รีวิว After Yang
ภาพยนตร์แนวดราม่าไซไฟที่จะพาคุณไปค้นหาคำตอบของชีวิต ภาพยนตร์แนวดราม่าอาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน นั่นก็เป็นเพราะว่าการเล่าเรื่องราวแนวนี้มักจะดำเนินไปแบบช้าๆ ไม่ได้มีจุดพีคจุดเด่นอะไรให้เรารู้สึกสนุกไปกับมันเพราะมันเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าหรือมีปมประเด็นที่ไม่สามารถสนุกไปกับมันได้
ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับบางคนแล้วยังหลีกเลี่ยงภาพยนตร์แนวนี้ไปเลยเพราะมันทำให้รับชมไปแล้วรู้สึกเศร้ามากกว่าผ่อนคลาย แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์แนวนี้มักจะให้คำตอบบางสิ่งบางอย่างกับเราอยู่เสมอมันจึงยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนบางกลุ่มอยู่ รีวิวหนังฝรั่ง
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวดราม่าเราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง AFTER YANG มันเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่ค่อนข้างน่าสนใจเนื่องจากมีการผสมผสานความเป็นไซไฟเข้ามาด้วย เล่นการเล่าเรื่องราวเมื่อมนุษย์และหุ่นยนต์ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถพาคุณไปค้นหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตได้อีกด้วย
การเป็นภาพยนตร์แนวดราม่ามีข้อดีอยู่ 1 อย่างนั่นก็คือพวกเขาสามารถเล่าเรื่องราวแบบค่อยเป็นค่อยไป มีความบรรจงและละเมียดละไมทำให้เราสามารถดำดิ่งไปกับความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดี ดังนั้นแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ใช่ภาพยนตร์ในกระแสแต่มันก็มีความหนักแน่นและสร้างความบันเทิงให้กับผู้รับชมได้ไม่แพ้ใคร
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง AFTER YANG
AFTER YANG เป็นเรื่องราวที่จะเล่าถึงอนาคตอีกไม่ไกล ในช่วงเวลานั้นการที่ครอบครัวจะมีหุ่นยนต์ ANDROID ที่มีลักษณะภายนอกเหมือนกับคนไม่มีผิดเพี้ยนเอาไว้ในครอบครองไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป แต่มันกลับทำให้ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งที่ต้องเผชิญกับบททดสอบสำคัญต่อชีวิตของพวกเขา
หุ่นยนต์ ANDROID ที่พวกเขาได้อุปการะไว้มีชื่อว่าหยาง เธอทำงานมาได้ด้วยดีโดยตลอดแต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดเหตุขัดข้องบางอย่าง หนึ่งในสมาชิกครอบครัวเจคจึงพยายามค้นหาวิธีการซ่อมระบบและช่วยเหลือให้เธอสามารถกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ลูกสาวของเขาทั้งรักและสนิทกับหุ่นยนต์ดังกล่าวเหมือนกับพี่ชายแท้ๆ ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้จะไม่ได้มองว่าหยางเป็นหุ่นยนต์แต่มองว่าเป็นคนหนึ่งในครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การที่หยางมีเหตุขัดข้องทางระบบทำให้ลูกสาวของเขาต้องเผชิญกับความเสียใจในวันที่ไม่มีหุ่นยนต์ ANDROID ที่เปรียบเสมือนกับพี่ชายอีกต่อไป ทั้งเขาและภรรยาจึงต้องพยายามประคับประคองสถานการณ์และหาทางออกเกี่ยวกับปัญหานี้ให้สำเร็จซึ่งมันก็กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกเขาต้องพบเจอกับบางสิ่งที่พวกเขาไม่คิดว่าจะได้พบเจอ
เป็นภาพยนตร์ที่ในช่วงแรกคุณอาจจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจและดูเหมือนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่มีอะไรที่น่าสนใจขนาดนั้น แต่เมื่อเรื่องราวเริ่มเล่าไปเรื่อยๆ และคุณเริ่มที่จะเข้าใจถึงความรู้สึกและบรรยากาศในเรื่องราวมากขึ้นกว่าเดิม ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางและคุณจะได้สัมผัสกับความดราม่าไซไฟแบบเต็มสูบ แต่มันไม่ใช่การเน้นเล่าเรื่องราวเพื่อให้คุณรู้สึกเศร้าเพียงแค่อย่างเดียว แต่มันทั้งบัณฑิตบรรจงและเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง มีการสอดแทรกแนวคิดรวมไปถึงปรัชญาชีวิตเข้ามามากมายแถมยังเล่าได้ง่ายและตรงจุดอีกด้วย ทุกอย่างในเรื่องราวทั้งหมดสามารถส่งให้ตอนจบของภาพยนตร์ที่ดูเหมือนจะยืดยาวเรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำให้คุณรู้สึกคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน
ภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นในหนังสือเยาวชนที่ถูกตีแผ่ออกมาในรูปแบบของคนแสดง การเล่าเรื่องราวชาญฉลาดเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถไล่ระดับพลังงานในภาพยนตร์ได้อย่างละเมียดละไมและเต็มอิ่ม แก่นเรื่องน่าติดตามและเต็มไปด้วยปริศนามากมายที่เราอยากจะหาคำตอบไปพร้อมกับทุกคน มีการสอดแทรกประเด็นเรื่องความหมายแห่งชีวิตและมันอาจจะทำให้คุณได้รับคำตอบเกี่ยวกับชีวิตของคุณเองได้อีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่สามารถทำได้ดีในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คืองานโปรดักชั่น ทั้งองค์ประกอบศิลป์และงานออกแบบสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้บอกว่าเราอยู่ในโลกอนาคตแต่มันก็สามารถใส่รายละเอียดที่เราสามารถสังเกตได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันแต่อย่างใด แต่มันก็ไม่ได้เวอร์วังอลังการถึงขั้นลิเก เป็นภาพยนตร์แนวโลกอนาคตที่มีความสมจริงมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงอีกด้วย
ด้วยความราม่าของมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่เข้ามาในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตามอย่างเช่นการดื่มชาที่เหมือนกับจะเป็นวัฒนธรรมเอเชียธรรมดาทั่วไปแต่มันกลับแฝงอะไรไว้ให้เราได้คิดมากมาย น่าเสียดายที่โดยรวมแล้วมันอาจจะไม่ใช่ภาพยนตร์ที่หลายคนรู้สึกชื่นชอบหรือรับชมแล้วเข้าใจ ตื้นตันใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยระยะเวลากว่าชั่วโมงครึ่งจะมีคนที่ทั้งรู้สึกว่ามันยังไม่เต็มอิ่มและคนที่รู้สึกว่าเรื่องราวช่างอืดอาจยืดยาดจนเกินไป
แต่อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนต์แนวนี้อยู่แล้วหรือเป็นคนที่ชื่นชอบการรับชมเพื่อเสพบรรยากาศองค์ประกอบศิลป์เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่จะสามารถทำให้คุณรู้สึกเต็มอิ่มไปกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความดราม่าได้อย่างแน่นอน
รีวิว After Yang
ปีนี้ มีหนังไซไฟจาก A24 เข้าไทยถึงสองเรื่อง หลังพบกับความหฤหรรษ์มัลติเวิร์สในหนัง ‘Everything Everywhere All at Once’ กันไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มาวันนี้ ได้พบได้เจออีกเรื่องแล้ว แตกต่างที่มันเป็นดราม่าไซไฟ ‘After Yang’ เรื่องราวของครอบครัวในโลกอนาคตที่มนุษย์สร้างเอไอที่มีรูปลักษณ์เหมือนมนุษย์ และเขามาอยู่ในฐานะสมาชิกของครอบครัว ภาพยนตร์ที่มี โคโกนาดะ ผู้กำกับชาวอเมริกันที่เกิดในเกาหลีใต้ที่มีเครดิตจากหนัง ‘Columbus’ และซีรีส์ ‘Pachinko’ โดยดัดแปลงมาจากเรื่องสั้น ‘Saying Goodbye to Yang’ จากหนังสือ ‘Children of the New World’ ของ อเล็กซานเดอร์ ไวน์สตีน หนังที่ดูมีพล็อตไม่ซับซ้อน แต่สิ่งที่หนังบอกกับเรามันลึกซึ้งมากเลย
แต่แล้ววันหนึ่ง หุ่นยนต์แอนดรอยด์ที่ชื่อหยางนี่กลับเกิดขัดข้องจนหยุดทำงานไป ทำให้เจคต้องหาทางซ่อมแซมให้หยางกลับมา และนั่นทำให้เขาต้องเข้าไปเชื่อมต่อกับความทรงจำของหยาง กลับกลายเป็นว่า เหตุการณ์นี้ ทำให้เขาได้ย้อนกลับไปมองชีวิตของตัวเอง ภรรยาและลูกสาวผู้ห่างเหินอีกครั้ง มันคือหนังดราม่าที่เล่าเรื่องอนาคตทำให้หนีไม่พ้นความเป็นไซไฟ โลกที่แอนดรอยด์จะอยู่ร่วมกับมนุษย์ด้วยคำสั่งที่ตั้งไว้ ครอบครัวนี้ก็เช่นกัน พวกเขาต่างก็ไม่มีเวลาให้กับลูกสาว เมื่อหาซื้อหยางมาได้ แม้ตั้งหวังด้วยเป้าหมายให้ลูกได้เรียนรู้เรื่องความเป็นจีน แต่ก็กลับกลายเป็นการหยิบยื่นพี่ชายให้ แน่นอนว่า สิ่งแรกที่สงสัยก็คือ เหตุใดพ่อที่เป็นฝรั่งผิวขาว กับแม่ที่เป็นคนผิวดำ ลูกสาวจึงกลายเป็นคนหน้าเอเชีย คำตอบอยู่ในช่วงถัดมาว่า เธอคือบุตรบุญธรรม นั่นเอง
โคลิน ฟาร์เรลล์ ผู้เล่นเป็นเจค พ่อที่แสนละมุน เขามีอาชีพเป็นเจ้าของร้านชา ผู้หมกมุ่นอยู่การขาย การคิดค้นชงและชิมชา เขามักกลับเข้าบ้านล่าช้าอยู่เสมอ แม้สัญญาว่าจะปรับปรุงแต่ก็ยังไม่เคยทำอย่างที่รับปาก นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้มิกะลูกสาวอยู่กับหยางแทบจะตลอดเวลา เขากลายเป็นพี่ชายที่เธอรักมาก และเมื่อวันหนึ่ง เกิดอาการผิดปกติขึ้นกับหยาง ร่างเขาแน่นิ่ง-ดวงตาเหม่อลอย มิกะทุกข์ใจมากจนไม่ยอมไปเรียน เจคจึงต้องหาทางอย่างหนักเพื่อนำเจคกลับมา และการเดินทางครั้งนี้ของเจค นำพาให้ทั้งครอบครัวได้พบกับบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้ ทั้งได้พบเจอประเด็นที่น่าคิดควบคู่ไปด้วย
หนังเรื่องนี้ เดินเรื่องไม่ได้ช้ามากนัก แต่เต็มไปด้วยบทสนทนาที่ไม่เร่งเร้า ใช้ประโยชน์จากงานดีไซน์ในฉากค่อนข้างสูง ประกอบกับมุมมองการถ่าย การจัดวาง และดนตรีประกอบที่ค่อนข้างประณีต ออกมาดูอาร์ตๆ ส่งผลให้โดยรวมของหนังดูเนิบช้าไปบ้าง ในขณะที่หนังเล่าเรื่องในอนาคตที่เทคโนโลยีล้ำหน้าจนสามารถสร้างหุ่นแอนดรอยด์ให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนและเป็นหนึ่งสมาชิกในบ้าน มันเลยกลายเป็นหนังไซไฟ ทั้งที่เนื้อหาให้ความรู้สึกว่าเป็นหนังดราม่าชัดกว่าความเป็นไซไฟเสียอีก อีกสิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้ก็คือ หนังค่อนข้างเน้นภาพที่มืด มักเล่าช่วงเวลากลางคืนในบ้านที่เปิดไฟน้อยดวงจนรู้สึกว่าต้องเพ่งมากกว่าปกติว่าอะไรมันเกิดขึ้นบ้าง
แต่สิ่งที่หนังเด่นชัดก็คือบทสนทนาที่เล่าประเด็นชวนคิดเกี่ยวกับมนุษย์และเอไอ ไหลเริ่มจากเรื่องของครอบครัวที่เกิดจากสมาชิกต่างที่มาในบ้านหลังนี้ ก่อนตั้งคำถามประเด็นปรัชญาชวนคิดเกี่ยวกับหลายสิ่ง นิยามความเป็นมนุษย์ ครอบครัว ตัวตนและมีการอยู่ของหุ่นยนต์ และอะไรอีกหลายอย่าง สำหรับผม บทสนทนาเป็นหัวใจหลัก และเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมชมชอบหนังเรื่องนี้ หนังพาเราท่องไปในพื้นที่แห่งความทรงจำของเอไอตัวหนึ่ง ที่เก็บช่วงเวลาส่วนเสี้ยวต่างๆ ยามได้อยู่กับมนุษย์ ชวนตั้งคำถามต่างๆ นานา ถึงการมีอยู่ของพวกเราและพวกเขา อาจมีบางส่วนของเรื่องราวที่ชวนน้ำตารื้นไปบ้าง บางประเด็นสะกิดต่อมความอ่อนไหวให้ทำงาน พาสำรวจตัวเองและตกตะกอนไปพร้อมๆ กับตัวละคร
ความรู้สึกหลังดู
ถึงคิวอีกหนึ่งหนังที่ค่อนข้างมีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ แม้ว่าแนวคิดต่าง ๆ ของหนังจะค่อนข้างดูซ้ำและไม่ได้แปลกใหม่สักเท่าไหร่จากหนังไซไฟที่คนกับหุ่นยนต์ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน แต่สำหรับ “After Yang” เรื่องนี้ กลายเป็นหนังชีวิตผสมความเป็นไซไฟที่มาเพื่อไขปริศนาและค้นหาคำตอบแห่งชีวิตให้กับคนดูด้วยการร้อยเรียงเรื่องราวที่บรรจงและค่อยเป็นค่อยไป อาจจะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังในกระแส แต่แกนหลักของเรื่องนี้…หนักแน่นเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้ไม่น้อย
เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ครอบครัวเล็ก ๆ ต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบแห่งชีวิตที่สำคัญ เมื่อหุ่นยนต์แอนดรอยที่พวกเขาอุปการะไว้ ที่ชื่อว่า หยาง เกิดปัญหาขัดข้องบางอย่าง ทำให้ เจค ต้องหาหนทางในการช่วยเหลือและซ่อมระบบให้หยางกลับมาเป็นปกติ โดยที่ลูกสาวของเขาที่สนิทและรักหุ่นยนต์ตัวนี้เหมือนพี่ชายแท้ ๆ ต้องทนทุกข์กับวันที่ไม่มีหยาง เขากับภรรยาต้องประคับประคองและพยายามหาทางออกให้กับปัญหานี้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขากับครอบครัวได้พบเจอกับอีกมุมที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่จริง
นี่คือผลงานของ “โคโกนาดะ” ผู้กำกับหนุ่มเชื้อสายเอเชียผู้มีสไตล์ในการเล่าเรื่อง นี่ถือว่าเป็นหนังยาวเรื่องที่ 2 ของเขาในอาชีพผู้กำกับ และเขาก็เพิ่งจะมีผลงานแจ่ม ๆ ในซีรีส์ Pachinko ออกฉายไปหมาด ๆ ด้วย การตกผลึกและคั้นเรื่องราวออกมาจากมุมมองการนำเสนอของเขานั้น เต็มไปด้วยเสน่ห์และสไตล์ที่งดงาม แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะค่อนข้างเนิบช้าแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้องยอมรับว่าช่วงแรก ๆ ทำเอาง่วงได้อยู่เหมือนกัน
แต่เมื่อหนังเริ่มปรับจูนและนำทางประเด็นได้ลงร่องลงรอยแล้ว ช่วงครึ่งหลังของ After Yang ก็เต็มไปด้วยท่วงทำนองที่ลึกซึ้งและไพเราะควบคู่กันไป กับแง่มุมแนวคิดเชิงปรัชญาชีวิตที่หนังได้สอดแทรกเอาไว้ได้อย่างตรงจุด และทรงพลังไปจนถึงปลายทาง ทำให้คิดว่าหนังที่ช่วงแรกจะอืดและยาวเกินไป ได้ปรับเปลี่ยนความคิดไปว่าเป็นหนังที่สั้นและยังไม่จุใจเท่าไหร่เมื่อได้สัมผัสในช่วงครึ่งหลังของเรื่องนี้
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่อยากจะชื่นชมในหนังเรื่องนี้ไม่แพ้กัน ก็น่าจะเป็นโปรดักชั่นดีไซน์และองค์ประกอบศิลป์ต่าง ๆ ในเรื่อง แม้ว่าหนังจะไม่ได้ระบุว่าเป็นหนังจากโลกอนาคตในช่วงยุคไหน แต่หนังใส่รายละเอียดความเป็นไซไฟที่ไม่ได้ออกมาเป็นลิเก เป็นหนังโลกอนาคตที่ดีไซน์ออกมาได้สอดคล้องกับวิถีของมนุษย์ในโลกปัจจุบันได้ค่อนข้างลงตัว ไม่ได้ล้ำจินตนาการเกินไป ยังอยู่บนพื้นฐานของโลกอนาคตที่น่าจะเป็นไปได้
โดยเฉพาะการใส่กิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องชาเข้ามาในหนังเรื่องนี้ ที่น่าจะเป็นหนึ่งฉากสำคัญของหนังเลยก็ว่า เป็นฉากธรรมดา ๆ ที่แฝงไปด้วยคำตอบและความทรงพลังในตัวเอง อีกทั้งหนังยังเด่นด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมตะวันตกกับตะวันออกเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและลงตัว เป็นการดีไซน์โลกแห่งอนาคนที่วัฒนธรรมเอเชียเข้ามามีบทบาทต่อพื้นฐานชีวิตที่ทำออกมาได้ค่อนข้างรู้สึกแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย
ทั้งนี้ในภาพรวมนั้น After Yang อาจจะไม่ใช่หนังที่ใคร ๆ ก็ซึมซับและไม่อาจจะเข้าใจได้โดยไม่ผ่านการวิเคราะห์ แต่ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่อยากจะมนุษย์ทุกคนได้มีโอกาสได้ดู แม้ว่าจะเป็นหนังที่เนิบช้าและเล่าเรื่องชวนเคลิ้มหลับ แต่แก่นสารของหนังเรื่องนี้มาพร้อมกับการตกตะกอนและตกผลึกที่ทรงคุณค่าในมุมมองความหมายของชีวิต ที่นับว่าเป็นหนังที่สร้างเซอร์ไพรส์เบา ๆ ให้กับเราไม่น้อย จากที่ทำให้ง่วงอยู่ดี ๆ กลายมาเป็นหนังน้ำดีที่ติดตรึงอยู่ในความคิดหลังดูจบไปได้อยู่นานสองนาน…
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง After Yang อาฟเตอร์ หยาง
ประเภท: ดราม่า / ไซไฟ
ผู้กำกับ: โคโกนาดะ
นำแสดงโดย: โคลิน ฟาร์เรลล์, โจดี้ เทอร์เนอร์-สมิธ, จัสติน เอช. มิน
ความยาว: 96 นาที
กำหนดฉายในไทย: 2 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์) [เปิดฉายรอบพิเศษตั้งแต่ 26 พฤษภาคม เป็นต้นไป]