รีวิว Against the Ice
หนังสร้างจากเรื่องจริงของนักสำรวจขั้วโลก บทความนี้ผมเขียนมาจากความรู้สึกส่วนตัว หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ก่อนจะมาเริ่มรีวิว เรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า
เรื่องเริ่มมาที่กลุ่มนักสำรวจชาวเดนมาร์กกลุ่มหนึ่งที่กำลังรอให้กัปตันของทีมสำรวจของเขาที่ออกไปสำรวจกลับมา แบะสุดท้ายกัปตันและลูกทีมอีกคนหนึ่งที่เดินทางไปสำรวจด้วยกันก็ได้กลับมา แต่ลูกทีมที่ไปกับกัปตันดันได้รับบาดเจ็บ และต้องตัดนิ้วเท้าไป แต่ตัวกัปตันไอจ์นาร์ มิคเคลเซน อยากจะ
ออกไปสำรวจอีกครั้ง เพราะเพื่อนรักของเขาได้เดินทางไปไกลจนถึงดินแดนที่ทางอเมริกาอ้างว่าเป็นช่องว่าง แต่ที่จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของกรีนแลนด์ และหลักฐานบันทึกการเดินทางนั้น เพื่อนรักของเขาก็ได้เก็บเอาไว้ในกลุ่มก้อนหินที่ดินแดนดังกล่าว เพราะเพื่อนเขากลับมาไม่ได้แลพเสียชีวิตระหว่าง
การสำรวจ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เหลวร้าย อุณหภูมิติดลบ มีแต่น้ำแข็งรายรอบ ซึ่งศพของเพื่อนรักเขาก็ยังหายสาปสูญ กัปตันจึงต้องออกเดินทางไปหาก้อนหินนั้น เพื่อนำหลักฐานการมีอยู่ของดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของกรีนแลนด์ แต่อเมริกากลับอ้างว่าเป็นของตน แต่เนื่องจากลูกทีมเขาบาดเจ็บ
จนเสียนิ้วเท้า ทำให้เดอนทางไม่ได้ กัปตันจึงขออาสาสมัครหนึ่งคน ที่จะร่วมเดินทางสำรวจไปกับเขา และก็ได้ช่างซ่อมเครื่องยนต์เรือ ที่ไม่เคยเดินทางสำรวจในขั้วโลกเลยซักครั้ง เขาแค่ติดมากับเรือรับส่งนักสำรวจ แต่เขากลับอาสาที่จะร่วมเดอนทางอันทรหดนี้ ชายคนนี้เขาชื่อว่า อีวาร์ อีวาร์เซน และ
สุดท้าย ทั้งสองคนก็ได้ออกเดินทางร่วมกันเพื่อกอบกู้ดินแดนให้แก่ประเทศของตน และกัปตันที่อยากจะเติมเต็มความฝันของเพื่อนรักที่ตายจากไป ซึ่งระหว่างทางนั้นเขาทั้งคู่ต้องเจอทั้งอุปสรรค และความเลวร้ายทางสภาพอากาศ ภูมิประเทศ ภูเขาน้ำแข็ง พายุหิมะ ซึ่งเป็นการเดินทางที่อันตรายมากๆ
หากพลาดนิดเดียวหมายถึงชีวิต เขาทั้งคู่จะต้องประสบพบเจอกับอันตรายอะไรบ้างนั้น และบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร พวกเขาจะทำสำเร็จและรอดกลับมาได้หรือไม่ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก
โดยรวมแล้วหนังเรื่องนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ แต่หนังจะออกเนิบๆช้าๆ ไม่มีฉากตื่นเต้น หรือหวือหวาเลย เลยอาจจะทำให้หลายคนไม่ชอบเท่าไหร่นัก แต่ส่วนตัวผมดูหนังช้าๆได้ เลยรู้สึกเฉยๆ กับการที่หนังไม่ได้มีอารมณ์หวือหวา และค่อนไปทางชอบด้วยซ้ำ ผมมองว่าหนังเรื่องนี้เหมาะกับคนที่ชอบดู
