รีวิว Windfall (2022)
Windfall ภาพยนตร์ Netflix แนวระทึกขวัญ เรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวที่เดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศของพวกเขา ก่อนพบว่ามีชายคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในบ้านก่อนแล้วภาพยนตร์ความยาว 1 ชั่วโมงครึ่ง มีเสียงพากย์ไทย ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียนบท กำกับ แสดงนำโดย ชาร์ลี แมคโดเวลล์ ควบ 3 ตำแหน่ง
และพ่วงด้วยผู้เขียนบท Se7en (แอนดรูว์ เควิน วอล์กเกอร์) ซึ่งตรงนี้เป็นตัวคำโปรยโปรโมทอยู่บนตัวอย่างเรื่องนี้ ซึ่งก็เป็นเครดิตให้พอเชื่อใจได้ว่านี่ไม่ใช่หนังทุนต่ำโนเนมของเน็ตฟลิกซ์ เพราะทั้งเรื่องจะมีตัวละครหลักกันอยู่แค่ 3 คน กับสถานที่เดียวทั้งเรื่อง นอกจากนั้นตัวเรื่องยังนำเสนอแนวระทึกขวัญแบบของสไตล์ฮิตช์ค็อก ซึ่งทำให้ตัวเรื่องมีความลึกลับกดดันมากยิ่งขึ้น
เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบง่ายๆ โดยมีคู่รักสามีภรรยาเศรษฐีสองคนมาพักที่บ้านพักตากอากาศ แต่แล้วก็เจอกับชายแปลกหน้าที่หลบอาศัยอยู่ในบ้านก่อนแล้ว ซึ่งเรื่องราวจะดำเนินไปแบบเหมือนการจับตัวประกันเรียกร้องเอาเงิน ซึ่งอาจจะงงว่าเล่นกันอยู่ 3 คนทั้งเรื่องจะทำยังไง
แต่บทก็หาทางให้เรื่องราวในวงจำกัดนี้มันไปได้เรื่อยๆ แม้แรกๆ อาจจะข้องใจนิดๆ ว่าทำไมสองคนนั้นไม่ยอมต่อสู้ แต่ตัวเรื่องจะค่อยๆ เฉลยในเวลาต่อมาว่าทำไม แล้วก็ค่อยๆ เข้าถึงปมต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ อย่างชายแปลกหน้าลึกลับนี่คือใคร เขามาจากไหน สองคู่รักนี้จริงๆ แล้วเป็นไง
โดยทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นผ่านบทสนทนาในระหว่างที่ทั้งคู่ถูกจับเป็นตัวประกัน และเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นจริงๆ ไม่มีการเล่าอะไรออกมาทั้งหมด ผู้ชมต้องค่อยๆ ปะติดปะต่อให้เข้าใจเอง และถึงแม้จะไม่เข้าใจทั้งหมดแต่ก็จะพอคาดเดาแบ็คกราวด์ของทั้ง 2 ได้ประมาณหนึ่ง
ซึ่งตัวเรื่องก็ไม่ได้ต้องการให้คนดูรู้ทั้งหมด เพราะสุดท้ายแล้วจะไปเฉลยในตอนจบของเรื่องว่าแต่ละคนเป็นใครอย่างไรกันแน่กับสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้
ด้วยความตั้งใจใช้สไตล์ฮิตช์ค็อกในการเล่าเรื่อ การงถ่ายทำมุมกล้อง โทนภาพ ดนตรีประกอบ ทุกอย่างจึงดูเหมือนหนังเก่าย้อนยุค แต่เรื่องราวไม่ได้ย้อนยุคไปตามเพราะมีมือถือ มีอินเตอร์เน็ต มีโน๊ตบุ๊ค กล้องวงจรปิด อยู่ในเรื่องครบ
โดยการใช้สไตล์นี้ดำเนินเรื่องก็ลงตัวกับเรื่องราวอารมณ์ความกดดันที่เกิดขึ้นแบบเงียบๆ ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นทีละนิด ผู้ชมไม่สามารถเดาเรื่องราวต่อไปได้เลยว่าจะเกิดอะไร และอยู่ๆ ก็จะมีอะไรบางอย่างแทรกมาให้เป็นจุดพีคคั่นแบบคาดไม่ถึง ซึ่งถือว่าเรื่องนี้ทำสำเร็จ
แม้ตัวภาพยนตร์กับเรื่องราวอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ก็สามารถพาให้ผู้ชมอดทนดูจนจบเพราะอยากรู้บทสรุปของเรื่องได้แน่ๆ แม้อาจจะมีคนทนไม่ไหวกับสไตล์การดำเนินเรื่องแบบเงียบๆ เนิบๆ ของฮิตซ์ค็อกก็ตาม ยังไงก็ต้องอยากรู้ตอนจบของเรื่องนี้แน่นอน
และมันก็เป็นตอนจบที่ถือว่าคาดเดาไม่ได้ เกินกว่าที่คิดมาก แม้ในเรื่องความสมเหตุผลอาจจะมีสงสัยอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นไปได้แน่ๆ ถ้าคิดถึงในโลกแห่งความจริงที่เกิดขึ้นเมื่อทุกคนต่างหาผลประโยชน์จากกันและกัน และต้องเอาตัวรอดในสังคมที่ชนชั้นฐานะบีบคั้นกันขึ้นเรื่อยๆ อย่างทุกวันนี้
นักแสดงหลักทั้ง 3 คน คือเล่นโดยไม่มีชื่อตัวละครทั้ง 3 คน ลิลลี่ คอลลินส์ จากซีรีส์ Emily in Paris ก็สวยสมบทบาทภรรยาของเศรษฐีในเรื่องที่เล่นโดย เจสซี่ เพลมอนส์ โดยความสวยของเธอเป็นตัวขับเคลื่อนปมเรื่องราวอย่างหนึ่งในแง่ที่ว่าสาวสวยคนนี้แต่งงานกับเศรษฐีคนนี้เพราะอะไร
ซึ่งแม้เรื่องจะไม่ถึงกับบอกออกมาตรงๆ แต่คนดูก็พอจะเข้าใจตรงจุดนี้ได้ โดยผ่านการซักถามของตัวเอกชายปริศนาที่จับตัวช่มขู่พวกเขาไว้ ซึ่งนักแสดงอย่างชาร์ลีต้องเล่นควบ 3 หน้าที่ในเรื่องนี้ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยมเลย
สรุป Windfall สนุกและดีไหม
เป็นหนังที่ราบเรียบในการดำเนินเรื่อง สนุกในแบบที่ตัวหนังต้องการให้เป็นแบบฮิตช์ค็อก แต่อาจจะไม่ถูกใจผู้ชมวงกว้างนัก แต่นี่คือหนังทุนต่ำจำกัดตัวละครที่เขียนบทมาดีเลย ควรค่าแก่การดู
รีวิว Windfall (2022)
เมื่อนักท่องเที่ยวที่มั่งมีได้จองห้องพักที่รีสอร์ทแล้วพวกเขาก็ได้พบกับชายแปลกหน้าที่หลบซ่อนอยู่ในห้องพัก โดยที่ความต้องการของเขาคือการปล้นเพื่อบางสิ่งบางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปตลอดกาล อย่างไรก็ตามสองสามีภรรยาต้องการที่จะหาทางหลบหนีจากชะตากรรมที่พวกเขาไม่ทันได้ระวังตัว
Windfall เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมีโจรคนหนึ่ง (แสดงโดย เจสัน ซีเกล) ได้ตัดสินใจปล้นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศของเศรษฐีที่อยู่ท่ามกลางสวนส้มสุดลูกหูลูกตา แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเศรษฐีหนุ่ม (แสดงโดยเจสซี่ เพลมอนส์)
และภรรยาของเขา (แสดงโดยลิลี่ คอลลินส์) ได้เข้ามาที่บ้านพักตากอากาศ และทั้ง 3 ก็ได้ประจันหน้าเจอกัน ทำให้โจรหนุ่มจึงตัดสินใจปล้นเงินจากสามีภรรยาคู่นี้ต่อ ทำให้ทั้ง 3 จำใจต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันต่อ
“Windfall” หนัง Exclusive เข้าใหม่จากทาง Netflix โดยเป็นหนังที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการปล้นทั่วไป แต่วิธีการนำเสนอของหนังนั้นบอกเลยว่าเป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร แถมยังอินดี้แบบสุด! ผ่านเรื่องราวของนักแสดงนำเพียง3 คนเท่านั้น เรียกว่าแค่น้ำจิ้มก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมละค่ะ วันนี้เราเลยจะชวนเพื่อน ๆ มาดูหนังเรื่องนี้กันผ่าน ‘รีวิวWindfall (Netflix) หนังระทึกขวัญฟิลตลกร้ายสุดอินดี้’ หากพร้อมแล้วก็ตามมากันได้เลยยย
Windfall เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมีโจรคนหนึ่ง (แสดงโดย เจสัน ซีเกล) ได้ตัดสินใจปล้นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศของเศรษฐีที่อยู่ท่ามกลางสวนส้มสุดลูกหูลูกตา แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อเศรษฐีหนุ่ม (แสดงโดยเจสซี่ เพลมอนส์) และภรรยาของเขา (แสดงโดยลิลี่ คอลลินส์) ได้เข้ามาที่บ้านพักตากอากาศ และทั้ง 3 ก็ได้ประจันหน้าเจอกัน ทำให้โจรหนุ่มจึงตัดสินใจปล้นเงินจากสามีภรรยาคู่นี้ต่อ ทำให้ทั้ง 3 จำใจต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันต่อ
ความรู้สึกหลังดู
หนังเรื่อง Windfall เป็นหนัง Exclusive จากทาง Netflix แม้ว่าพล็อตเรื่องจะค่อนข้างเก่าและมีแนวแบบนี้เยอะแล้วแต่วิธีการนำเสนอของเรื่องนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมถึงยังโดดเด่นน่าสนใจอีกด้วยละค่ะ
ซึ่งจริง ๆแล้วหนังเรื่องนี้แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับการปล้นแต่เรียกว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกลับการปล้นสักเท่าไหร่ แต่จะทำให้คนดูรู้สึกถึงความกดดันและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน ด้วยองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นมุมกล้อง
โทนสีของหนัง คาแรคเตอร์ของตัวละครทั้ง 3 ตัว รวมถึงความเงียบระหว่างกัน ผิดจากหนังเกี่ยวกับการปล้นที่ฟอร์มใหญ่ทั่ว ๆ ไป ซึ่งนั้นก็คือจุดเด่นของหนังนั่นเองละค่ะ แต่ด้วยความเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ของหนัง ในเรื่อง Windfall ก็อาจจะไม่ถูกตาต้องใจผู้ชมในวงกว้างสักเท่าไหร่ค่ะ
อีกหนึ่งจุดเด่นของหนังเรื่อง Windfall ก็คือหนังใช้เพียงนักแสดงแค่ 3 คนเท่านั้นมาดำเนินเรื่องราว มีแค่บทของ โจรและสองสามีภรรยาเพียงเท่านั้น โดยหนังจะไม่มีการเล่าเรื่อง Background ใด ๆ ของตัวละครทั้งหมดเลย แต่จะให้คนดูนั้นค่อย ๆ ดูไป เล่าเรื่องใส่มาแบบเงียบ ๆ ให้เรานั้นคอยปะติดปะเรื่องราวได้เอง ซึ่งก็เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจมาก ดูไปก็เพลินไปแบบไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ
แต่ส่วนที่เป็นจุดด้อยของหนังเรื่องนี้ก็คือ ความไม่มีมิติ หนัลไม่พีค ไม่มีการหักมุมหรือมีจุดไคลแมกซ์เลย ซึ่งเราเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนก็อาจจะเดาตอนจบกันได้ไปยาก รวมถึงการตีความตอนจบของหนังก็เรียกว่าขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนเลยค่ะ ก็ถือว่าเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่โอเค ไม่แย่ไม่ดี เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากจะดูหนังอินดี้นอกกระแส
WINDFALL เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญสไตล์ HITCHCOCK ที่จะใช้วิธีการถ่ายทำ มุมกล้อง ดนตรีประกอบ การออกแบบงานภาพและเสื้อผ้าหน้าผมมีความเป็นภาพยนตร์แนวย้อนยุค แต่เรื่องราวไม่ได้ย้อนยุคแต่อย่างใดเพราะยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค อินเทอร์เน็ต กล้องวงจรปิดแบบครบครัน ซึ่งช่วยให้การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างลงตัว โดยจะพาเราไต่ระดับความกดดันผ่านความเงียบที่เพิ่มขึ้นจนทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหนึ่งในตัวละคร เราแทบจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าฉากต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น หรือไม่บางครั้งก็มันจะมีบางสิ่งบางอย่างแทรกเข้ามาให้เราคาดไม่ถึง
นับเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยในการเล่าเรื่องแม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรมากมายก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผู้รับชมรู้สึกอยากติดตามและต้องการที่จะดูจนจบเพื่อรับคำตอบว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แม้ว่าการเล่าเรื่องราวจากค่อนข้างดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไปและเงียบเชียบก็ตาม เป็นการเล่าเรื่องราวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สอดแทรกประเด็นเรื่องผลประโยชน์เข้ามา ดังนั้นการที่มีตัวละครเพียงแค่ 3 คนหรือการถ่ายในโลเคชั่นเดียวจึงไม่ได้เป็นอุปสรรคของการเล่าเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้แต่อย่างใด นอกจากนี้ฉากจบยังอาจทำให้คุณรู้สึกทึ่งจนประทับใจไปเลยก็ได้เช่นเดียวกัน
ชื่อของหนัง : Windfall
ประเภท : ระทึกขวัญ , อินดี้
กำกับการแสดงโดย : ชาร์ลี แมคโดเวลล์
นำแสดงโดย : เจสัน ซีเกล
ภาษาในการรับชม : เสียงพากย์ : ไทย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น | คำบรรยาย : ไทย, อังกฤษ และจีน
ช่องทางการรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ : Netflix (18 มีนาคม 2565)
เวลาในการรับชม : 1 ชั่วโมง 32 นาที
คะแนน : 6/10