด้วย
อย่างที่บอกว่า Blacklight มีประเด็นสอดแทรกทางการเมืองที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่เบา เพียงแต่ว่าไม่สามารถขับเสน่ห์ออกมาได้เช่นกัน ด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่ราบเรียบเกินไป หนังเล่าผ่านไปเกือบจะชั่วโมงยังค่อนข้างน่าเบื่อและดูไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องรอกว่าไฟจะสปาร์กติดขึ้น จึงสามารถช่วยยกระดับความสนุกตามท้องเรื่องได้ขึ้นนิดหน่อย แต่โดยภาพรวมก็ถือว่าการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้น่าผิดหวังไปไม่น้อย และน่าเสียดายประเด็นเข้มข้นที่ใส่เข้ามา ที่ถือว่าเสียดสีสังคมได้ไม่น้อยเลย
ด้วยจังหวะเช่นนี้จึงพลอยทำให้รัศมีของนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ถูกกลืนหายไปอย่างน่าเสียดายด้วย ไม่ว่าจะเป็น “เอ็มมี เรเวอร์-แลมพ์แมน”, “เทเลอร์ จอห์น-สมิธ”, “ไอแดน ควินน์” ที่กลายเป็นแค่ตัวละครประกอบที่ใส่เข้ามาให้เต็ม โดยที่หนังค่อนข้างทิ้งขว้างคาแรกเตอร์พวกนี้ ทั้งที่สำคัญแต่เหมือนจะไม่สำคัญสักเท่าไหร่ จุดนี้อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นสไตล์หนังเกรดบีไปแล้ว
เอาเป็นว่า หนังบู๊เรื่องนี้ของลุงเลียม ที่ยังถูกถือว่ามาตามสูตรสำเร็จเดิมๆ แต่ค่อนข้างทำให้รู้สึกน่าผิดหวังไปสักหน่อย เพราะจังหวะและการเล่าเรื่องที่เรื่อยเปื่อย ขาดเสน่ห์ทีชวนติดตาม อีกทั้งยังปูเรื่องได้ช้าเนิบไปสักหน่อย สุดท้ายก็เข้าสูตรเดิมๆ ของการบูู๊ไล่ล่าแบบมันส์ แต่ก็มันส์ไม่สุดสักทางอยู่ดี แต่หากว่าใครที่ชอบดูหนังบู๊ของลุงเลียมก็อาจจะต้องตามเก็บเรื่องนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่สนุกที่สุด แต่เสน่ห์ของลุงก็ยังเปล่งประกายอยู่ไม่เลือนหาย
ความรู้สึกหลังดู
หนังพูดถึง ทราวิส บล็อก (Liam Neeson/เลียม นีสัน จากหนังเรื่อง ‘The Grey’, ‘Schindler’s List’ และ ‘Honest Thief’) ชายที่ค่อนข้างมีอายุแล้ว และต้องการหลุดพ้นจากอาชีพเดิมเพื่อไปใช้เวลากับครอบครัวบ้าง ในเวลานี้ ครอบครัวของเขาเหลือเพียง ลูกสาวอย่าง อะแมนด้า (Claire van der Boom) กับหลานสาววัยกำลังน่ารัก นาตาลี (Gabriella Sengos)
เรื่องราวมันได้ง่ายแบบนั้น เมื่อแท้ที่จริงแล้ว ทราวิส เป็นสายลับที่สุดจะลับ เขามีหน้าที่ในการช่วยเหลือสายลับด้วยกันให้รอดออกมาจากสถานการณ์คับขันและเสี่ยงจะถูกเปิดโปง แต่พอเขาแจ้งข่าวกับเจ้านายอย่าง เก๊บ – แกเบรียล โรบินสัน (Aidan Quinn จากซีรีส์เรื่อง ‘Elementary’ และหนังเรื่อง ‘Flipped’) ว่าจะวางมือ เขากลับได้รับแต่คำปฏิเสธ
ในประเทศนี้ พบว่าหลายคดีมีเงื่อนงำ ผู้สมัคร ส.ส. บางคนโดนรถชนตายโดยไม่ได้ความคืบหน้า เพื่อนสายลับอีกคนก็หันมาก่อคดีเสียเอง ยังดีที่มีนักข่าวบางสำนักพยายามขุดคุ้ย หนึ่งในนักข่าวที่ติดตามเรื่องนี้คือ มิร่า โจนส์ (Emmy Raver-Lampman จากหนังเรื่อง ‘Dog’ และซีรีส์เรื่อง ‘The Umbrella Academy’) ซึ่งก็คงไม่พ้นเสี่ยงตายไปกับเขาด้วยเช่นกัน
งานนี้ ทราวิส ต้องแก้ปมใหญ่ให้หลุด เพื่อช่วยทั้งตัวเขาเองและช่วยนักข่าวคนนั้น แต่ยิ่งแก้ก็ยิ่งพัน เมื่อสุดท้าย ทั้งลูกสาวและหลานต้องกลับกลายเป็นตัวประกัน!