แนวสารคดี คือดูการเดินทางของนักสำรวจ ความคิดของนักสำรวจ สิ่งที่เขาต้องเผชิญ และเพราะอะไรถึงมาทำงานที่เสี่ยงชีวิตแบบนี้ ซึ่งมันทำให้เราได้เข้าใจและรู้จักอาชีพนักสำรวจมากขึ้น ผมจึงค่อนข้างชอบในส่วนนี้ แต่น่าเสียดายที่อารมณ์ของหนังมันแบบราบจนเกินไป อาจเพราะทำมาจากหนังสือที่
เขียนโดยตัวนักสำรวจเอง และทางผู้สร้างอาจอยากทำให้ตรงตามจริง 100 เปอร์เซ็น เลยทำให้มันแบนราบ และน่าเสียดาย ถ้าหากแต่งเติมเพิ่ม สร้างเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ส่งผลต่ออารมณ์คนดูหน่อยคงจะดี อย่างเช่นให้เกิดการทะเลาะกันแบบรุนแรงซักครั้ง เพราะมาติดอยู่กลางน้ำแข็งขนาดนี้
มันต้องกล่าวโทษกันบ้าง แต่ก็ไม่มีให้เห็นแบบจริงๆจังๆ มีแค่เคืองๆกันนิดหน่อย เลยรู้สึกเสียดาย ฉากสู้กับหมีก็ดันไม่ได้ลุ้นระทึกอะไรมากนัก ถ้าทำให้ตื่นเต้นสมจริง มันจะช่วยส่งให้หนังเรื่องนี้ดีขึ้นอีกเยอะ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง
รีวิว Against the Ice
ต่อมาเรื่องงานภาพของเรื่องนี้ บแกเลยว่าทำออกมาได้ดีมากๆ ภาพสวยมาก ถ้าดูละไม่อินกับเนื้อเรื่องก็เข้าไปเสพงานภาพก็ได้ เพราะงานภาพดีงามจริงๆ บรรยากาศก็ดี ถือเป็นจุดแข็งของหนังจุดหนึงเลย โปรดักชั่นและซีจีต่างๆก็ทำออกมาได้ดี แต่เสียดายหลายฉาก
ที่มุมกล้องน่าจะดีกว่านี้และบิ้วอารมณ์ด้วยซาวน์ สร้างบรรยากาศ เพิ่มแอร์ไทม์ให้ฉากที่มันลุ้นๆมากกว่านี้ก็คงจะดี อย่างฉากที่หมาตกหน้าผา ผมมองว่ามันมาเร็วเกินไป ถ้าให้ตัวละครและหมาตัวนั้นได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ให้คนดูได้อินกับความรักของคนกับหมาคู่นี้ และให้หมาไปตายซักกลางเรื่อง มัน
จะทำให้อารมณ์มันอิมแพ็คกว่านี้ และฉากตอนช่วยก็รู้สึกว่าเร็วไป แบบน่าจะทำให้ลุ้นและยื้อมากกว่านี้หน่อย แต่มันดันไปไม่สุด ส่วนของเพลงและเสียงประกอบฉาก คือผมแทบจำไม่ได้เลยว่าเพลงอะไร แต่ก็ไม่ได่แย่นะ แค่ธรรมดาทั่วไป ตามมาตรฐานปกติ และส่วนสุดท้ายในเรื่องของการแสดง ในส่วนนี้
ถือว่าเป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ นักแสดงหลักสองคนอย่าง โจ โคล ที่รับบทเป็น อีวาร์ อีวาร์เซน ช่างยนต์เรือที่อาสาร่วมการสำรวจ และ นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู ที่รับบทเป็น กัปตันไอจ์นาร์ มิคเคลเซน หัวหน้าทีมสำรวจเดนมาร์ก ผู้นำการเดินทางสำรวจในครั้งนี้ บอกเลยว่า
สองคนนี้แบกหนังทั้งเรื่องไว้บ่นบ่าของจริง ทั้งคู่แสดงได้ดีมากๆ โดยเฉพาะ นิโคไล ผู้รับบทกัปตัน แสดงได้ดูเย็นชา อินด้ และเข้าถึงบทบาทจริงๆ ส่วนโจโคล ก็เล่นได้ดี สลัดบุคลิกของ จอห์น เชลบี้ จาก Peaky Blinders ไปได้อย่างปลิดทิ้ง เพราะเรื่องนี้เขามาในลุคหนุ่มใจดี ใจเย็น และเป็นคนดีมากๆ
