รีวิวซีรีส์ Stranger Things 4
สวัสดีจ้าวันนี้แอดจะมารีวิวหนังเรื่อง รีวิวซีรีส์ Stranger Things 4 เมื่ออสูร ‘เว็คนา’ จากโลกกลับด้านล่อลวงและสังหารเหล่าเด็กที่เจ็บปวดไปมากมาย แก๊งเด็กเนิร์ดจะคลี่คลายได้หรือไม่ แอลจะกลับมามีพลังจิตได้ด้วยวิธี จิม ฮอปเปอร์ จากซีซันก่อนเขากลับมาได้อย่างไร ซีซัน 4 ที่แบ่งเป็น 2 พาร์ท ให้เราได้ติดตามกัน ซีรีส์สุดโด่งดังใน Netflix
ในที่สุด ซีรีส์อันดับต้นๆ ที่ Netflix สร้างก็กลับมาอีกครั้งในซีซันที่สี่ เรื่องราวของเหล่าเด็กเนิร์ดและผู้คนในเมืองฮอว์กินส์ที่ต้องผจญกับเรื่องเลวร้ายไม่รู้จักจบสิ้น จนเมืองเล็กดูสุขสงบแห่งนี้แทบจะกลับกลายเป็นเมืองต้องสาปอยู่แล้ว 27 พฤษภาคม 2022 ผู้คนต่างก็รู้กันว่า ‘Stranger Things 4’ จะเริ่มต้นฉายในทุกคนที่รอคอยได้เปิดดูกัน
ทั้งนี้ เขาแยกมันเป็นออกเป็น 2 พาร์ท โดยพาร์ทแรกจะมี 7 ตอนด้วยกัน แต่ข่าวว่าพาร์ท 2 จะมีเพียง 2 ตอนเท่านั้น เหตุผลของการแบ่งเป็น 2 พาร์ท ก็น่าจะเพราะถ้าเอาลงทีเดียว มันดูจะสูญเปล่าเกินไป กระแสของซีรีส์เรื่องนี้ดีมากๆ คนรอติดตามกันเยอะสุดๆ แบ่งเป็น 2 พาร์ทเลยก็แล้วกัน ห่างไปสักเดือนนึงค่อยมาต่อในพาร์ทที่สอง
เรื่องราวในซีซันนี้ เด็กๆ ทุกคนจะเติบโตขึ้นมาก แต่ละคนอยู่ ม.ปลาย กันแล้ว บางคนก็จบการศึกษาและมีงานมีการทำแล้ว บางคนก็ย้ายไปอยู่เมืองอื่น ตัวละครบางตัวก็เลยต้องเผชิญกับวิกฤตของความสัมพันธ์กันบ้าง อะไรแบบนี้
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Stranger Things 4’
ในซีซันนี้ ก็อย่างที่รู้กันว่า แอล (Millie Bobby Brown) ได้ติดตามครอบครัวไบรเออร์ส ที่ประกอบไปด้วย จอยซ์ (Winona Ryder), โจนาธาน (Charlie Heaton) และวิล (Noah Schnapp) ย้ายออกจากเมืองฮอว์กินส์ไปอยู่ที่ใหม่ ซึ่งก็ได้รับการเฉลยมาว่าเป็นเมืองเลนอรา ในแคลิฟอร์เนียนั่นเอง ที่นี่แอลเป็นที่รู้จักในชื่อ เจน แต่ก็ดูเหมือนเธอจะเข้ากับชีวิตที่นี่ไม่ดีเลย ในโรงเรียนเธอถูกบูลลี่เป็นประจำ และสิ่งที่เธอทำก็คือยอมทนและโกหกปิดบังไมค์แฟนเธอผู้เดินทางมาหาถึงที่
ขณะที่ในเมืองฮอว์กินส์ก็เกิดเหตุร้ายขึ้นอีกจนได้ เมื่อสาวน้อยดาวโรงเรียนอย่าง คริสซี่ (Grace Van Dien) ที่ถูกพบกลายเป็นศพในสภาพผิดธรรมชาติ ในค่ำคืนหนึ่งที่มีผู้พบเห็นว่าเธอมากับเอ็ดดี้ (Joseph Quinn) ชายหนุ่มหัวโจกของเฮลไฟร์คลับ คลับของคนชื่นชอบเกมประเภทดีแอนด์ดี ที่ดัสติน (Gaten Matarazzo) และไมค์ (Finn Wolfhard) ก็เป็นสมาชิกอยู่ด้วย
ด้านจอยซ์ แม่ของวิลที่เริ่มจะทำใจได้กับเหตุการณ์ครั้งก่อน ก็กลับได้รับจดหมายประหลาดที่บอกว่า จิม ฮ็อปเปอร์ (David Harbour) ยังไม่ตาย ทำให้เธอต้องขอความช่วยเหลือจากเมอร์เรย์ (Brett Gelman) ช่วยสืบเสาะ รีวิวหนังฝรั่ง
รีวิวซีรีส์ Stranger Things 4
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายของตัวละครอีกหลากหลายตัวทั้งที่อยู่มาตั้งแต่ซีซันก่อนๆ และเพิ่งจะมามีบทบาทในซีซันนี้ เอาเป็นว่า ยกไปเล่าในส่วนรีวิวเลยก็แล้วกัน
แน่นอนแหละว่า ถ้าใครที่ตามซีรีส์มาจนถึงซีซันนี้ ก็ต้องเคยดู 3 ซีซันก่อนหน้ากันมาแล้วทั้งนั้น เรื่องราวของซีซันสามมันจบตรงที่ครอบครัวไบเออร์ส อันประกอบไปด้วย จ๊อยซ์ ผู้เป็นแม่ โจนาธานและวิล สองพี่น้อง และพ่วงด้วยแอล ที่ย้ายบ้านออกไปจากเมืองฮอว์กินส์ถิ่นต้องสาป
และเมื่อเริ่มต้นซีซัน 4 เราก็ได้รับรู้ชีวิตในที่แห่งใหม่ของพวกเขา พร้อมๆ กับการได้พบและรู้จักกับตัวละครใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาร์ไกล์ (Eduardo Franco) หนุ่มพนักงานร้านพิซซ่าที่มักขับรถพาสองหนุ่มไปส่งโรงเรียนอยู่เสมอๆ และก็ยังได้พบกับ เอ็ดดี้ หัวหน้าแก๊ง Hellfire Club ที่มีรวมหัวกันเล่นบอร์ดเกม กับตัวละครใหม่อีกโขยงใหญ่ที่หลายตัวก็จากไปเร็วเกินคาด
แก๊งเด็กเนิร์ดในซีซันนี้ก็โตขึ้นมาก จากเด็กน้อยกลายเป็นวัยรุ่นตัวโต กลายเป็นแก๊งที่ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มที่อยู่กันคนละเมือง
ขณะแอลในแคลิฟอร์เนียก็กำลังเผชิญกับปัญหาการถูกบูลลี่ในโรงเรียน แถมพลังจิตก็ยังคงไม่กลับมา ก่อนที่วิล โจนาธาน และไมค์ ทั้งสามจะเดินทางมาหา ส่วนพวกที่ยังอยู่ในเมืองฮอวกินส์ แม้แต่คนที่ยังอยู่โรงเรียนเดียวกันก็เริ่มจะแยกกันไปคนละทาง ไมค์และดัสตินเป็นสมาชิกของชมรมเกมแฟนตาซี แต่ลูคัสตอนนี้ เขากลายเป็นตัวสำรองในทีมนักบาสของโรงเรียน ส่วนแนนซี่ก็หันมาทำงานสำนักพิมพ์ที่ใหม่ได้เป็นนักข่าวเต็มตัว
ถ้าดูตัวอย่างก็คงจะเห็นกันไปแล้ว จิม ฮ็อปเปอร์ ที่คิดว่าคงไม่รอดในซีซันก่อนนั้น แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตายแต่กลับกลายว่าถูกคุมขังอยู่ในคุกรัสเซียแห่งหนึ่ง และเป็นจอยซ์กับเมอร์เรย์ที่ต้องหาหนทางไปช่วย
ทุกอย่างจึงดำเนินไปแบบเดียวกับที่เป็นมา นั่นคือ ตัวละครจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆ ที่ต้องแก้ไขสถานการณ์ของตนเอง แต่ทุกกลุ่มจะมีความเกี่ยวข้องกันทั้งหมด
ขณะที่อสูรตัวเด่นในซีซันนี้จะเป็น ‘เว็คนา’ ปีศาจที่สัมผัสถึงความเจ็บปวดของเหล่าวัยรุ่นในเมืองฮอว์กินส์และสังหารพวกเขา มันบอกเราว่าแม็กซ์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอเจ็บปวดกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เธอเอาแต่ฝันร้ายและมีอาการปวดหัวรบกวน เธอจึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของอสูรเว็คนา ทำให้ซีซันนี้ Sadie Sink ได้มีบทบาทสำคัญและได้ซีนดราม่ามากขึ้น
ความรู้สึกหลังดู
ครั้งนี้ ซีรีส์ค่อนข้างทุ่มเทให้กับกระบวนการที่แอลจะได้พลังจิตกลับคืนมาอีกครั้ง ทุกอย่างถูกวางแปะไว้ตั้งแต่ตอนแรกโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว แล้วเขาก็พาเราไปพบกับประสบการณ์บางอย่างที่เธอลืมมันไป ผู้คนคงเอาใจช่วยให้แอลได้พลังกลับคืนมาอีกครั้งเพราะเธอต้องมาช่วยเดอะแก๊งปราบอสูรกาย
สำหรับตัวผมนั้น ซีซันนี้เริ่มต้นแบบอุ่นเครื่อง เรื่องราวไม่ได้ชวนตื่นเต้นนัก แค่ทิ้งประเด็นไว้เพื่อรอการสานต่อ กับบอกเล่าชีวิตของแต่ละคน มันจึงต้องใช้เวลานิดหน่อยกว่าจะจุดติด ยิ่งผ่านไป หลายตอนเข้า เรื่องราวก็เริ่มสนุกตื่นเต้นขึ้น สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ความยาวของแต่ละตอนที่มากขึ้นทุกที จากตอนละ 45-50 นาทีในซีซันแรก กลายเป็น 64-98 นาทีในซีซันนี้ อาจจุใจแต่ก็ต้องใช้เวลาในการดูอยู่สักหน่อย
แล้วทุกอย่างก็จะต้องสะดุดหยุดอยู่ตรงกลาง หลังเรื่องราวเดินมาจบตอนที่ 7 ก็เป็นอันว่าจบพาร์ท 1 ซึ่งผู้ชมที่ติดตามมาตลอด จำเป็นต้องรอพาร์ท 2 ที่จะตามมาในวันที่ 1 กรกฎาคม ก็คงต้องบอกว่า อดใจรอกันหน่อยนะ เหลืออีก 2 ตอนเอง
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ Stranger Things 4 / สเตรนเจอร์ ธิงส์ 4
ผู้สร้าง Ross Duffer, Matt Duffer
ผู้เขียนบท
นักแสดง Millie Bobby Brown, Finn Wolfhard, Winona Ryder, David Harbour, Gaten Matarazzo, Caleb McLaughlin, Natalia Dyer, Charlie Heaton
แนว/ประเภท Drama, Fantasy, Horror, Mystery, Sci-Fi, Thriller
จำนวนตอน ซีซัน 4 พาร์ท 1: 7 ตอน, พาร์ท 2: 2 ตอน
ช่องทางรับชม Netflix
เริ่มออกอากาศ 27 พฤษภาคม 2022
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ 21 Laps Entertainment, Monkey Massacre, Netflix
สเตรนเจอร์ ธิงส์ 4
พล็อตและบท – 8
การแสดง – 8
การดำเนินเรื่อง – 8
เพลงและดนตรีประกอบ – 7.7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน – 8.2