รีวิว อาถรรพ์วันคริสต์มาส

เป็นหนังที่ตั้งประเด็นสำคัญไว้คือ “เมื่อแก่ไป เราหลงลืมอะไรบางอย่าง” สร้างจากบทประพันธ์ของนักเขียนระดับตำนาน ชาร์ลส์ ดิคเกนส์ โดยผู้กำกับฝีมือดี โรเบิร์ต แซมมัวร์คิส เป็นแอนนิเมชั่นแบบเสมือนคนจริงโดยมีนักแสดงเอกตัวเอกคือจิมส์ แครี่ สุดยอดดาราตลกแห่งการฮอลลีวูด เชื่อว่าหากคุณได้ดูแล้วจะทำให้คุณ ได้ทบทวนอะไรหลายอย่างในชีวิตที่ผ่านมา

เป็นเรื่องของเอเบเนเชอร์ สครูจ ชายแก่ผู้ไม่มีความรักความเมตตา ไร้น้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ผู้ไม่เชื่อเรื่องคริสต์มาส

ผู้ไม่ใส่อะไรเลยนอกจากเงินทอง

ก่อนวันคริสต์มาสหนึ่งวัน มีผีตนหนึ่งอดีตเพื่อนของเขามาบอกว่า ชีวิตหลังความตายช่างโหดร้ายนัก ให้ทำความดีมีเมตตาซะก่อนที่มันจะสายเกินไป แล้วยังบอกว่าจะมีผีมาหาเขาสามตัว หนึ่งตัวต่อหนึ่งคืน เป็นผีคริสต์มาสในอดีต ผีคริสต์มาสในปัจจุบัน ผีคริสต์มาสในอนาคต

ผีทั้งสามพาไปดูชีวิตของสครูจ ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ทำให้เขาเห็นว่า ในชีวิตที่ผ่านมาเขาพลาดอะไรไป ผีสองตัวแรกแสดงสัญลักษณ์มีไฟสว่างคือ การส่องทางสกูสที่มีชีวิตและความคิดที่มืดมน ผีตัวสุดท้ายคือผีอนาคตสีดำมืดมิดพาเขาไปดูชีวิตหลังความตายอันโหดร้าย อันเป็นผลมามาจากผลของการกระทำของเขาเอง

สครูจได้รับบทเรียนจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต และเขาคิดได้ว่า เมื่อแก่ตัวเขาหลงลืมอะไรบางอย่างในสมัยที่เขายังเป็นเด็ก บางอย่างที่เคยทำให้เขามีความสุขนั่นเอง

เป็นอนิเมชั่นที่มีความสวยงามมาก ผลงานโดยโรเบิร์ต เซเมคกิส เป็นทั้งผู้สร้างและเป็นผู้ลงทุนเขียนบท ใช้เทคนิคแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์แคปเจอร์ ซึ่งเคยฝากผลงานมาแล้วใน The Polar Express(2004) เป็นหนังแนวคริสต์มาสว่าด้วยเรื่องราวของเด็กชายที่ได้เดินทางขึ้นรถไฟไปในดินแดนของซานตาคลอส และเรื่อง Beowulf (2007) ว่าด้วยเรื่องราวของ เบวูล์ฟกับการผจญภัยสู้กับเหล่าศตรูอันร้ายกาจ

ทั้งสองเรื่องใช้เทคนิคเพอร์ฟอร์แมนซ์แค๊ปเจอร์ คือกระบวนการที่จะบันทึกการแสดงของนักแสดงด้วยกล้องคอมพิวเตอร์แบบ 360 องศา นักแสดงก็แสดงไปตามปกติตามบทที่เขาได้รับ จากนั้นก็จะบันทึกเข้าคอมพิวเตอร์แล้วนำไปปรับให้เป็นเหมือน ภาพอนิเมชั่นอีกที

จากผลงานทั้ง 2 เรื่องก็สามารถการันตีได้ว่า ในด้านภาพนั้น A Chrismas Carol จะไม่ทำให้เราผิดหวัง เทคนิคเช่นนี้ทำให้เราสามารถสัมผัสและรับรู้ถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างเต็มที่ที่ออกมาทั้งแววตา สีหน้า รอยยับย่นของใบหน้า กล้ามเนื้อของหน้า แม้กระทั่งการพูดการจาก็เหมือนกับคนพูดจริง ๆ ทุกประการ

ที่ผมชอบหนังเรื่องนี้คือ หนังทำให้เห็นว่า คริสต์มาส นอกจากจะเป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ตนเองจะได้รับแล้ว ยังเป็นเทศกาลที่ยังมอบความสุขให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วย แต่ก็ได้บอกเพิ่มอีกว่า ไม่มีการให้ใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้อภัยตัวเอง

หนังเต็มไปด้วยสัญลักษณ์มากมาย ที่เกี่ยวข้องกับความดีความชั่ว ที่สำคัญที่สุดคือสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาหรือหัวใจสำคัญของคริสต์มาส ที่ว่าด้วยความสุขความสัมพันธ์ของครอบครัว การมองโลกในด้านดี การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และอะไรคือความหมายของความสุขที่แท้จริง

หนังสอนเราให้รู้ว่า เหตุการณ์ในอดีตต่าง ๆ ที่เราเคยทำผิดพลาด หรือพลาดที่จะทำมันนั้น หรือการเสียใจกับมันไม่ว่าเหตุการณ์ใดก็ตาม แม้เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่เราสามารถให้อภัยกับมันได้ เราสามารถให้อภัยตัวเองได้ และเราก็สามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับความผิดพลาดนั้น และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน

เมื่อคุณดูแล้ว คงจะทำให้ฉุกคิดได้ว่า มนุษย์เราไม่จำเป็นต้องจมอยู่ในอดีตอันเลวร้ายดำมืดเสมอไป เราสามารถเปลี่ยนทัศนคติด้านมืดให้สว่างขึ้นได้ไม่ยาก เพียงแค่เปลี่ยนจากใจของเราเอง

A Christmas carol เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งจินตนาการ อารมณ์ มนต์เสน่ห์ เทศกาลคริสต์มาส การเรียนรู้เรื่องราวของความสุข การเรียนรู้เรื่องราวของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และการเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองนั้น ได้รู้จักคุณค่าของการให้ มากกว่าการได้รับ

และสุดท้ายนี้ ประโยคสุดท้ายของหนังคือ “พระเจ้าคุ้มครองเราทุกคน” ซึ่งอาจแปลความได้ว่า “ความดีจะปกป้องเราทุกคน”

รีวิว อาถรรพ์วันคริสต์มาส

เรื่องราวของเฒ่าสครูจ ที่เป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ จากปลายปากกาของ ชาล์ส ดิคเค็นส์ ออกมาโลดแล่นสู่จอภาพยนตร์ในระบบ 3 มิติ ให้ทันโลกยุคใหม่ ที่ก้าวล้ำไปด้วยเทคโนโลยี ด้วยฝีมือการกำกับของผู้กำกับมือทอง โรเบิร์ต เซเมคิส ผู้เคยมีผลงานโดดเด่นปรากฏมาให้เราเห็นแล้วมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น The Polar Express , Cast Away ฯลฯ และสำหรับเรื่อง A Christmas Carol เรื่องนี้นับเป็นผลงานแอนนิเมชั่นอีกเรื่องที่เขาภูมิใจนำเสนอ โดยมีการวางตัวละครหลักทั้งหมดไว้ที่? “จิม แคร์รี่ย์” เพราะได้ข่าวมาว่า เซเมคิส เขากำหนดเลยว่าอยากได้ จิม แคร์รี่ย์ มาเล่นเท่านั้น ห้ามเป็นคนอื่น !!

ซึ่งหากดูจากการแสดงเป็นตัวละครหลายตัว หลายบุคลิกในเรื่อง A Christmas Carol ก็คงต้องบอกว่า เซเมคิส ตัดสินใจไม่ผิดที่เลือก จิม มาแสดง เพราะเขาเป็นคนที่ถ่ายทอดอารมณ์คาแรกเตอร์แต่ละตัว ได้คนละขั้ว โดยไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวัง ก็คงต้องบอกว่าการแสดงของเขาขั้นเทพจริงๆ

และเมื่อหันกลับมาดูที่โครงเรื่อง? แอนิเมชั่นเรื่องนี้มีแนวทางในการสอนคนที่ชอบมองโลกในแง่ลบ ให้คิดมองมุมใหม่ มองในมุมโพสิทีฟมากขึ้น? เป็นการสอนให้ทุกคนมองโลกในแง่ดี และให้รู้จักใส่ใจกับโลกภายนอก และคนอื่นๆ ที่เดือดร้อนกว่าตัวเราบ้าง ไม่ใช่เอาตัวเราเองเป็นจักรวาลของโลกใบนี้

ดูหนังฟรี

รีวิว อาถรรพ์วันคริสต์มาส

ความรู้สึกหลังดู

ในเรื่อง A Christmas Carol แบ่งการนำเสนอออกเป็น 3 ส่วน เพื่อให้คนดูได้เห็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองของตาเฒ่าสครูจว่าเขาเริ่มเปลี่ยนได้เพราะอะไร โดยก่อนจะเริ่มไปยัง 3 ส่วนนี้ เนื้อเรื่องเริ่มเดินเรื่องด้วยการที่ เพื่อนหรือเรียกอีกทีว่าหุ้นส่วนของตาเฒ่าแกเกิดเสียชีวิต

เวลาผ่านไปจู่ๆ วิญญาณเพื่อนซี้ของแกก็กลับมาป้วนเปี้ยนและบอกกับตาเฒ่าว่า ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง ระวัง เมื่อตายไปจะกลายเป็นวิญญาณที่ถูกจองจำ? อ้อ! ลืมบอก ตาเฒ่าแกเป็นคนขี้งกสุดฤทธิ์ เข้าขั้นทะเลเรียกพ่อ แม้กระทั่งวันคริสต์มาส

แกยังไม่อยากหยุดงานไปฉลองกับหลานชายแกเลย แถมยังไม่เคยคิดที่จะบริจาคเงินบริจาคทอง ที่แกคิดว่ากว่าจะได้มาแกต้องทำงานหนักมากมาย? อีกทั้งยังเป็นตาเฒ่าที่เด็กๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ แค่เดินผ่านเด็กที่ร้องไห้จะต้องหยุดร้อง? ซึ่งในเนื้อหนังก็มีการบอกถึงที่มาของนิสัยตาเฒ่าว่า ที่แกเป็นแบบนี้เกิดจากสาเหตุใด

และต่อไปนี้คือ 3 ส่วนหลักที่ทำให้ตาเฒ่าสครูจเปลี่ยนนิสัยใจคอเป็นคนใหม่ นั่นคือเพื่อนแกที่ตายไป กลับมาบอกแกว่า แกจะได้พบกับวิญญาณ 3 ตน ซึ่งถือว่าเป็นธีมหลักของเรื่องนี้เลย และยังเป็นการโชว์พลังสร้างสรรค์ของ เซเมคิส ในการนำเสนอเรื่องเล่า-นิทานก่อนนอน ให้ออกมาเป็นภาพที่ดูเกือบสมจริง ถ้าไม่ใช่หนังแอนิเมชั่น

ดูหนังใหม่

รีวิว อาถรรพ์วันคริสต์มาส

วิญญาณตัวแรก เป็นวิญญาณคริสต์มาสแห่งอดีต แสดงโดย จิม แคร์รี่ย์ ปรากฏตัวในรูปลักษณ์ของเปลวไฟวูบวาบ ดิคเค็นส์บรรยายถึงวิญญาณตนนี้ว่า ?เป็นแสงที่สว่างไสว เจิดจ้า? วิญญาณคริสต์มาสอดีตได้พาสครูจเดินทางย้อนเวลาไปชมภาพเหตุการณ์ในอดีตของเขา

เขามองเห็นตัวเองในวัยหนุ่ม ตอนที่ฝึกงานกับเฟสซิวิก (บ็อบ ฮอสกินส์) ตอนที่เป็นชายหนุ่มสดใสกำลังคุยอยู่กับดิค วิลคินส์ (แครี่ เอลเวส) เพื่อนร่วมงานและตอนที่เป็นชายหนุ่มที่ตกอยู่ในห้วงรักและหมั้นหมายอยู่กับเบลล์ (โรบิน ไรท์ เพนน์) ความทรงจำเหล่านี้ส่งผลต่อสครูจอย่างมาก

วิญญาณตัวที่ 2 คือวิญญาณคริสต์มาสแห่งปัจจุบัน จิม แคร์รี่ย์ แสดงเป็นวิญญาณตัวที่ 2 นี้อีกครั้ง? ยักษ์ร่างใหญ่ในชุดคลุม ได้มาแสดงให้สครูจได้เห็นว่าชีวิตจริงๆ ในปัจจุบันของเขาเป็นเช่นไร สครูจถูกพาตัวไปยังบ้านของครอบครัวแคร็ทชิท และได้เห็นสภาพอนาถาของลูกจ้างเขา

รวมถึงอาการป่วยหนักของไทนี ทิม (แกรี่ โอลด์แมน) ลูกชายตัวน้อยของแคร็ทชิท วิญญาณตนนี้ยังเปิดโอกาสให้สครูจได้เห็นปาร์ตี้คริสต์มาสของหลานชายเขา ซึ่งพวกเขาได้เฝ้าชมเกมคำทาย ที่ชีวิตอันน่าหดหู่ของสครูจเป็นเรื่องตลกชวนหัว

รีวิว อาถรรพ์วันคริสต์มาส

และ วิญญาณตัวสุดท้าย เป็นวิญญาณที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดที่สุดคือวิญญาณคริสต์มาสแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แสดงโดย จิม แคร์รี่ย์ (อีกแล้ว) วิญญาณที่พาสครูจไปยังอนาคต ที่ซึ่งทั้งคู่ได้รับรู้ถึงการเสียชีวิตเมื่อเร็วๆ นี้ของชายไร้ชื่อคนหนึ่ง

นักธุรกิจหลายคนพูดถึงความร่ำรวยของชายผู้นี้ ในขณะที่เฒ่าโจ (ฮอสกินส์) และคุณนายดิลเบอร์ (ฟิออนนูลา แฟลนนิแกน) ได้รื้อผ้าปูที่นอนและผ้าม่านของเขาออกจนเกลี้ยง สครูจเรียกร้องให้วิญญาณคริสต์มาสบอกชื่อของชายผู้นั้น และเขาก็ตกตะลึงเมื่อได้อ่านชื่อของตัวเขาเองบนหลุมศพ ถ้าเพียงแต่เขามีโอกาสอีกครั้งล่ะก็

ซึ่งในตัวหนังพยายามสื่อออกมาให้เรารู้ว่า ที่ใช้ จิม แคร์รี่ย์ แสดงเป็นทั้งเฒ่า สครูจ และเพื่อนแล้ว จิม ยังแสดงเป็นวิญญาณทั้งสามตนด้วยนั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า

ตาเฒ่าสครูจ เป็นคนที่ชอบใช้ชีวิตอยู่กับตัวเอง ซึ่งไม่มีใครที่จะสามารถเปลี่ยนแกได้ นอกจากตัวแกเอง เพราะอย่างที่บอกว่า แกเอาตัวเองเป็นแกนกลางของจักรวาลทั้งหมด

ด้วยตัวพล็อตของเรื่อง การจะเปลี่ยนใครที่นิสัยไม่ดีมากๆ ให้เป็นคนดี นั่นคือ การให้โอกาสคนๆนั้นแก้ตัวอีกครั้ง และในเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้น ที่พร้อมที่จะมอบโอกาสสุดท้ายในชีวิตให้ตาเฒ่าสครูจ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

โดยรวมตัวหนังทำได้ดี พล็อต โครงเรื่อง มีอะไรแทรกไว้ให้คนดูนำกลับไปคิด ตรึกตรอง แต่ถ้ามองในมุมให้เด็กดู ค่อนข้างเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องได้เอื่อยเนือย แต่ก็มีบางฉากที่เด็กๆ น่าจะเข้าถึงและชอบใจได้ไม่ยาก แต่ตัวหนังตั้งแต่ต้นจนจบ

การดำเนินเรื่องเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับคนไทยที่ไม่ได้อินไปกับวัฒนธรรมวันคริสต์มาสเหมือนฝรั่ง? เอาเป็นว่าหากใครอยากดูแอนิเมชั่นที่มีข้อคิดดีๆ ต้องบอกว่าเรื่อง A Christmas Carol ก็เป็นสิ่งดีๆ ที่แนะนำให้ไปดู แต่ถ้าใครคิดจะพาเด็กๆ ไปดูด้วยแล้วล่ะก็คงต้องอธิบายให้ฟังเยอะหน่อย

 รีวิวหนังออนไลน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *