รีวิว The Amazing Spider-Man 2
นี่เป็นแนวคิดที่ไม่ธรรมดา: เป็นไปได้ไหมที่จะสร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่และนำเอาซีเควนซ์แอ็กชันทั้งหมดออกมา? คุณรู้ไหม แค่มุ่งเน้นไปที่ความขัดแย้งของตัวละคร วิธีที่เขาพยายามดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความรับผิดชอบสาธารณะกับความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขา มันจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง อาจจะ 80 นาที แต่มันจะจับใจได้, เคลื่อนไหว, แม้กระทั่งบำรุง ดูได้ที่
Spider-Man ที่ติดซันแดนซ์ มัมเบิลคอร์ สไปเดอร์แมน.
ต้องอดทนกับ “The Amazing Spider-Man 2” นั่นคือหนังที่ผมอยากจะดูมากกว่า ผมรู้ว่านี่เป็นข้อเสนอที่ไร้สาระ ภาพยนตร์ยอดนิยมภาคฤดูร้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการ์ตูนเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ชมต่างประเทศ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ พวกเขาเป็นผลิตภัณฑ์ พวกเขาเป็นชีสเบอร์เกอร์อาหารจานด่วนแบบไดรฟ์ทรูในรูปแบบภาพยนตร์ เห็นพวกเขาใน IMAX และมันเหมือนกับการเพิ่มขนาดคำสั่งซื้อของคุณด้วยหยิกทอดที่ด้านข้าง
การติดตามผลของผู้กำกับ Marc Webb ในเรื่อง “The Amazing Spider-Man” ที่เพียงพอของเขาจากปี 2012 รู้สึกเหมือนเพิ่งถูกถอดออกจากสายการผลิต ช่วงเวลาแห่งการติดต่อและอารมณ์ที่จดจำได้เป็นระยะๆ เป็นช่วงเวลาเดียวในตอนล่าสุดของเว็บสลิงเกอร์ที่พุ่งทะยานอย่างแท้จริง ผมต้องการเวอร์ชัน “(500) Days of Summer” ของเวบบ์เรื่องซูเปอร์ฮีโร่วัยรุ่น และมันมีอยู่ที่นี่ แต่จะมีเพียงแสงริบหรี่เท่านั้น
แทนที่จะทำงานร่วมกับนักเขียนบทผู้มากประสบการณ์อย่าง Alex Kurtzman และ Roberto Orci (“Star Trek,” “Transformers”) และ Jeff Pinkner (“Alias” ทางทีวี “Lost”) เว็บบ์ให้ภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องหนาแน่น บางครั้งก็สับสนไปด้วย ชิ้นใหญ่และมันวาวจนแทบหมดความรู้สึกเชื่อมโยง สไปดี้เหวี่ยงและโฉบผ่านท้องฟ้า ร่อนไปมาระหว่างอาคารสูงและรอบหอคอยสูงชัน ในตอนแรกมันค่อนข้างจะหวิวๆ แต่ในที่สุดมันก็ซ้ำซากและเหนื่อยหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสิ่งต่างๆ มากมายเข้ามาเติมเต็มสิ่งดีๆ
เมื่อคุณคิดว่ามันจบลงแล้ว ก็ยังมีการต่อสู้และวายร้ายอีกราย ไคลแม็กซ์และบทสรุปอื่น ความพยายามทั้งหมดดำเนินต่อไป และความตื่นเต้นชั่วขณะใด ๆ ที่คุณอาจได้รับได้ผ่านพ้นไปนานแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นมากมายที่นี่ แต่มีน้อยมากที่น่าสนใจอย่างแท้จริง รีวิวหนังฝรั่ง
ในทางกลับกัน แม้ว่า “The Amazing Spider-Man 2” จะแข็งแกร่งที่สุดเมื่ออยู่ในที่ที่เงียบที่สุดและใกล้ชิดที่สุด การแลกเปลี่ยนอย่างเปิดเผยระหว่างปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ของแอนดรูว์ การ์ฟิลด์กับแซลลี่ ฟิลด์ในฐานะป้าเมย์ของปีเตอร์นั้นเจ็บปวดมาก มันทำให้ผมอยากจะร้องไห้ และทุกฉากระหว่างการ์ฟิลด์และเอ็มมา สโตนในฐานะเกวน สเตซี่ แฟนสาวที่เฉียบคมและมั่นใจของปีเตอร์ก็กระโจนออกจากหน้าจอ นี่คือเอฟเฟกต์ 3 มิติที่แท้จริง ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ที่สร้างขึ้นโดยประกายไฟอันเจิดจรัสระหว่างนักแสดงสองคนนี้
คราวนี้การ์ฟิลด์จะเบาลงและขี้เล่นมากขึ้นเล็กน้อย แต่การต่อสู้ภายในของเขาเกี่ยวกับการใช้พลังอราคโนทาสติกของเขา และผลที่ใหญ่กว่านั้น ยังคงชัดเจน สิ่งที่ทำให้การแสดงของเขาใน “Amazing Spider-Man” ภาคแรกทำงานได้ดี และสิ่งที่ทำให้การแสดงของเขาแตกต่างไปจากวิธีที่ Tobey Maguire เล่นเป็น Peter Parker ในไตรภาคเรื่อง “Spider-Man” ของ Sam Raimi คือความดื้อรั้นโดยกำเนิดของเขา Peter ของ Garfield มีอาการกระสับกระส่ายและกระสับกระส่ายอยู่ในตัวเขาแล้ว รอยบ่าของเขาสำหรับสถานะคนนอก ซึ่งทำให้การเลือกของเขากลายเป็นนักสู้อาชญากรรมในศาลเตี้ยนั้นสมเหตุสมผลกว่า
ที่นี่ การ์ฟิลด์เป็นซูเปอร์ฮีโร่จอมเจ้าเล่ห์ในตำนานของมาร์เวล เขาได้กลายเป็น Spider-Man เพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของคุณ ทว่าแท็กไลน์บนโปสเตอร์และป้ายโฆษณาของภาพยนตร์กล่าวว่า: “การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเริ่มต้นขึ้น” กี่ครั้งแล้วที่เขาจะต่อสู้ครั้งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุด? เรายังไม่ครอบคลุมอาณาเขตนี้มากนักหรือ
รีวิว The Amazing Spider-Man 2
เมื่อคุณคิดว่ามันจบลงแล้ว ก็ยังมีการต่อสู้และวายร้ายอีกราย ไคลแม็กซ์และบทสรุปอื่น ความพยายามทั้งหมดดำเนินต่อไป และความตื่นเต้นชั่วขณะใด ๆ ที่คุณอาจได้รับได้ผ่านพ้นไปนานแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นมากมายที่นี่ แต่มีน้อยมากที่น่าสนใจอย่างแท้จริง ไปดูกันเลยที่
อีกครั้งที่ปีเตอร์กลับมาติดต่อกับเพื่อนสมัยเด็ก แฮร์รี่ ออสบอร์น (แสดงในภาพยนตร์ของ Raimi โดย James Franco เล่นโดย Dane DeHaan จอมเจ้าเล่ห์) พร้อมผลลัพธ์ที่เลวร้าย อดีตและอนาคตของปีเตอร์และแฮร์รี่นั้นเชื่อมโยงกันอย่างแน่นแฟ้นเหมือนกับที่พ่อของพวกเขาเป็น แน่นอนว่าพ่อของแฮร์รี่คือนอร์แมน ออสบอร์น ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอุตสาหกรรมจอมวางแผน หัวหน้าออสคอร์ป (แสดงในภาพยนตร์ของ Raimi โดยวิลเลม เดโฟ รับบทโดยคริส คูเปอร์) ซึ่งพ่อของปีเตอร์เป็นนักวิจัยชั้นนำ
ตึกระฟ้าแมนฮัตตันขนาดใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่ของ Oscorp แสดงถึงสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือและซ้ำซ้อนเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร นอกจากนี้ยังเป็นสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่ปลอดภัย ดูเหมือนว่าวิศวกร Max Dillon ชะตากรรมของตัวละครของ Jamie Foxx จะเห็นได้ชัดเจน
แม็กซ์เป็นสตอล์กเกอร์เนิร์ดที่หมกมุ่นอยู่กับสไปเดอร์-แมนและหดหู่จากการรับรู้เพียงเล็กน้อย (ในกรณีที่คุณสงสัยว่าการเล่น dweeb ขัดสนไม่เหมาะที่สุดสำหรับความสามารถพิเศษที่สำคัญของ Foxx) ในขณะที่ทำงานดึกในคืนหนึ่ง แม็กซ์ตกลงไปในถังที่มีปลาไหลไฟฟ้าและกลายเป็นอิเล็กโทรจอมวายร้ายที่มีไฟฟ้าแรงสูง ผิวสีซีด เสื้อคลุมมีฮู้ด และสายฟ้าฟาดจากนิ้วของเขา อิเล็กโทรอย่างสนุกสนาน (และทำให้เสียสมาธิ)
คล้ายกับ “Star Wars” uber-villain Darth Sidious
ความรู้สึกหลังดู
ดังนั้นปีเตอร์จึงต้องจัดการกับอิเล็กโทรด เช่นเดียวกับพลังแห่งความมืดและการทำลายล้างที่แฮร์รี่จะกลายเป็น ยังมีคนเลวคนที่สามรออยู่ในรูปแบบของ Paul Giamatti ที่กำลังซุ่มซ่ามอยู่ในมิดทาวน์ด้วยแรดโลหะขนาดยักษ์ลุกขึ้น เขาใช้ชื่อแรดในกรณีที่คุณไม่คุ้นเคยกับศีล และเขาก็น่ารัก นอกจากนี้เขายังปรากฏตัวขึ้นในนาทีสุดท้าย การรวมตัวของเขารู้สึกเหมือนเป็นการหยอกล้อในตอนต่อไป (ซึ่งแน่นอนว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้)
แต่การต่อสู้ที่สำคัญกว่าเกิดขึ้นภายในตัวของปีเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการไล่ตามความรักที่เขามีต่อเกวน โดยที่รู้ดีว่าเป็นความปรารถนาของพ่อตำรวจผู้ล่วงลับของเธอ (เดนิส เลียรี) ที่เขาอยู่ห่างจากเธอและปกป้องเธอให้พ้นจากความโกลาหลของเขา เกวนเป็นตัวละครที่ฉลาดและน่าสนใจที่สุดที่นี่ ด้วยความมั่นใจและเป็นอิสระ เธอเพิ่งจบการศึกษาในฐานะนักปราชญ์ในชั้นเรียนมัธยมปลายของเธอ และเธอกำลังเดินทางไปลอนดอนเพื่อเรียนที่อ็อกซ์ฟอร์ด
หินที่น่ารักอย่างบ้าคลั่งทำให้เธอเป็นสมองที่เจ๋งที่สุดและมีสไตล์ที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ บางทีในงบประมาณต่ำ Spidey อินดี้ที่ผมจินตนาการสามารถเล่าเรื่องได้จากมุมมองของเกวน
ผมรู้ว่ามีเหตุผลสำหรับโฆษณาทางทีวีทั้งหมดสำหรับที่ทำการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ที่มี Spider-Man และ Stan Lee; Spidey ทำงานไปรษณีย์ในภาคต่อของ Andrew Garfield อย่างแน่นอน แอ็กชันบินได้สูงและถ้ามันไม่อยู่ด้านบนสุด ผมคิดว่าแฟน ๆ คงไม่ประทับใจเท่าไหร่ ผมไม่ได้ติดตาม Spidey มากนักในการ์ตูน
แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาเป็นคนคงกระพันเหมือน Superman เมื่อพิจารณาจากการวางที่เขาหยิบมาจาก Electro (Jamie Foxx) และ Green Goblin (Dane DeHaan) ผมรู้ถึงความแข็งแกร่งของแมงมุมตามสัดส่วน แต่การได้เห็น Spider-Man ชนเข้ากับอาคารและทางเท้าในแบบที่เขาทำ น่าแปลกใจที่เขากลับมาหามันอีกเรื่อยๆ
แฟน ๆ ของ Peter Parker ยังรู้สึกไม่สบายใจในความสัมพันธ์ของเขากับ Gwen Stacy (Emma Stone) การ์ฟิลด์แสดงอารมณ์มากขึ้นในการติดตาม ASM1 นี้ แต่เดี๋ยวก่อน มีผู้เล่นฟุตบอลวิทยาลัยจำนวนมากร้องไห้ในสัปดาห์นี้ระหว่างการคัดเลือก NFL ดังนั้นจึงไปตามเวลา
ครึ่งทางของหนังเรื่องนี้ ความคิดของผมหวนกลับไปสู่เรื่องราวในหนังสือการ์ตูนเรื่องการเสียชีวิตของเกวน สเตซี่ ดังนั้นผมจึงเริ่มสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตอนจบจะบดขยี้ทุกคนที่ไม่คาดคิดอย่างแน่นอน
ตามปกติแล้ว เป็นเรื่องดีที่ได้เห็น Stan Lee ผู้ร่วมสร้าง Spider-Man (ร่วมกับ Steve Ditko) จี้อีกครั้งในภาพยนตร์ของ Marvel เขาปรากฏตัวที่โรงเรียนมัธยมปลายตอนต้นในภาพ และเป็นผู้ชายที่พูดว่า “เยี่ยมมาก” ในโฆษณา