เอาเข้าจริงๆ หนังเรื่องนี้ อุดมไปด้วยวัตถุดิบที่น่าสนใจหลายอย่างเลยนะครับ เริ่มกันที่ฉากการหาเสียงของผู้สมัครคนหนึ่งที่ตีประเด็นเรื่องการทำงานของรัฐ อันนี้ก็น่าสนใจ แต่ก็น่าเสียดายทุกอย่างผ่านไปหลังการตายของเธอ เพราะหนังไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอพูด แต่สนใจประเด็นเรื่องการตายของเธอเสียมากกว่า
อีกประเด็น คือ ความคิดอ่านของทราวิส สายลับผู้ทำงานในเงามืดที่ตอนนี้กลายเป็นคุณตาไปเสียแล้ว เขารู้สึกผิดกับการที่ไม่ได้เป็นพ่อที่ดีของลูก และมันคงถึงเวลาเสียทีที่เขาจะกลับไปทำหน้าที่พ่อและตา พล็อตดราม่าที่น่าจะหยิบมาบอกเล่า เบี่ยงประเด็นไปจากความเป็นหนังแอคชันทริลเลอร์ที่เกร่อโลกนี้ แต่พวกเขาก็มิได้นำพา สนใจเล่าเรื่องที่ว่า ชายผู้นี้ต้องการวางมือออกจากวงการ
หากทุกอย่างมันติดตรงที่ว่า อาชีพที่เขาก้าวเข้าไปทำอย่างยาวนาน มันไม่มีประตูให้เขาก้าวกลับออกมา
ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย
เริ่มต้นหนังเล่าถึงตัวอย่างชีวิตการทำงานของตัวละครนำอย่างทราวิส ก่อนที่เขาจะรู้สึกว่าเริ่มจะแก่เกินแกงสำหรับงานแบบนี้เสียแล้ว และเมื่อนำเรื่องนี้ไปบอกเจ้านายก็กลับได้รับคำปฏิเสธมา เมื่อตัวละครนำล่วงรู้ว่าแท้จริง องค์กรนี้ไม่ได้สวยงามอย่างภาพลักษณ์ที่ควรจะเป็น ภายในมีภารกิจ/โครงการลับที่ไม่สมควรมีอยู่ ทั้งยังพบอีกว่า การประกาศวางมือของตนส่งผลให้ครอบครัวของเขาต้องกลายเป็นตัวประกัน
หลังจากนั้น ดูเหมือนหนังจะไม่ค่อยเดินไปไหน ฉากแอคชันที่ควรจะเป็นจุดขายของหนัง ก็เปิดตัวอย่างเฉยชา ดนตรีประกอบที่ดูจะไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ในแต่ละตอน ทั้งยังอยู่ในอารมณ์เดียวกันเกือบตลอด ตรงนี้ใครไม่หาวก็คงแปลกเต็มที
หนังพยายามใส่คาแรกเตอร์ความเป็นคนระเบียบจัดของตัวละครทราวิส และเหมือนจะพยายามให้เขาดูมีปัญหาทางจิต งานภาพเลยมี ‘ช็อตภาพกระตุก’ แทรกอยู่ในหนังแทบทั้งเรื่อง จนนั่งดูก็ขำกันเองว่าจะใช้ไปเพื่ออะไร ถ้าจะบอกว่าตัวละครมีปัญหาก็น่าจะใช้แค่บางช่วงที่ต้องการเล่าถึงบุคลิกของตัวละครนั้นๆ นี่โผล่กระจายเต็มเรื่อง จนเหมือนคนดูเองที่เป็นคนมีปัญหา
พล็อตของสายลับที่เปิดโปงเอาคืนต่อองค์กรของตนนั้นก็มีการสร้างกันอยู่มากมาย จนไม่มีอะไรจะใหม่หรือน่าสนใจในสายตาคนดูอีกแล้ว และเหมือน เลียม นีสัน จะหางานแนวอื่นของตัวไม่เจอ จึงเฝ้าวนเวียนอยู่กับเส้นทางเดิมๆ ที่บางครั้งก็ได้บท/ผู้กำกับ/การตัดต่อ ที่ดีบ้าง แย่บ้าง ทำให้ผู้ชมไม่เจออะไรที่แปลกใหม่จากผู้ชายคนนี้อีกเลย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องเศร้าเช่นกัน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ Blacklight / โคตรระห่ำ ล้างบางนรก
ผู้กำกับ Mark Williams
ผู้เขียนบท Nick May
นักแสดง Liam Neeson, Aidan Quinn, Taylor John Smith, Emmy Raver-Lampman, Claire van der Boom
แนว/ประเภท Action, Thriller
เรท PG-13
ความยาว 104 นาที
ปี 2022
สัญชาติ สหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย 24 กุมภาพันธ์ 2022
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย Zero Gravity Management, Footloose Productions, Solution Entertainment Group, สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล