รีวิว Happy Together

และแล้วเราก็เดินทางมาถึง The World of Wong Kar Wai’s Retrospective เรื่องที่ 2 กับ Happy Together หนังหว่องกาไวกับรางวัลเกียรติยศอย่างผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 1997 ปีเดียวกับเหตุการณ์คืนเกาะฮ่องกงจากอังกฤษสู่จีนแผ่นดินใหญ่และจากความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนผ่านจากโลกเสรีแบบอังกฤษสู่ฮ่องกงภายใต้การนับวันรอเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ก็ทำให้ Happy Together กลายเป็นบทบันทึกการเมืองระดับปัจเจกที่แฝงอยู่ในเนื้อหาหนัง LGBTQ เรื่องนี้อย่างล้ำลึก

ณ อาร์เจนตินาในฤดูหนาวปี 1996 ไหล่เยิ่วไฝ่ว์ (เหลียงเฉาเหว่ย) กับ ห่อโปวเหว่ง (เลสลี จาง) สองคู่รักชายชาวฮ่องกงตั้งเป้าหมายให้พวกเขาได้ไปเยือนน้ำตกอีกวาซูด้วยกันซักครั้ง แต่ในระหว่างทางที่พวกเขาร่วมเดินก็ต้องผจญทั้งความรัก ความใคร่ ความผิดหวังในความสัมพันธ์ดั่งการเล่นชักเย่อที่พวกเขาเฝ้าแต่ดึงดันและเหนี่ยวรั้งความรู้สึกของกันและกันแต่สายสัมพันธ์ของพวกเขาจะแข็งแรงและทนทานได้แค่ไหนในวันที่อาเจิน (จางเจิ้น) นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเข้ามาในชีวิตของไหล่เยิ่วไฝ่ว์

 

A Story About Reunion หนึ่งประโยคสุดกำกวมบนโปสเตอร์ของหนังที่ชวนให้เรามองภาพชายสองคนกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงบนดาดฟ้าและเรื่องย่อแสนสั้นที่ค่ายหนังใช้โฆษณาเคยกลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างผมกับตัวหนังตอนออกฉายมาแล้ว แต่พอได้ดูจริง ๆ ในแต่ละครั้งการมองเรื่องราวและสัมผัสหัวใจของเรื่องราวต่างกันสิ้นเชิงเลยทีเดียว

โดยรอบแรกที่ดูจาก DVD สมองของผมได้แต่ติดตามเรื่องราวรักร้าวลึกของคู่รักชายในต่างแดนด้วยสายตาของคนดูทั่วไปที่ทั้งตกตะลึงในฉากเลิฟซีนต้นเรื่องอันดุเดือดและความคอนทราสต์ของภาพที่สื่อบันทึกดิจิทัลในช่วงปฐมวัยทำได้เพียงให้สีเขียว ๆ ฟ้า ๆ และภาพที่มีแต่เกรนขึ้นเต็มไปหมด จนมองเรื่องราวที่คลุมเครืออยู่แล้วได้ยากเกินจะเห็นรายละเอียดที่ผู้กำกับตั้งใจถ่ายทอด

แต่จากการชมภาพยนตร์ฉบับบูรณะใหม่รอบนี้ในโรงภาพยนตร์อาจพูดได้ว่านี่คือฉบับที่ควรชมที่สุดแล้วจริง ๆ และที่ไม่ผิดหวังเลยคือการที่ไฟล์มาสเตอร์ของหนังเป็น 4K และผ่านการปรับปรุงความคมชัดและคอนทราสต์ภาพให้ได้อย่างที่ผู้กำกับต้องการทำให้เราติดตามและรับสารรวมถึงอารมณ์ของหนังได้ชัดเจนและเปี่ยมอารมณ์มากขึ้น

หลายฉากหลายตอนต้องยอมรับเลยว่าเมื่อถูกฉายฉบับที่ภาพและเสียงสมบูรณ์แบบขนาดนี้มันพาอารมณ์เราดำดิ่งและกระเจิงไปกับชะตากรรมของพวกเขาได้อย่างง่ายดายรวมถึงรายละเอียดเนื้อเรื่องที่พลาดไปครั้งแรกที่ได้ชมโดยเฉพาะการกำหนดโทนสีของหนังในช่วงที่ ไหลเยิ่วไฝ่ว์ กับ ห่อโปวเหว่ง คบกันหนังเลือกจะเอาโทนสีอุ่นออกจากงานภาพเหลือไว้เพียงโทนสีแบบ “หนาวนีออน”

เพราะความรักของทั้งคู่คึอการทำร้ายความรู้สึกของกันและกัน และนั่นทำให้การ reunion หรือกลับมารวมตัวกันอีกครั้งคือการกลับมาเพื่อตักตวงความอบอุ่นจากมรสุมชีวิตอันหนาวเหน็บอีกครั้ง ซึ่งการที่หนังออกฉายปี 1997 มันย่อมฉายภาพเปรียบเปรยไปถึงการที่ฮ่องกงกลับไปรวมกับจีนอีกครั้งด้วยที่เวลา 99 ปีที่เหินห่างคงพูดไม่ได้เต็มปากว่าการรวมชาติครั้งนี้คือ “ความรัก” ไม่ต่างจากคู่ของไหลเยิ่วไฝ่ว์กับห่อโปวเหว่งหรอกจริงไหม ?

ส่วนโทนอบอุ่นจะมาให้เห็นพร้อมการมาถึงของอาเจินหนุ่มไต้หวันที่มาทำงานครัวกับไหลเยิ่วไฝ่ว์ก็ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งฤดูที่เปลี่ยนจากฤดูหนาวมาเป็นฤดูร้อนพร้อมภาพที่เน้นแสงพระอาทิตย์จนถึงขั้นปล่อยให้แสงกระทบเลนส์กล้องเกิดแฟลร์เพื่อแสดงถึงความอบอุ่นจากแดดแรกของฤดูร้อนและการเริ่มใหม่ของหัวใจเหงา ๆ ของเขา

และแน่นอนการที่ฉากจบหนังจะไปสรุปเหตุการณ์ที่ตลาดกลางคืนที่ไต้หวัน (ซึ่งก็มาพร้อมสีสันจากไฟประดับร้าน) พร้อมประโยคที่ว่า “ผมไม่แปลกใจว่าทำไมคนอย่างอาเจินถึงระหกระเหินไปได้ไกลแสนไกลเพราะสุดท้ายก็มีบ้านให้เขากลับมาได้อย่างอุ่นใจเสมอ” ย่อมไม่ใช่แค่การพูดถึงความสัมพันธ์ของไหลเยิ่วไฝ่ว์เท่านั้นแต่มันอาจพูดถึงไต้หวันในฐานะยูโทเปียของชาวจีนเสรีนิยมก็เป็นได้

ท้ายสุดคงต้องบอกว่านอกจากองค์ประกอบทางศิลปะภาพยนตร์ที่หว่องกาไวบรรจงถักทอห้วงคำนึงแห่ง “ในนิยามความเหงาคนเราล้วนไม่ต่างกัน” แล้ว การได้กลับมาดูการแสดงชวนใจสลายของเหลียงเฉาเหว่ยที่ทุ่มหัวใจทั้งบทเลิฟซีนและดรามาสุดลึกแล้ว การได้เห็น เลสลี จาง สุดยอดนักแสดงชาวฮ่องกงผู้จากไปบนจออีกครั้งยังคงทำให้เราต้องเอ่ยคำว่า “น่าเสียดาย” ได้ก้องหัวใจไม่ต่างจากตอนรับรู้เรื่องราวการเสียชีวิตของเขาครั้งแรกเลยทีเดียว

รีวิว Happy Together

ช่วงนี้ ทางสหมงคลฟิล์มฯ เขาเอาภาพยนตร์สุดขึ้นหิ้งของผู้กำกับชื่อดังอย่าง หว่องกาไว เข้ามาฉายในเมืองไทยกันถึง 5 เรื่อง ทั้งหมดล้วนเป็นหนังเก่าที่นำมารีมาสเตอร์ใหม่ให้เป็นดิจิตอลและชัดระดับ 4K หลังเคยได้ลิ้มรสและรู้จักกับความสัมพันธ์ของสองคนเหงากันไปแล้วใน

‘In the Mood For Love’ วันนี้ ได้เวลาเดินเข้าไปหาอีกหนึ่งเรื่อง ‘Happy Together’ ชื่อหลายคนเคยคุ้น เป็นหนังเอเชียที่บอกเล่าเรื่องราวในแนวๆ LGBTQ เรื่องแรกในยุค 90’s เลย ‘โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา’ ชื่อไทยที่สุดโรแมนติกของเขาแล้วล่ะ

งานนี้ มีนักแสดงนำเป็นดาราซูเปอร์สตาร์ของเอเชียในสมัยนั้นที่ตกปากรับคำหรือตกกระไดพลอยโจนก็ไม่ทราบได้ เขาคือ เหลียงเฉาเหว่ย และ เลสลี จาง ที่ต่างก็มาสวมบทบาทของชายรักชายในหนังรักเหงาๆ ของคนสองคนในเมืองบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา

ดั้นด้นไปถ่ายทำไกลถึงขนาดนั้น และกลายเป็นหนังที่ผู้คนล้วนจดจำถือว่าคุ้มค่านะ

มันเป็นเรื่องราวของผู้ชายสองคนบนแผ่นดินอาร์เจนตินาครับท่านผู้อ่าน เรื่องราวของหนึ่งชาย ไหลเยี่ยฟา (เหลียงเฉาเหว่ย จากหนัง ‘In the Mood For Love’ และ ‘Infernal Affairs’) กับอีกหนึ่งชาย โหเป่าหวัง (เลสลี จาง จากหนัง ‘Days of Being Wild’ และ Farewell My Concubine) คู่รักชายหนุ่ม 2 คนที่เดินทางมายังอาร์เจนตินาเพื่อหวังจะได้ดูน้ำตกอีกวาซูด้วยกัน

แต่ทว่า…

นับวันที่อยู่ด้วยกันความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ก็ยิ่งแย่ลง ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน มันมีเรื่องทะเลาะให้ร้าวรานใจ แม้ระหว่างทางพวกเขาจะมีโมเมนต์ดีๆ ต่อกันอยู่ด้วยก็ตาม

กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งรัก ทั้งเกลียด ทั้งอุ่นใจ และทำให้เสียน้ำตา แม้จะมีช่วงที่ต้องห่างเหินกันไป แต่ทั้งคู่ก็มีเหตุให้ต้องโคจรกลับมาพบเจอกันเสมอ และลึกๆ ในใจของแต่ละฝ่ายต่างรู้ดีว่าความสัมพันธ์แบบนี้เป็นความรักที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจ

แต่มันจะเป็นเช่นนั้นได้ตลอดไปหรือไม่ ในเมื่อมีใครอีกคนกำลังเข้ามาทำให้ความรู้สึกที่แต่ละคนเคยมีไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ดูหนังฟรี

รีวิว Happy Together

ความรู้สึกหลังดู

เอาเข้าจริงๆ เราต่างเคยได้ยินได้เห็นเรื่องราวและภาพของหนังจากหว่องกาไวกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แม้แต่เคยซื้อแผ่นเก็บไว้ในบ้าน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้โอกาสหยิบมันออกมาดูสักที จวบจนวันนี้ที่หนังของหว่องถูกนำเข้ามาฉายใหม่ในรูปแบบ 4K ฉายในโรงก็เลยเป็นโอกาสดีดีที่จะพาตัวเองกลับไปพบกับหนังในตำนานและผู้กำกับชื่อก้องที่กลายเป็นแบบอย่างของผู้กำกับหลายๆ คน

ครั้งนี้เขายกกองไปถ่ายทำกันถึงประเทศอาร์เจนตินา

ความห่างไกลจากบ้านเกิด อาจจะทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทำยาวนาน เพราะไม่อาจจะถ่ายแล้วกลับพักที่บ้านได้ นึกอะไรออกค่อยมาถ่ายใหม่ แถมยังหยิบมาจากหนังสือ หนังมีเส้นเรื่องที่แน่นอน ด้วยข้อจำกัดด้านงบหรืออะไรก็แล้วแต่ หากจุดประสงค์ของการมาอาร์เจนตินาของคู่รักคู่นี้กลับเป็นการมาเยือนน้ำตกอีกวาซู

น้ำตกที่มีทั้งความอัศจรรย์และความน่ากลัวผสมกัน ทั้งหนังก็ยังหยิบเอาภาพเคลื่อนไหวของน้ำตาแห่งนั้นมาปล่อยยาวๆ ให้ดูกันถึงสองครั้งสองครา

งานด้านภาพที่โดดเด่น ดนตรีประกอบคือแรงผลัก
ผลงานการกำกับของหว่องกาไวนั้นมักจะมาควบคู่กับผลงานด้านภาพของ Christopher Doyle ภาพที่จัดวางสวยงามเฉพาะตัว การจัดแสงให้ทึมๆ เหงาๆ และการปรับสีให้อมเหลือง ผสมกับเพลงประกอบ ทำให้ โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา

กลายเป็นหนังที่ใครหลายคนอดเอ่ยปากชมไม่ได้ เหมือนเอาศิลปะมาจัดวางในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ยิ่งเรื่องนี้ ยิ่งได้เห็นกลวิธีการถ่ายภาพที่หลากหลาย มีช็อตเล็กช็อตน้อยสลับ มีการปรับความเร็วภาพเป็นกึ่งสโลว์บ้างหรือปรับสปีดให้เร็วขึ้นบ้างไรบ้าง

ดนตรีประกอบก็เรียกได้ว่าโดดเด่น ด้วยการดึงเอาดนตรีในสไตล์ละตินอเมริกาเข้ามาผสม ทั้งยังมีความหลากหลายและแปรเปลี่ยนไปตามเรื่องราว