ขนาดตอนที่เขาเตือนกัปตันให้ทิ้งโน้ตไว้ก่อนออกเดินทางรอบสอง เพราะเผื่อมีคนมาช่วยจะได้รอพวกเขากลับมา แต่กัปตันกลับบอกว่าไม่จำเป็น สุดท้ายกลับมาแล้วก็มีคนมาระหว่างพวกเขาไม่อยู่จริงๆ แทนที่เขาจะโกรธและระเบิดอารมณ์ใส่กัปตัน เพราะไม่เชื่อสิ่งที่เขาบอก แต่เขากลับไม่บ่นอะไร
ซักคำ และยอมรับความจริงไป เพราะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ถือว่าเป็นตัวละครที่เป็นคนดีมากๆ แต่เพราะความดีเกินไป เลยส่งผลให้ตัวบะครนี้มันดูแบนราบและไร้มิติเกินไปหน่อย ดูหนังออนไลน์2022
ความรู้สึกหลังดู
สรุปโดยรวมแล้วสำหรับผมนั้น ผมชอบหนังเรื่องนี้พอสมควร ส่วนตัวเป็นคนชอบดูหนังสร้างจากเรื่องจริงอยู่แล้ว แบะแม้ว่าบทเรื่องนี้มันจะดูแบนราบ แต่หนังก็ยังสามารถทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราว และความคิดของนักสำรวจให้เราได้รู้เยอะอยู่พอสมควร ทั้งการเดินทางต้องมีอะไรบ้าง อุปสรรคคืออะไร
เมื่อเดินทางไปไกลๆและเสบียงใกล้หมด ก็จะต้องเสียสละหมาลากเลื่อนบางตัวไปเพื่อเป็นอาหารให้กับหมาตัวอื่นได้อยู่รอด หรือ ทริกซ์เล็กๆของนักสำรวจที่เอาน้ำมาเคลือบใต้พื้นลากเลื่อนและความเย็นทำให้กลายเป็นชั้นน้ำแข็งบางๆเคลือบไว้ และจะทำให้ไหลไปกับพื้นน้ำแข็งได้เร็วขึ้น ลดแรง
เสียดทาน การก่อเสาหินและเก็บบันทึกการสำรวจไว้ข้างใน เพื่อเป็นสัญลักษณ์และเป็นการรักษาหลักฐานบันทึกการสำรวจ รวมไปถึงตีแผ่วิธีคิดของนักสำรวจ ที่จะมีซีนที่กัปตันบอกว่า เราต้องทิ้งความรู้สึกไว้ที่บ้านและมุ่งมั่นกับการเดินทาง เพราะมันอันตรายมากๆเราไม่มีเวลาจะมาโฟกัสหรือเศร้าใจ และ
การที่นักสำรวจต้องแบกรับกับผลกระทบทางจิตใจระหว่างการเดินทาง เพราะมันยาวนาน และโดดเดี่ยว จนทำให้นักสำรวจต้องได้เจอกับภาพหลอนต่างๆ ซึ่งผมมองว่าจุดเล็กๆเหล่านี้ เป็นรายละเอียดที่เขาใส่ใจและใส่มาให้เราได้รู้ และผมก็ดันชอบอะไรแบบนี้มากๆ เลยทำให้มองข้ามเรื่องความแบน
ราบของบทหนังไปได้ซะสนิท เพราะผมรู้สึกว่าหนังมันทำให้ผมได้รู้และเข้าใจอะไรใหม่ๆมากขึ้น แถมงานภาพก็ทำออกมาได้ดี ดูเพลิน โปรดักชั่น ซีจีก็ดีงาม นักแสดงก็ดี สรุปแล้วผมขอให้คะแนนหนังเรื่องนี้ไว้ที่ 6.5/10
เป็นแนวผจญภัย ออกสำรวจแผ่นดินใหม่ ย้อนยุคไปในสมัยที่เพิ่งมีเครื่องจักรไอน้ำ อย่างปี 1909 ซึ่งในหนังก็ได้มีการพูดถึงเรือไททานิคให้คนดูได้เทียบเวลาด้วยว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ผู้เขียนสนใจในตัวหนังมากขึ้น และดินแดนที่ทีมสำรวจเดนมาร์กออกสำรวจคือ เพียรี่แลนด์ ดินแดนสุดท้าย
ของกรีนแลนด์เพื่อยืนยันว่าดินแดนนี้เป็นของกรีนแลนด์ไม่ใช่ของอเมริกา โทนหนังหนาวเหน็บเพราะเป็นขั้วโลกเหนือ หนังนำเสนอด้วยตัวละครสองคนกับการเดินทางที่ยากลำบากของพวกเขา การเอาชีวิตให้รอดในอากาศที่หนาวเย็นและอาหารที่มีจำกัดและกำลังจะหมดลง การสำรวจที่ต้องมีความหวัง
และมีหัวใจแข็งแกร่ง หนังมีจังหวะให้ลุ้นในทุก ๆ ช่วงเวลา ไม่ถึงกับเอื่อยไป แต่ก็ไม่ได้ลุ้นหนักมากเกินไป และขอเตือนหนัก ๆ เลยนะคะ สำหรับคนที่รักน้องหมา หากไม่ใจแข็งพอห้ามดูเด็ดขาด เพราะมีการฆ่าน้องเพื่อการเอาชีวิตรอดและกำจัดอุปสรรคในการเดินทาง (หนังให้เหตุผลแบบนี้ ซึ่งก็เข้าใจได้
ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย
สร้างจากเรื่องจริงของการเดินทางในคืนก่อนวันคริสต์มาส ปี 1909 เมื่อคนสำคัญของทีมสำรวจเดนมาร์กเกิดได้รับบาดเจ็บ บังคับให้ทีมสำรวจเกือบทุกคนจะต้องอยู่ดูแลในเรือ ในขณะที่สองคนที่ต่างกันสุดขั้วต้องร่วมเดินทางสู่ขั้วโลกเหนือ ทั้งกัปตันไอนาร์ มิกเกลเซ่นผู้มีความหลังฝังใจ
และไม่แยแสใคร กับ อีวาร์ เอเวอร์เซน หนุ่มนายช่างที่ดูไม่เอาไหนที่ทำให้พวกเขาได้เจอกับอันตรายที่นอกจากคนจะวุ่นวาย สุนัขเองก็ต้องเสี่ยงภัยไม่แพ้กัน พวกเขาจึงต้องเรียนรู้ความแตกต่างของกันและกันและต้องหาทางเอาชีวิตรอด เพื่อค้นหาความจริงที่หลงเหลืออยู่ในกรีนแลนด์ ณ ที่ที่นักสำรวจ
กลุ่มก่อนที่เดินทางไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย ความลับของแผนที่ หลักฐานสำคัญที่จะเปิดเผยความจริงของยุโรป ดินแดนที่พวกเขาต้องรักษา ภายใต้ความเยือกเย็นของภูเขา หิมะ ความเคลืองแคลง และมหันตภัยที่ทั้งคู่อาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดกลับไปยังแผ่นดินใหญ่อีก
เป็นหนังที่ดูได้เรื่อย ๆ ไม่ได้แย่ เหมาะกับคนที่ชอบแนวสำรวจ แนวผจญภัยและชอบอากาศหนาว เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่หิมะ ให้บรรยากาศโดดเดี่ยว ผู้เขียนให้ 7/10 คะแนน เพราะตอนจบทำให้น้ำตาไหลค่ะ ซึ้งใจมากเลย แบบดูทั้งเรื่องก็คืออารมณ์เรื่อย ๆ ชิว ๆ นะคะ แต่มันอิ่มในตอนจบค่ะ
ชื่อภาพยนตร์ Against the Ice / มหันตภัยเยือกแข็ง
กำกับ Peter Flinth
เขียนบท Nikolaj Coster-Waldau, Joe Derrick
ดนตรีประกอบ Volker Bertelmann
แสดงนำ Nikolaj Coster-Waldau, Joe Cole, Heida Reed, Þorsteinn Bachmann, Charles Dance
แนว/ประเภท Adventure, Drama, History
เรท TV-MA
ความยาว 102 นาที
ปี 2022
สัญชาติ Iceland
เข้าฉายในไทย 2 มีนาคม 2022 ใน Netflix
ผลิต/จัดจำหน่าย Ill Kippers Productions, RVK Studios, Netflix