ขณะที่เรื่องราวเดินไปอย่างไม่กระโตกกระตาก ค่อนข้างนิ่ง จุดนี้อาจจะทำให้หลายคนที่ไม่ชอบแนวทางของหว่องกาไวเผลอผล็อยหลับใหลไปเสียก่อนจบได้

ดูหนังใหม่

รีวิว Happy Together

เลสลี จาง และ เหลียงเฉาเหว่ย
ในด้านของสองนักแสดงนำที่เป็นถึงซูเปอร์สตาร์ที่ถูกชักชวนให้มาเล่น ทั้ง เลสลี จาง และ เหลียงเฉาเหว่ย ล้วนทุ่มสุดตัวจริงๆ เล่นเป็นชายรักชายที่กอดจูบดูดดื่มถึงพริกถึงขิงจนเชื่อว่าพวกเขาเป็นอย่างนั้นจริง ต้องยอมรับว่าเขากล้าหาญมากที่เล่นบทนี้ในยามที่สังคมยังไม่ได้เปิดมากเท่าทุกวันนี้

การเป็นคนเอเชียไปใช้ชีวิตอยู่ในอาร์เจนตินาที่มีคนจีนอยู่อาศัยน้อยมากก็นับได้ว่าเป็นคนนอกพอดูอยู่แล้ว ยิ่งพวกเขาเป็นกลุ่มชายรักชายเข้าไปด้วยอีก จึงเป็นอะไรที่แปลกแยกออกไปจากสังคมตรงนั้น

แต่เอาเข้าจริง หนังไม่ได้โฟกัสไปที่เรื่องของชายรักชายนักหรอก ประเด็นสำคัญมันคือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนเสียมากกว่า

มันเป็นเรื่องราวของคนสองคนที่รักกัน (หรืออาจจะคิดไปเองว่ารักกัน) เราได้เห็นการกระทำของคนหนึ่งที่ยินดีทำให้ทุกอย่าง กับอีกคนที่พยายามร้องขอในหลายสิ่งหลายอย่าง จนเริ่มจะดูไม่ออกแล้วว่า การคบกันของทั้งสองเป็นความสุขจริงๆ ของพวกเขาหรือเปล่า

รีวิว Happy Together

บางสิ่งที่ยึดโยง…ความสัมพันธ์
‘น้ำตก’ กลายเป็นสัญญะอันสำคัญในหนังเรื่องนี้ เป็นทั้งจุดหมายที่ทั้งสองอยากจะไปเยือนและพยายามแล้วแต่หลงทางและไปไม่ถึงสักที ความคลั่งไคล้ของหนึ่งในนั้นที่ถึงขนาดซื้อโคมไฟรูปน้ำตกและพกไปทุกที่ที่ย้ายไป เหมือนเป็นสิ่งที่ยึดโยงให้คนทั้งสองยังต้องกลับมาเจอกันอยู่ คบกันอยู่ แม้จะอยู่แล้วไม่เป็นสุขเลยก็ตาม

‘ประภาคาร’ กลับกลายมาเป็นสัญญะสิ่งใหม่ในชีวิตของเขา กับคนใหม่ที่เข้ามาในชีวิตของเขา ประภาคารอาจเป็นสิ่งใหม่ที่ยึดโยงเขาก็ได้เฉกเช่นกัน

มันเป็นหนังที่สวยและเหงาในเวลาเดียวกัน ในห้วงเวลาที่หนังจบลง เหมือนหนังยังคงทำงานในหัวคนดูต่อ พวกเขายังคงครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไปอีกสักพัก

ในหัวพวกเขายังคงเหงาและเคว้งคว้างไม่ยอมจบไปตามหนังเลย

ภาพยนตร์เรื่อง: Happy Together / โลกนี้รักใครไม่ได้นอกจากเขา
ผู้กำกับภาพยนตร์: Wong Kar-Wai/หว่องกาไว
ผู้เขียนบท: Manuel Puig (Novel), Wong Kar-Wai/หว่องกาไว
นักแสดงนำ: Leslie Cheung/เลสลี จาง, Tony Leung/Tony Chiu-Wai Leung/เหลียงเฉาเหว่ย, Chang Chen/จางเจิ้น
ดนตรีประกอบ: Danny Chung
ความยาว: 96 นาที
ปี: 1997
แนว/ประเภท: Comedy, Romance
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ประเทศ: ฮ่องกง
เรท: ไทย/-, MPAA/-
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 12 พฤศจิกายน 2020 (4K Remastered Version)
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Block 2 Pictures, Jet Tone Production, Prénom H Co. Ltd.

 รีวิวหนังออนไลน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *